ชุติมา นุ่นมัน : ปลาตัวสุดท้าย แม่กระเบนท้องแก่ใกล้คลอด

ภาพประกอบเรื่อง

[email protected]

ตั้งแต่เริ่มจำความได้ ยอร์จ บอกว่า เขาคลุกคลีอยู่กับการจับปลามาตลอด ตั้งแต่อายุ 5 ขวบเริ่มจับคันเบ็ดขุดหาไส้เดือน ตกปลาริมบึงใกล้บ้าน กระทั่งโตขึ้นมา ถึงได้ยึดเอาการตกปลาเป็นงานอดิเรกและกีฬาสุดโปรด

เขายืนยันว่าการยึดถือเอาเรื่องตกปลาเป็นเกมส์กีฬานั้น เป็นวิถีทางอนุรักษ์อย่างหนึ่ง

“เพราะว่าเราได้มาแล้วเราก็ปล่อย ตกเอามัน เอาสนุก ผิดกับการทอดแหหาปลาเพราะวิธีการแบบนั้นมันกลืนกินเอาชีวิตปลาทั้งหมด ทั้งปลาเล็ก ปลาน้อย รวมไปถึงปลาหายาก”

เคยคิดหวังถึงขั้นที่ว่าจะบ่มเพาะให้ลูกชายคนเดียวกลายเป็นนักกีฬา ตกปลาอย่างเขาด้วย
แล้วไม่กลัวบาปหรือ ทำให้ปากปลา เป็นแผล เจ็บด้วย คนฟังถามแบบค้านๆ
เขายิ้มใจเย็น บอกว่าตอนนั้น ใครค้านมาอย่างไร ในที่สุดแล้วเขาตะแบงหาทางออกแก้ตัวให้ตัวเองจนได้

“ที่ปากของปลามันไม่ค่อยมีเส้นประสาทรับความรู้สึก มันไม่ค่อยเจ็บปล่อยลงน้ำ เดี๋ยวก็หาย นี่จะเป็นคำแก้ตัวของนักตกปลาที่ถูกตำหนิว่าบาปเพราะทำร้ายชีวิตสัตว์ หรือถ้าถูกต้อนจนจนมุมจริงๆ ก็จะบอกไปว่าชีวิตทั้งปีทำดีมาตลอด แค่ตกปลาไม่กี่ตัว ไม่ได้ฆ่าด้วยมันจะบาปสักเท่าไหร่กัน ที่สำคัญคือ บุญกับบาป แยกส่วนกันอยู่”

เขายิ้มขำๆกับคำแก้ตัวของตัวเองในอดีต

ยอร์จ บอกว่า วันหนึ่งมีเหตุดลใจบางอย่างทำให้เขาต้องศึกษา ค้นคว้าเรื่องศาสนาอย่างจริงจังทำให้เริ่มตระหนักและกลัวบาป เริ่มรู้สึกว่า ที่ผ่านมาเขาเบียดเบียดชีวิตปลามานับไม่ถ้วน

“มีอยู่วันหนึ่ง ตอนศึกษาเรื่องนี้ใหม่ๆหลังจากหยุดตกปลามาหลายเดือน วันนั้น ผมคว้าคันเบ็ดไปที่บึงน้ำในหมู่บ้านเหวี่ยงเบ็ดกับเหยื่อปลอมลงน้ำไปอย่างเซ็งๆ ไม่กะจะได้ปลาหรืออะไรติดมาเลยแต่แล้ว มีปลาช่อนโชคร้ายหนักเกือบกิโล มาติดเบ็ดผมจนได้ผมปลดเบ็ดออกจากปากปลาช่อนตัวนั้น แล้วปล่อยลงน้ำไปด้วยความเศร้าตั้งใจว่านั่นจะเป็นปลาตัวสุดท้ายที่ติดเบ็ดผม”

