ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 13 - 19 ตุลาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | คลุกวงใน |
ผู้เขียน | พิศณุ นิลกลัด |
เผยแพร่ |
คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด
Facebook : @Pitsanuofficial
Starting Block กับการทำฟาวล์
“บิว” ภูริพล บุญสอน ยอดนักวิ่งวัย 17 ปี ลงแข่งเอเชี่ยนเกมส์ ที่หนแรกในชีวิต และประสบความสำเร็จทันที ด้วยการคว้าเหรียญเงินวิ่ง 100 เมตร ทำเวลา 10:02 วินาที
ส่วนเหรียญทองเป็นของนักวิ่งจีน ทำเวลา 9:97 วินาที
เวลาดีที่สุดของการวิ่งระยะ 100 เมตร ที่มนุษย์ทำได้ ยังคงอยู่ที่ 9:58 วินาที
ยูเซน โบลต์ ยอดนักวิ่งชาวจาเมกา ทำไว้ในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก ประจำปี 2009 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นสถิติที่ยังไม่มีใครทำลายได้
ปัจจุบันยังไม่มีนักวิ่งคนไหนในโลกวิ่ง 100 เมตรได้ต่ำกว่า 9 วินาที
อย่างในการแข่งขันวิ่ง 100 เมตรชาย ในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ อันดับ 1 วิ่งเข้าเส้น ด้วยเวลา 9.97 วินาที ส่วนอันดับ 7 อันดับสุดท้าย เวลาอยู่ที่ 10.34 วินาที
ส่วนนักวิ่งคนที่ 8 คือ สรอรรถ ดาบบัง นักวิ่งทีมชาติไทย ออกตัวฟาวล์ ซึ่งสรอรรถบอกว่า ตั้งใจทำฟาวล์เพราะอาการบาดเจ็บเพื่อรักษาร่างกายในการลงแข่งวิ่งผลัดชาย 4 x 100 เมตร ได้ใบแดงดำให้ออกจากการแข่งขัน
ในการออกตัวการแข่งขันวิ่งระยะสั้น และระยะกลาง ตามกฎ นักวิ่งต้องออกวิ่งจากที่ Starting Block ซึ่งจะเป็นเครื่องบอกว่านักวิ่ง “ลักไก่” ทำฟาวล์ ออกตัวก่อนกรรมการยิงปืนปล่อยตัวออกสตาร์ตหรือเปล่า
โดยกรรมการที่ยิงปืนจะพูดว่า “On your marks” หมายถึงให้เตรียมพร้อมที่ Starting Block
จากนั้นจะพูดว่า “Set” ให้นักวิ่งยกตัวขึ้นในท่าพร้อมจะออกสตาร์ต และเมื่อได้ยินเสียงปืน นักวิ่งก็ออกสตาร์ตได้
ตรงกับการปล่อยตัวแข่งขันวิ่งของไทยสมัยโบราณว่า
“เข้าที่…ระวัง…ไป”
ตามกฎการแข่งขันวิ่ง การทำฟาวล์ตอนออกสตาร์ตทมี 2 กรณีคือ
1. นักวิ่งออกสตาร์ตก่อนเสียงปืนดัง
2. นักวิ่งออกสตาร์ตหลังจากเสียงปืนดังก่อนเศษ 1 ส่วน 10 วินาที (ออกสตาร์ตหลังจากเสียงปืนดังก่อน 0.10 วินาที) หมายความว่าแม้จะออกตัวหลังเสียงปืนดัง แต่ออกตัวเพียงเสี้ยววินาทีหลังได้ยินเสียงปืน แสดงว่านักวิ่งมีเจตนาเดาใจว่ากรรมการจะยิงปืนขึ้นเมื่อใด
เพราะจากการศึกษาพบว่า โดยธรรมชาติมนุษย์ไม่สามารถมีปฏิกิริยาตอบสนองออกสตาร์ตรวดเร็วทันทีหลังจากได้ยินเสียงปืนดังภายในเวลาไม่ถึงเศษ 1 ส่วน 10 วินาที
Starting Block มีกลไกในการทำงานอย่างไรถึงสามารถจับได้ว่านักวิ่งทำฟาวล์?
คำตอบ…ที่ Starting Block จะมีเซ็นเซอร์ติดตั้งไว้ที่ที่แผ่นยันเท้าทั้งสองข้างเพื่อตรวจแรงกดของเท้า ซึ่งหากเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ว่าแรงกดของเท้าเพิ่มขึ้นก่อนเสียงปืนปล่อยตัวดังขึ้น หรือแรงกดของเท้าบน Starting Block เพิ่มขึ้นภายในเวลาไม่เกินเศษ 1 ส่วน 10 วินาที หลังเสียงปืนดังขึ้น นั่นแสดงว่านักวิ่งคนนั้นทำฟาวล์
สาเหตุที่แรงกดของเท้าที่เพิ่มขึ้นบน Starting Block เป็นเครื่องบ่งบอกว่านักวิ่งทำฟาวล์ตอนออกสตาร์ตก็เพราะเวลาที่นักกีฬาออกสตาร์ตนั้น โดยธรรมชาติจะกดเท้าลงบน Starting Block เพื่อยันตัวให้พุ่งไปข้างหน้า
ตามกฎเดิมของสหพันธ์กรีฑานานาชาติ หรือ IAFF กำหนดว่าหากมีนักวิ่งทำฟาวล์ตอนออกสตาร์ตครั้งแรก นักวิ่งที่ทำฟาวล์จะไม่ถูกลงโทษ
แต่หากมีการทำฟาวล์เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง ไม่ว่าคนทำฟาวล์นั้น จะเป็นนักวิ่งที่ทำฟาวล์ครั้งแรก หรือจะเป็นนักวิ่งคนใหม่ที่ทำฟาวล์ นักวิ่งต้นเหตุของการออกสตาร์ตฟาวล์จะถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันทันที
แต่นับตั้งแต่ปี 2010 สหพันธ์กรีฑานานาชาติ ได้ออกกฎใหม่ ใครทำฟาวล์ตอนออกสตาร์ต จะถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันทันที
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022