เป๊ป กวาร์ดิโอลา ฝีมือดี ถูกที่ถูกเวลา

Soccer Football - Premier League - Manchester City v Chelsea - Etihad Stadium, Manchester, Britain - May 21, 2023 Manchester City manager Pep Guardiola celebrates with the trophy after winning the Premier League REUTERS/Carl Recine EDITORIAL USE ONLY. No use with unauthorized audio, video, data, fixture lists, club/league logos or 'live' services. Online in-match use limited to 75 images, no video emulation. No use in betting, games or single club /league/player publications. Please contact your account representative for further details.

แม้ว่า อาร์เซนอล จะนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกส่วนใหญ่ของฤดูกาล แต่ที่สุดแล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าก็เป็นฝ่ายเข้าวิน คว้าแชมป์ลีกได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน อีกทั้งยังเป็นแชมป์สมัยที่ 5 จาก 6 ฤดูกาลหลังสุดอีกด้วย

เท่านั้นยังไม่พอ เรือใบสีฟ้าของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังมีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมที่ 2 ของอังกฤษที่คว้า “ทริปเปิลแชมป์” หรือกวาด 3 แชมป์ในปีเดียวมาครอง ต่อจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 1999

แมนฯ ซิตี้ขาดชัยชนะอีก 2 นัด จะไปถึงเกียรติประวัติดังกล่าว นั่นคือรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพกับแมนฯ ยูที่สนามเวมบลีย์ ในวันที่ 3 มิถุนายน

และรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ อินเตอร์ มิลาน ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ในวันที่ 10 มิถุนายน

 

นักวิจารณ์บางคนบอกว่านี่คือแมนฯ ซิตี้ชุดที่ดีที่สุดในยุคของเป๊ป นับตั้งแต่เขาเข้าไปกุมบังเหียนเมื่อปี 2016 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ดาวยิงชาวนอร์เวย์ร่วมทีมในฤดูกาลนี้

ขณะที่นักวิจารณ์บางคนมองว่า ก็เพราะได้ฮาแลนด์มา ทำให้ทีมอยู่ในช่วงการปรับแผนและสไตล์การเล่น บางช่วงฟอร์มจึงไม่แน่ไม่นอนบ้าง แต่สิ่งที่เรือใบสีฟ้ามีและแสดงให้เห็นคือความแข็งแกร่งของใจและประสบการณ์ในฐานะแชมป์

เพราะขณะที่ปืนใหญ่เริ่มเป๋และทำแต้มหลุดมือไปเองหลายนัด ซิตี้ไม่พลาดที่จะฉวยจังหวะรักษามาตรฐานและฟอร์มการเล่นที่ดีสม่ำเสมอ เก็บชัยชนะต่อเนื่องกดดันอาร์เซนอลอย่างหนักช่วงปลายฤดูกาลจนการันตีแชมป์ในที่สุด

ไมกาห์ ริชาร์ดส์ อดีตกองหลังเรือใบสีฟ้าซึ่งปัจจุบันผันตัวมาทำหน้าที่นักวิจารณ์ ชื่นชมเป๊ปว่าเป็นอัจฉริยะ มักจะก้าวนำโค้ชคนอื่นๆ 1 ก้าวเสมอ ตอนที่เขารับงานคุมทีมซิตี้ หลายคนไม่เชื่อว่าเขาจะนำสไตล์การเล่นบอลสวยงามแบบเท้าสู่เท้ามาสู่พรีเมียร์ลีกได้ แต่วันนี้เป๊ปพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาทำได้ และทำได้ดีด้วย

ขณะที่ รอย คีน ตำนานกัปตันทีมแมนฯ ยูเสริมว่า ข้อดีอีกข้อของเป๊ปคือ การกระตุ้นลูกทีมให้กระหายในชัยชนะอยู่เสมอ การมีมายด์เซ็ตของผู้ชนะตลอดเวลา เพราะสำหรับบางทีม การประสบความสำเร็จต่อเนื่องอาจกลายเป็นความเคยชิน ทำให้เริ่มหมดไฟหรือไม่มุ่งมั่นเท่าเดิม แต่นั่นไม่ใช่สำหรับทีมของเป๊ป เพราะพวกเขายังคงกระหายที่จะคว้าแชมป์ลีกอยู่เรื่อยๆ รวมถึงก้าวไปสู่เป้าหมายที่สูงขึ้นไปอย่างถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เขายังทำไม่สำเร็จที่นี่

