ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 9 - 15 มีนาคม 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | หน้า8 |
เผยแพร่ |
แม้ความมั่นใจการเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 หรือไม่
จะไม่เต็มร้อย
แต่กระนั้น เมื่อเปิดให้จองจดทะเบียนพรรค กระแสในฟาก “อยากเลือกตั้ง” ก็คึกคัก
ถือเป็นภาวะขาขึ้นของกระแส “หย่อนบัตร”
อย่างไรก็ตาม มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่หือไม่อือกับเรื่องนี้
ยังคง “หมกมุ่น” อยู่กับแนวคิด “ไม่เลือกตั้ง” อย่างแน่วแน่
อย่างล่าสุด นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ได้โพสต์เฟซบุ๊กผ่านเพจ Thirachai Phuvanatnaranubala
หนุน “ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ” ที่เสนอทางออกของประเทศไทย
ด้วย “ระบอบราชประชาสมาสัยสังคมธรรมาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
โดยเห็นว่า ถึงแม้ประเทศไทยมีรัฐบาลที่มาจากทั้งการเลือกตั้ง ที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย และรัฐบาลเผด็จการทหาร ที่มาจากการรัฐประหารในยามที่รัฐบาลเลือกตั้งล้มเหลว
เหวี่ยงไปทางซ้ายที เหวี่ยงไปทางขวาที
เหมือนหนีเสือปะจระเข้
แต่ประเทศก็ไม่เห็นสงบสันติสุข เจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข หมดความเหลื่อมล้ำต่ำสูง มีความเป็นธรรม พ้นจากความลำบากยากจนข้นแค้นเลย
ดร.อาทิตย์จึงเสนอว่า
“เรามีชนชาติ มีมรดกวัฒนธรรมความดีงามของชาติ
มีสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่สร้าง หลอมรวม ปกป้อง จรรโลง ประเทศชาติให้มั่นคงยั่งยืนมาตลอดเวลาอันยาวนาน
เราจะไม่ลองคิดนำมรดกอันล้ำค่าของเรามาจรรโลงกอบกู้บ้านเมืองเราบ้างหรือ?
ประเทศไทยน่าจะเป็นสุวรรณภูมิแดนศิวิไลซ์ได้
ด้วยระบอบราชประชาสมาสัยสังคมธรรมาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
– รัฐบาลราชประชาสมาสัย
– รัฐสภาราชประชาสมาสัย
– รัฐธรรมนูญราชประชาสมาสัย
ในระบอบนี้ การเลือกตั้งผู้แทน และผู้บริหารประเทศ จะไม่ใช้วิธีเลือกผู้แทนแบบระบอบประชาธิปไตยดังที่ผ่านมา
แต่อาจจะเปลี่ยนไปเป็นการ “คัดเลือก” บุคคลจากสาขาอาชีพ หรือจากพื้นที่
โดยพิจารณาผลงานของบุคคลนั้นเป็นสำคัญ”
แม้นายธีรชัยออกตัวว่า เราย่อมจะไม่สามารถตัดสินได้ว่าฝ่ายใดถูก ฝ่ายใดผิด
แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ประะทศไทยได้ระหกระเหินในระบอบประชาธิปไตยแบบตะวันตก ผ่านมาเป็นเวลานานมากกว่า 80 ปี
โดยที่ขณะนี้ก็ยังไม่เห็นทางออกสำหรับการปรองดองทางการเมืองที่มั่นใจได้ 100%
จึงควรนำเอาข้อเสนอของ ดร.อาทิตย์ มาพิจารณา
จึงอย่าแปลกใจ ที่จะมีกลุ่มคนเคลื่อนไหว “ไม่เลือกตั้ง”
ออกมาเทกแอ๊กชั่นเป็นระยะๆ
โดยหวังว่า จะมี “ปาฏิหาริย์” เกิดขึ้นสวนกระแส “เราอยากเลือกตั้ง”