ตั้งแต่นั้นมาชายหนุ่มไม่เคยตกปลาอีกเลย รวมทั้งตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสจะไถ่บาปให้กับการกระทำที่ผ่านมาได้เขาก็จะทำ

fishing-boat-166532_960_720

ช่วงวันหยุดปีใหม่ เขากับภรรยาและลูก ไปเยี่ยมบ้านพ่อแม่ของภรรยา ที่เกาะสุกร จ.ตรังเหมือนเช่นทุกปี

เล่ามาถึงตรงนี้ สีหน้าชายหนุ่มแจ่มใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“ครอบครัวเราจะไปที่นั่นกันทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ปีใหม่กับสงกรานต์ภรรยาผมเกิดและโตที่นั่น เป็นลูกทะเลแต่กำเนิด ตอนที่ผมยังตกปลาอยู่เรามักจะออกทะเลไปตกปลากันเสมอ แต่ปีใหม่ปีนี้ผมทิ้งคันเบ็ดไปแล้ว”

เขาบอกว่าไม่รู้มีเหตุอะไรมาดลใจ เพราะเมื่อเพื่อนบ้าน 2 คน คือ บังชาติ หรือสมชาติ เทศนอก และบังดล หรือ หุ้ยเล็กสมาชิกของกลุ่มผู้ก่อตั้ง“ธนาคารปู”ของเกาะสุกรมาชวนเขาลงเรือไปตกปลากระเบน เขาตอบตกลงทันทีแต่ไม่ลืมที่จะบอกเพื่อนบ้านทั้ง 2 ไปว่า เขาเลิกตกปลาแล้วการเดินทางครั้งนี้ขอเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์เท่านั้น

ตี 5 ครึ่ง เรือหางยาวลำย่อมค่อยๆแล่นออกจากเกาะสุกร ราว 7 โมงเช้า ชาวประมง 2 คนช่วยกันวางเบ็ดปลากระเบน แล้วนั่งรอด้วยความหวัง

ตั้งแต่น้ำมันขึ้นราคามาพวกเขาจะออกเรือกันอย่างระมัดระวัง ต้องมั่นใจว่า ออกทะเลเที่ยวนั้นราคาปลาที่ขายได้จะสูงกว่าราคาน้ำมันที่ลงทุนไป

11 โมงเช้า 2 บังเริ่มยิ้มออก เพราะได้ปลากระเบนทราย ขนาด 10-20 กิโล มา 3 ตัว กิโลกรัมละ 60 บาทถือว่าดีทีเดียวสำหรับประมงพื้นบ้านที่ยึดวิถีพอเพียงอย่างบังดล และบังชาติทั้งหมดตกลงจะหันเรือกลับเกาะสุกร

กำลังจะสาวเบ็ดที่เหลือขึ้นเรือกลับบ้าน แต่เกิดสิ่งผิดปกติ เพราะสายเบ็ดกระตุกอย่างแรงบังดลกับบังชาติมองหน้ากันอึดใจหนึ่ง แล้วบอกกับเขาว่าน่าจะเป็นกระเบนนก เพราะมันลากเบ็ดไปค่อนข้างไกล พูดไม่ทันขาดคำเรือลำย่อมที่ดับเครื่องยนต์อยู่กลางทะเลก็ถูกสิ่งมีชีวิตใต้น้ำลากไปอีกไกล

“มันลากเรือเราอยู่ 20 นาทีเห็นจะได้ ก้มลงไปดูในน้ำผมเห็นกระเบนนกตัวใหญ่ ปลายหางยาวประมาณ 2 เมตร บังดล กับบังชาติ ตัดสินใจดึงมันขึ้นมาอยู่บนเรือผมต้องเปลี่ยนที่นั่งจากท้องเรือไปอยู่ท้ายเรือประมาณน้ำหนักปลาตัวนั้นน่าจะไม่ต่ำกว่า 60 กิโล ท้องมันป่องเล็กน้อย”

ชายหนุ่มบอกว่ามองจากท้ายเรือเห็นกระเบนนกตัวนั้น หายใจพะงาบ พะงาบดูเหมือนคนใกล้ตายเต็มที สงสารมันจับใจแต่อีกมุมมองหนึ่งก็เข้าใจถึงวิถีของชาวประมง

