E-DUANG : แนวโน้ม ประยุทธ์ จะ”ไปต่อ” กับ การเลือกตั้ง พฤษภาคม

มีคำถามไม่ว่าจะต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่าเหตุใดจึงยังไม่ออกมายอมรับในความพ่ายแพ้จากการเลือกตั้ง

ไม่เพียงแต่พ่ายแพ้ต่อ 70 เสียงของพรรคภูมิใจไทย หากพ่ายแพ้ต่อ 141 ของพรรคเพื่อไทย และ 151 ของพรรคก้าวไกล

หนทางในการ”ไปต่อ”ในฐานะ”นายกรัฐมนตรี”ริบหรี่อย่างยิ่ง

เหตุใดจึงยังปลอบใจคนของพรรครวมไทยสร้างชาติว่ายังมีโอกาส ยังมีความหวัง เหตุใดจึงมีการเดินเข้าบ้านป่ารอยต่ออย่างคึกคัก

เป็นบรรยากาศเดียวกันกับในห้วงหลังการยึดอำนาจในเดือน พฤษภาคม 2557 เป็นบรรยากาศเดียวกันกับในห้วงหลังการเลือก ตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562

เห็นได้ชัดว่าการรวมตัวกันของพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยภายใต้จำนวน ส.ส. 311 เสียงจากทั้งหมด 500 ของสภาผู้แทนราษฎรแทบไม่มีความหมายใดๆ

เท่ากับประเมินบทบาทของพรรคเพื่อไทยต่ำ เท่ากับประเมิน บทบาทของพรรคก้าวไกลต่ำ

ยากอย่างยิ่งที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะไปถึงฝั่งฝัน

 

ท่าทีต่อพรรคเพื่อไทยสามารถเข้าใจได้ เพราะรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 คือ การโค่นพรรคไทยรักไทย คือการโค่น นายทัก ษิณ ชินวัตร

ขณะที่รัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 คือ การโค่นพรรคเพื่อไทย คือการโค่น นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ท่าทีต่อพรรคเพื่อไทยเป็นเช่นนี้ ท่าทีต่อพรรคก้าวไกลก็เช่นนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ยังประเมินพรรคก้าวไกลอย่างเดียวกันกับที่เคยประเมินพรรคอนาคตใหม่

ถึงพรรคอนาคตใหม่จะได้กว่า 6.3 ล้านคะแนนเสียงก็มิได้มี ความสำคัญอะไร ถึงพรรคก้าวไกลจะได้กว่า 14 ล้านคะแนนเสียง ก็มิได้มีความสำคัญอะไร

ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็จะอยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เป็นของแคนดิเดตใด

 

ความน่าสนใจมิได้อยู่ที่พรรคก้าวไกลไม่เชื่อและไม่ยอมรับ ความน่าสนใจมิได้อยู่ที่พรรคเพื่อไทยก็เริ่มมั่นใจในชัยชนะอันพรรคก้าวไกลได้มาอย่างเป็นจริง

ถามว่าพรรคที่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คิดอย่างไร

ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา ยังคิดเหมือนหลังเดือนมีนาคม 2562 อยู่หรือไม่

การยุติหรือการไปต่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงเป็นคำถามอันแหลมคมในทางการเมือง