ขอแสดงความนับถือ ฉบับวันที่ 16-22 ก.ย.59

มี จดหมาย ไปรษณียบัตร “ต่างขั้ว” มาถึง “มติชนสุดสัปดาห์”

จงใจไม่มีความเห็น

โยนให้ “ผู้อ่าน” พิจารณาและมีความเห็นเอง

ชอบ เกลียด ฉบับไหน เลือกตามใจชอบ

และนั่น อาจเป็นสะท้อนจุดยืนของตัวเองก็ได้?!?

วันนี้เศร้าใจ

คนไทยชอบ เผด็จการ (เสียแล้ว)

ทำไม ไม่คิดบ้างว่า ที่ไม่พบเผด็จการโกง ก็เพราะไม่อาจตรวจสอบได้

พบนักการเมืองโกง ก็เพราะตรวจสอบได้

หรือว่า ประชาชน หวังอย่างอื่น

ถ้าอย่างนั้น ก็คงเดินไปสู่ความมืด

ไม่ลงชื่อ

บทความที่สุดโต่งไปทางใดทางหนึ่ง

เรี่ยราดไปด้วยอารมณ์ มีอคติ ขาดข้อมูล ที่น่าเชื่อถือ

ไม่ควรมีใน มติชนสุดสัปดาห์

เพราะบทความทำนองนี้มีมากมายอยู่แล้ว ในกองหนังสือที่ขายไม่ออกตามแผง

คนอ่านจะเลือกหาอ่าน เลือกซื้อ ได้เอง

สุดแต่ใครจะชอบแนวไหน อย่างไร

ผมเห็นว่าถ้าเอาบทความสุดโต่งมาลงทั้ง 2 ข้าง ให้คนอ่านเลือกเสพ

จะทำให้สื่อเสื่อมคุณค่า

และนั่นไม่ใช่ความเป็นกลางแน่นอน

ขอบคุณ ที่พิจารณา

แฟนมติชนสุดฯ

 

คําเอ้ย

เห็นเอ็งเขียนใน มติชนสุดสัปดาห์

หลายเรื่อง จะเป็นจะตาย

ซอมบี้บ้าง ดิ้นก็ตาย ไม่มีเสรีภาพ บ้าง

คำเอ้ย ประชาธิปไตยมันมี?

สมัยพ่อแม้ว ของเอ็งเป็น ประชาธิปไตย?

แม้จะเลือกตั้งมา เป็นไง พ่อเอ็ง สั่งลูกทาส หันซ้าย ขวาได้

ยกมือ ชูมือได้ ฯลฯ

แทบไม่มีสมองคิด ไม่ยิ่งกว่า “ซอมบี้”?

คนซอมบี้ ว่าแย่แล้ว สัตว์เด… เป็นซอมบี้ยิ่งแย่กว่า

เขียนอะไรที่ถนัดเถอะ อย่ามา “ด จ ร”

ฟ้า เอ้ย

เห็นเอ็งเขียนใน มติชนสุดสัปดาห์ ชื่นชมคนเสื้อแดง ป่วนชาติแล้วเศร้าอะ

ชม 2 หัวขวด ไอ้ตู่ ไอ้เต้น

โอ้แม่เจ้า อายุปูนนี้ อยากซดควายอ่อนๆ หรือไง

มันมีแต่เป็นทาส ยุคนมาตาย ยุเผาบ้านเมือง ตัวเองเสวยสุข

รับเศษเงิน จากแม้ว ดีจริงๆ ชมเข้าไปนะฟ้า

เดี๋ยวมันก็มาสนองตัณหาแกเองนะ

จะแก่ตายแล้ว ยังหน้ามืด ตามัว ชมคนพวกนี้

จะอกแตกตาย

จาก

ตำรวจเก่า

โดยมิได้นัดหมายใดๆ

“หนังสือเรียนสำหรับเด็ก” ของ ฟ้า พูลวรลักษณ์ ในมติชนสุดสัปดาห์ฉบับนี้

มีเนื้อหาเกี่ยวโยงกับ “ตำรวจเก่า” อย่างน่าประหลาดใจ

โปรดพิจารณา

…คุณเป็นเหลือง

ฉันเป็นแดง

แต่เราก็ยังคบกันได้ เพราะเราเห็นว่าชีวิตสำคัญกว่า

ฉันมีเพื่อนหลายคนที่เป็นเหลือง เราก็คบกันได้ด้วยดี

แต่มีบางครั้งที่เราคุยกันเรื่องการเมือง และฉันยอมรับว่า มีบางครั้งฉันอยากเข้าไปชกหน้าพวกเขา

ที่อยากชก เพราะทนสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง

สีหน้าว่าตัวเองถูกต้องเสียเต็มประดา

สีหน้าว่าตัวเองฉลาด อาการยกตนแบบนี้เอง ที่ฉันทนไม่ได้

แต่หากชกหน้ากันได้

การฆ่ากันก็ทำได้

เพราะมันเพียงแต่รุนแรงขึ้น แต่เป็นสิ่งเดียวกัน คือการลืมความเป็นชีวิตของเราไป ลืมความเป็นเพื่อน

…..

(สิ่งข้างต้น) มันเกิดขึ้น เพราะ idea แม้จะไม่ใช่สิ่งมีชีวิต แต่มันมีพลังยิ่งใหญ่ และยิ่งใหญ่เกินกว่าตัวชีวิตเสียอีก

เรียกได้ว่า ชีวิตเป็นเพียงทางผ่านของ idea

มันเอามนุษย์เป็นเพียงทางผ่าน

มันครอบงำเราได้ มันบังคับเรา มันบงการเรา

คิดแล้ว ฉันทึ่งในความยิ่งใหญ่ของมัน

แต่ก็หวาดกลัวมันด้วย มันทำให้เราลืมสิ่งพื้นฐานที่สุดไปได้ ลืมตัว

ลืมว่าตัวเองเป็นใคร

ฉันรู้สึกคนในบ้านของฉันกำลังจะเป็นซอมบี้

และมีบางคนเป็นแล้ว กำลังเดินหาเหยื่อ กำลังไล่กัดคนอื่น เพื่อเผยแพร่เชื้อ

เดินไปตามถนนหนทาง เห็นคนที่ฉันเคยรู้จัก วันนี้กำลังเริ่มอาการซอมบี้

มันจริงตามถนน ตรอกซอย

….

มนุษย์ไม่ได้เดินเป็นเส้นตรง เพราะเรามี idea มันบิดผันเราได้

แต่ที่น่ากลัวคือ idea เหล่านี้ มันกลายพันธุ์ได้ มันคือไวรัสชนิดหนึ่ง และผู้คนมากต่อมากก็เปลี่ยนไป

นี้ไม่ใช่เรื่องตลก ซอมบี้ท่วมโลก

มันเริ่มปรากฏให้เห็นในหนังเมื่อปี 1978 หากฉันจำไม่ผิด คือหนังเรื่องแรกที่ซอมบี้ปรากฏตัวอย่างเข้มแข็ง

และจากนั้น มันก็ไม่ได้อ่อนแรงลงเลย มีแต่แข็งแรงขึ้น ว่องไวขึ้น สมจริงขึ้น

ซอมบี้เพ่นพ่านไปทั่ว จริงหรือไม่

พลิกอ่านฉบับเต็มๆ หน้า 55

อ่านแล้ว “ตำรวจเก่า” รวมถึงท่านผู้อ่านอื่นๆ จะว่าอย่างไร เชิญ!