ระหว่างที่นั่งปลงๆอยู่นั้น เหลือบไปเห็นบริเวณหางปลา มีครีบเล็กๆครีบหนึ่งโผล่ออกมาจากช่องเพศของกระเบนตัวนั้น
วูบหนึ่งของความคิดระหว่างที่เรือเล่นไปเกาะเภตราในช่วงเช้า เห็นกระเบนนกตัวหนึ่งโผขึ้นมาจากน้ำ บังดลบอกว่านั้นเป็นแม่ปลากระเบนท้องแก่ที่ต้องบิดตัวคลายความเจ็บปวดก่อนจะคลอดลูก เลยฉุกคิดได้ว่า กระเบนตัวนี้คงเป็นกระเบนท้องแก่ใกล้คลอด

“ตอนนั้นไม่รอช้ารีบช่วยนวดท้องแม่ปลาตัวนั้นให้ลูกกระเบนหันทิศทางที่จะโผล่ออกมาดูโลกได้ถนัด ไม่นานลูกกระเบนก็ออกมาจากท้องแม่ ผมตื่นเต้นมากแต่ตื่นเต้นได้ไม่นานก็เห็นครีบเล็กๆอีก 2 ครีบโผล่ออกมาจากช่องเพศอีกแสดงว่ายังมีลูกปลาในท้องอีก 2 ตัว ผมก็นวดๆเบาๆบริเวณท้องปลาต่อ ไม่นานลูกปลาอีก 2 ตัวก็ออกมา”ชายหนุ่มเล่าน้ำเสียงตื่นเต้น

ลูกปลาออกมาแล้วนอนนิ่งไม่กระดุกกระดิก สัตวแพทย์จำเป็นเริ่มใจไม่ดี แต่ตาเหลือบไปเห็นตะกร้าที่ท้ายเรือจึงรีบช้อนเอาลูกปลาทั้ง 3 ตัวใส่ตะกร้า แล้วเอาไปจุ่มในน้ำ ไม่กี่อึดใจ ปลาน้อยทั้ง 3 เริ่มหายใจ

“ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนหมอที่ทำคลอดที่ช่วยให้ชีวิตอีก ชีวิตลืมตาดูโลกได้ ปลื้มใจจนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ความรู้สึกดีๆที่ได้รับมันมากกว่าตอนที่ผมตกปลาตัวใหญ่ได้ เป็นล้านเท่า”

ทุกคนในเรือเห็นพ้องกันว่าจะปล่อย ปลาน้อยทั้ง 3 ตัว ให้ไปเผชิญชีวิตตามธรรมชาติ และทันทีที่ได้รับอิสระ เจ้ากระเบนนก 3 พี่น้องก็กางปีกเริงร่าว่ายไปมารอบเรือ พักใหญ่ ก่อนจะจมหายไปทะเลกว้าง

“ไม่รู้มันจะรอดรึเปล่านะ”
บังดล พึมพำเบาๆ แต่น้ำเสียงปลื้มใจ จนคนฟังจับได้

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันบังรู้แต่ว่า ถ้าปล่อยให้มันอยู่ในท้องกับแม่ของมัน มันคงไม่รอดแต่ผมเชื่อว่า ว่ายน้ำคล่องแบบนั้นมันคงรอดแน่นอน”
ชายหนุ่มให้กำลังใจเพื่อน
กระเบนตัวใหญ่ หายใจรวยริน เหมือนจะรู้ว่าอีกไม่นานมันจะต้องทำหน้าที่ ในฐานะส่วนหนึ่งของปัจจัยสี่ให้กับมนุษย์

ชายหนุ่มกลับไปนั่งท้ายเรือเหมือนเดิม มองกระเบนตัวใหญ่เหมือนจะขอโทษ ก่อนจะละสายตามองไปสุดขอบฟ้า ยิ้มกับสายลมที่พัดมาเบาๆ

พวกเขาทำดีที่สุดแล้ว…