ขอแสดงความนับถือ / ฉบับประจำวันที่ 2-8 กุมภาพันธ์ 2561

ขอแสดงความนับถือ

บรรณกร กลั่นขจร กระหน่ำไปรษณียบัตรมาถึง “มติชนสุดสัปดาห์”
สะท้อนภาวะ “อัดอั้น”
ประเด็น “อำนาจ”
อำนาจ ที่บางกลุ่ม บางพวกพยายาม “ยื้อยุดเอาไว้”
พร้อมกับเตือนว่า
อำนาจนั้น ขม ฝาด คอ
อยากมีอำนาจ อย่าขาดคุณธรรม
และการดิ้นรนแสวงหาอำนาจอย่างขุ่นๆ นั้น
ต้องระวัง เพราะปลาตายน้ำขุ่นได้!

คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล อาจจะเคยไชโยโห่ฮิ้ว
ที่สหภาพยุโรป (อียู) มีท่าทีผ่อนคลายต่อ “รัฐประหาร” ในไทยลง
ด้วยการยอมเปิดช่อง “ติดต่อ” กับรัฐบาลจากการยึดอำนาจ
ทำให้เกิดความเชื่อในรัฐบาลและ คสช. ว่า ที่สุดแล้ว “ผลประโยชน์” ของแต่ละประเทศ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ไม่ว่ามหาอำนาจโลกอย่างสหรัฐ หรืออียู
สามารถเปลี่ยนแปลงได้
หากเขามองเห็นประโยชน์ที่จะได้มากกว่ารักษาจุดยืน
นี่จึงอาจนำไปสู่การย่ามใจ รุกคืบไปยัง “เป้าหมาย” ที่ “หวัง” และ “วางไว้”
นั่นคือ “สืบทอดอำนาจต่อไปให้ยาวนาน”
และหนึ่งใน “ยุทธวิธี” ที่ดำเนินมาตามลำดับ คือพยายาม “เลื่อนการเลือกตั้ง” ออกไปให้นานที่สุด
เพื่อความพร้อมของตนเองและแยกสลายฝ่ายตรงข้ามลงให้มากที่สุด
ปฏิบัติการเลื่อนการเลือกตั้ง 90 วัน โดยปาฏิหาริย์แห่งกฎหมาย จึงมิใช่เรื่อง “อะไรกันนักกันหนา”
หากแต่เป็นการวางแผนอย่างมีเป้าหมาย

“ชนัดดา ชินะโยธิน” ที่นำเสนอบทสัมภาษณ์ นักการทูตในประเทศไทย ใน “มติชนสุดสัปดาห์” มาอย่างต่อเนื่อง
ได้พูดกับคุยกับ นายเปียร์ก้า ตาปีโอลา (H.E. Mr.Pirkka Tapiola) เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย
หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติผ่าน พ.ร.ป.การเลือกตั้ง ส.ส. ด้วยการไปเพิ่มเงื่อนไข ให้ผลประกาศใช้ของกฎหมาย ขยายออกไป 90 วันจากการประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา
ทำให้การเลือกตั้ง “ส่อ” ต้องเปลี่ยนจากเดือนพฤศจิกายน 2561 ไปต้นปี 2562 โดยปริยาย
ซึ่งการรุกคืบตรงนี้
หลายคนมองว่า ส่วนหนึ่งมาจากการที่อียู “อ่อนข้อ” ลงให้กับคณะรัฐประหารไทย
อย่างไรก็ตาม นายเปียร์ก้า ตาปีโอลา ได้ย้ำจุดยืนของตนเองว่า
“ข้อกังวลของอียูที่ได้แสดงในขณะนั้นไม่ได้ลบเลือนหายไป”
“…จุดยืนของเราเกี่ยวกับการเลือกตั้งและระยะเวลาของการเลือกตั้งในประเทศไทยได้รับการยอมรับเป็นที่ชัดเจนแล้วในการประชุมคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ.2017…”
คือ
“นายกรัฐมนตรีของไทยได้แสดงประกาศต่อสาธารณชน ในการที่จะจัดการเลือกตั้งทั่วไปไม่เกินเดือนพฤศจิกายนปีนี้”
ดังนั้น ใครที่คิดว่าอียูหลิ่วตาให้คณะรัฐประหาร จะทำอะไรก็ทำได้นั้น
อาจต้องคิดใหม่!
พลิกอ่านโดยพลันหน้า 39-40