แม่ฮ่องสอน ผ่อนคลาย โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

จากแนวนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้นำคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2561

ที่ผ่านมา ซึ่งต้องการสร้างโมเดลเรื่องการทำให้คนอยู่กับป่าอย่างมีความสุข อีกทั้งอาศัยความสมบูรณ์ของธรรมชาติและศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่มีอยู่เป็นทุนเดิมนำมาช่วยแก้ปัญหาความยากจน โดยตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ประชาชนในจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นภายใน 5 ปี ซึ่งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้นำแนวนโยบายดังกล่าวมาวางแผนการทำงานอย่างเร่งด่วน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักด้านการท่องเที่ยวจึงได้วางกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อสร้างการรับรู้ถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีโดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึง ฤดูหนาวซึ่งมีระยะเวลาสั้นเพียง 3 – 4 เดือนเท่านั้น จึงทำให้เกิดการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยวทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว “แม่ฮ่องสอน” มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายและมีความน่าสนใจมากมาย
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีความได้เปรียบด้วยความสมบูรณ์ของป่าไม้และวัฒนธรรม ล้อมรอบด้วยเทือกเขาและสายหมอก อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีธรรมชาติและวิถีชีวิตที่เอื้ออำนวยให้ผู้อาศัยและผู้มาเยือนมีสุขภาพดี จึงเป็นอีกเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ททท. ได้นำความพิเศษของจังหวัดแม่ฮ่องสอนดังกล่าว นั่นคือ หากได้มาสัมผัสจังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้วจะ “สุขภาพแข็งแรง” ได้พักผ่อนซ่อมแซมร่างกายและกำลังใจส่วนที่สึกหลอ ด้วยแนวคิด “แม่ฮ่องสอนผ่อนคลาย” หรือ “Relaxing Maehongson”

พร้อมทั้งขยายภาพจำ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้กว้างและลึกซึ้งมากขึ้น กับ 5 อา ได้แก่ อากาศ  อาหาร  อาราม  อารมณ์ดี และ อายุวัฒนะ
                อากาศ หมายรวมถึงธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีพื้นที่ป่าไม้มากมายและภูมิประเทศซึ่งเป็นเทือกเขา จึงทำให้ อากาศเย็นสบาย  อีกทั้งยังเป็นแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของไทย อาทิ น้ำพุร้อนไทรงาม น้ำพุร้อน แม่อุลอง น้ำพุร้อนท่าปาย บ่อพุน้ำร้อนผาบ่อง อันมีอุณหภูมิ ที่เหมาะสมสำหรับร่างกายคือประมาณ 38-40 องศา เซลเซียส หากได้ลงไปแช่แล้ว จะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่เกิดจากความเครียดจากการทำงาน กระตุ้นการไหลเวียนของกระแสเลือด อีกทั้งยังช่วยขับสิ่งอุดตันที่อยู่ตามผิวหนังทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้นอีกด้วย

อาหาร ชาวแม่ฮ่องสอนส่วนหนึ่งมีเชื้อสายไทใหญ่ จึงมีอาหารไทใหญ่ปรากฏให้เห็นและให้ได้ลิ้มลองมากมาย ทั้งอาหารคาวหวานจะปรุงขึ้นจากวัตถุดิบ ท้องถิ่นทั้งสิ้น แต่ที่น่าสนใจและอยากจะแนะนำคืออาหารว่างประเภท “ถั่ว” ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ได้รับประทานแล้วจะติดใจ เรียกได้ว่า “หยุดไม่อยู่” อาทิ ถั่วลายเสือ  ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วกาลาเเป ถั่วแปหล่อ ถั่วแปยี นอกจากนี้ ยังมี งาดำ งาขาว ข้าวโพดคั่ว (ป็อปคอร์นไทใหญ่) ชาวแม่ฮ่องสอนจะทำให้สุกด้วยการคั่วโดยไม่ปรุงรสใดๆ จึงดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก
                อาราม ด้วยความที่ผู้คนมีเชื้อสายชาวไทใหญ่ จึงมีศิลปวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์อย่างชัดเจน ทั้งอาคารของวัดวาอารามต่างๆ ศิลปะการสร้างพระพุทธรูป อาทิ การสร้างสิงโตคู่หน้าวัด หลังคาวิหารที่มีหลายชั้นลดหลั่นกันลงมา ลายฉลุที่เชิงชาย พระพุทธรูปทรงเครื่องศิลปะไทใหญ่ เป็นต้น ยังรวมไปถึงงานประเพณีต่างๆ เช่น ประเพณี ปอยส่างลอง หรือการบวชลูกแก้ว (บวชเณร) ซึ่งจัดในช่วงต้นเดือนเมษายน ประเพณีจองพารา ในช่วงออกพรรษา อันเป็นประเพณีที่เปี่ยมไปด้วยศรัทธาและศาสตร์แห่งศิลปะไทใหญ่ไว้มากมาย เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่น่ามาสัมผัส
อารมณ์ดี นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสได้ถึงความอารมณ์ดีและใจเย็นของชาวแม่ฮ่องสอน ทั้งผู้คนในตัวเมืองในชุมชนต่างๆ ทำให้ผู้มาเยือนมีความอบอุ่นใจจากการเดินทางมาท่องเที่ยว รอยยิ้มและความเอื้ออารีจากเจ้าบ้าน จึงเป็นภาพที่น่าประทับใจและสามารถพบเห็นได้ง่ายดาย
    อายุวัฒนะ  เมื่อรวมแง่มุมของแม่ฮ่องสอนจาก อากาศ อาหาร อารามและอารมณ์ดี จึงทำให้เป็นยาอายุวัฒนะสำหรับชาวแม่ฮ่องสอน รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนก็จะได้รับกลับไปด้วย

ในปัจจุบัน การเดินทางมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอน ค่อนข้างสะดวกสบาย ทั้งทางรถยนต์ ซึ่งเดินทางมาได้จากหลายเส้นทาง หรือเดินทางด้วยเครื่องบิน ก็มีเส้นทางบินตรงโดยสายการบินนกแอร์จากรุงเทพฯ ถึงสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน หรือหากเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ก็สามารถใช้บริการของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ได้ด้วยเช่นกัน
แม่ฮ่องสอนมีแง่มุมให้ได้ค้นหาอีกมากมาย เป็นเมืองที่รวมเสน่ห์แห่งฤดูกาลและวัฒนธรรมไว้อย่างครบถ้วน จึงสามารถเดินทางมาเยือนได้ตลอดทั้งปี สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1672 เพื่อนร่วมทาง