 

จากเกียรติประวัติมากมายนับตั้งแต่คุมทีม บาร์เซโลนา, บาเยิร์น มิวนิก จนถึงแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป๊ปพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศนั้นๆ ได้ถึง 11 สมัย จาก 14 ฤดูกาล

แต่แชมป์ยุโรปของเขาเกิดขึ้นเพียง 2 ครั้งสมัยคุมบาร์ซาในปี 2009 และ 2011 ขณะที่ปี 2021 พาซิตี้ไปถึงรอบชิง แต่ก็ไปพ่ายให้ เชลซี อย่างน่าเสียดาย

เป๊ปเผยหลังพาซิตี้การันตีแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุดว่า ถ้าเรือใบสีฟ้าหวังจะได้รับการยอมรับในฐานะยอดทีมของเกาะอังกฤษเทียบเท่าสถานะของแมนฯ ยูและ ลิเวอร์พูล ก็ต้องคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกให้ได้

ไม่ได้หมายความว่าถ้าทำไม่ได้แล้ว แชมป์พรีเมียร์ลีกที่ได้มาจะไม่มีความหมาย เพียงแต่ถ้าต้องการจารึกว่าเป็นสุดยอดทีม แชมป์ยุโรปคือด่านทดสอบสำคัญ

และจะดียิ่งขึ้นถ้าสามารถคว้าทริปเปิลแชมป์ได้ เพราะนอกจากแมนฯ ยูแล้วไม่เคยมีทีมไหนทำได้มาก่อน

หากทำสำเร็จ จะยิ่งทำให้ชื่อของเป๊ปได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมฟุตบอลที่เก่งที่สุดตลอดกาลของโลกเข้าไปอีก

 

กระนั้น เกียรติประวัติของเป๊ปก็มักมาพร้อมข้อกังขาของแฟนบอลบางกลุ่มเสมอ โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่า ถ้าเขาได้ “โจทย์ยาก” กว่านี้ เช่น ไปคุมทีมเล็กกว่านี้ หรือเป็นทีมที่ไม่ได้มีนักเตะฝีเท้าระดับสุดยอด หรือมีงบประมาณให้เสริมทัพมหาศาลเหมือนกับ 3 ทีมที่เขาเคยคุมมา เป๊ปจะประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้หรือไม่?

เช่น เยอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งใช้เวลาหลายปีค่อยๆ สร้างหงส์แดงมาเป็นทีมที่แข็งแกร่งขนาดสู้กับซิตี้ได้สนุกตลอดหลายปีที่ผ่านมา ด้วยงบประมาณที่จำกัดกว่าเป๊ป หรือ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่พา โรม่า คว้าแชมป์ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ลีก ฤดูกาลก่อน ต่อด้วยเข้าชิงยูโรป้าลีกฤดูกาลนี้ ถ้าเป็นเป๊ปจะทำได้อย่าง 2 คนนี้หรือไม่?

นี่เป็นคำถามที่บางทีอาจจะไม่มีคำตอบที่ชัดเจน เพราะหลายคนคาดเดาว่า งานต่อๆ ไปของเป๊ปก็น่าจะยังอยู่ในเงื่อนไขที่สโมสรสามารถตอบโจทย์ความต้องการของเขาได้ในแง่คุณภาพนักเตะที่จะเล่นตามแผนของเขา

ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดของเป๊ปแต่อย่างใด เพราะการเลือกไปอยู่ในที่ที่เหมาะสม เพื่อจะได้ใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ก็ถือเป็นคุณสมบัติที่ดีอย่างหนึ่งของการเป็นโค้ชด้วยเช่นกัน •

 

Technical Time-Out | SearchSri