น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงกรณีที่ฮิวแมนไรท์วอทช์ออกรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านแรงงานในภาคประมงของไทยว่ายังคงมีการบังคับใช้แรงงานอย่างกว้างขวางว่า ฮิวแมนไรท์วอทช์ได้เผยแพร่รายงานดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่รัฐสภายุโรป โดยนายมนัสวี ศรีโสดาพล เอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์และผู้แทนไทยประจำสหภาพยุโรป(อียู) ได้ไปร่วมรับฟังด้วยและได้ชี้แจงข้อเท็จจริงหลังจากนั้น ทั้งนี้ไทยไม่เห็นด้วยกับรายงานดังกล่าวของฮิวเมนไรท์วอทช์ที่ระบุว่าอียูครให้ใบเหลืองกับไทยต่อไปเพราะเรื่องแรงงาน เนื่องจากการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม(ไอยูยู) มีเป้าหมายส่งเสริมการทำประมงที่ยั่งยืน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องแรงงาน ต้องแยกประเด็นเหล่านี้ให้ชัดเจน

น.ส.บุษฎีกล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาแรงงานในภาคประมงอย่างจริงจัง และได้ออกมาตรการหลายอย่างเพื่อคุ้มครองแรงงานทั้งในด้านกฎหมาย นโยบาย และการบังคับใช้ โดยได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชน องค์กรเอกชน และประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์ด้านแรงงานในภาคประมงเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหลายด้าน ขณะที่รายงานอ้างอิงข้อมูลส่วนใหญ่จากสถานการณ์ในปี 2559 และบางส่วนย้อนหลังไปถึงปี 2555 จึงไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง

น.ส.บุษฎีกล่าวอีกว่า ข้อเสนอแนะของฮิวแมนไรท์วอทช์หลายเรื่องเป็นสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่แล้ว โดยเฉพาะในด้านกฎหมาย ขณะที่การแก้ไขปัญหาแรงงานของไทยก็มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมชัดเจน ไทยขอเรียกร้องให้ฮิวแมนไรท์วอทช์มองสถานการณ์ด้านแรงงานของไทยอย่างสมดุลและปราศจากอคติ โดยไม่นำข้อมูลในอดีตมากล่าวอ้างซ้ำๆ ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดต่อความพยายามแก้ไขปัญหา

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไทยได้เปิดเวทีหารือและทำงานร่วมกับองค์กรภาคประชาสังคมต่างๆ มาโดยตลอด แต่ปัญหาแรงงานเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไข และต้องมีความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลยืนยันความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ ไม่ใช่เฉพาะเพียงในภาคประมงเท่านั้น เราพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะและพร้อมจะทำงานกับทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับมาตรฐานแรงงานในทุกด้านให้สอดคล้องกับหลักสากล

น.ส.บุษฎีกล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีหนังสือถึงนางเฟเดริกา โมเกรินี ผู้แทนระดับสูงของอียูด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง และรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แจ้งความคืบหน้าของการดำเนินการของไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาไอยูยูทั้งในส่วนของการปรับปรุงกฎหมายและปรับปรุงกลไกในการดูแลภาคประมง ที่ผ่านมาไทยได้มีการติดต่อและร่วมมือกับอียูอย่างใกล้ชิด และไทยจะทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเข้มข้นต่อไป