หลังจากไปร่วมงานสวดพระอภิธรรม ที่วัดสุทธาวาส บางละมุง ตั้งใจจะพาไปมองบ้านมองเมืองหนองปรือ หากเกิดอารมณ์ร่วมกับกระแสการเลือกตั้ง เลยเถลไถลออกนอกทางไป

มองบ้านมองเมืองคราวนี้ จะพาไปมองชุมชนใกล้ๆ กับเมืองพัทยา ที่เชื่อว่าไม่น่าจะมีใครรู้จัก เหมือนผู้เขียน หากไม่ได้ไปร่วมงานครั้งนั้น ก็คงมีอาการเดียวกัน

ทั้งๆ ที่หนองปรือเป็นชุมชนที่มีความเจริญ มีอาคารบ้านเรือนร้านค้า สถานประกอบการมากมาย มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น และมีฐานะเป็นถึงเทศบาลเมือง

ที่สำคัญ ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนสุขุมวิทกับพัทยา สถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก ที่คนไทยและคนเทศรู้จักกันดี

 

ด้วยถนนทางเข้าวัดสุทธาวาส คือถนนสุขุมวิทพัทยา 53 แยกจากถนนสุขุมวิท ตรงข้ามถนนพัทยากลาง ที่ตั้งวัดนั้น อยู่ลึกเข้าไปไกลกว่าห้ากิโลเมตร เกือบจะถึงทางหลวงมอเตอร์เวย์สายเจ็ด

ระหว่างทาง จึงเห็นป้ายถนนและซอยหลากหลาย มีทั้งซอยแยกสุขุมวิทพัทยา 53 ซอยแยกมาบยายเลีย และซอยแยกเนินพลับหวาน ที่มีอยู่มากมาย

ตลอดสองข้างทาง จะเป็นตึกแถว ร้านค้า สแตนด์อโลน ตลาดสดแบบเก่า บาร์ซาร์ หรือแฟร์แบบใหม่ ทุกแห่งมีลูกค้าแวะเวียนคึกคัก จนน่าจะมีปัญหาจราจรติดขัดในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นแน่นอน

กลางซอยมีมัสยิดหลังใหญ่ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อซอยแยก และชุมชนใกล้เคียง คือมาบยายเลีย รวมทั้งทางเข้าสุสานจีนขนาดใหญ่ เม็งมั้วซัวจึง

หลังร้านค้าริมถนน จะเป็นหมู่บ้านจัดสรรปะปนต่อเนื่องกันไป มีทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ ไปจนถึงพลูวิลลา ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่โครงการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังจากกรุงเทพฯ หากเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น ชื่อโครงการจึงเป็นภาษาไทย ได้แก่ นครอิน รัตกร รัตนากร ฝนทิพย์ ฉัตรแก้ว สุวัฒนา ฯลฯ

รวมทั้งโชคชัย 4 ที่คงไม่ใช่สาขาย่อยจากลาดพร้าว

 

สันนิษฐานว่า ถนนสายยาวนี้ เดิมเป็นเพียงทางแยกจากสุขุมวิท เข้าพื้นที่เกษตรกรรม ที่คงไม่ได้ปลูกแค่พลับหวาน เมื่อชาวมุสลิมโยกย้ายมาอยู่ และคนจีนจากกรุงเทพฯ ไปสร้างสุสานประจำตระกลู จึงปรับเป็นถนนทางทิศใต้ ของถนนพรประภานิมิต ที่เป็นทางเข้าสุสานประจำตระกูลพรประภา

ต่อมามีการสร้างอ่างเก็บน้ำมาบประชัน เพื่อสำรองน้ำใช้สำหรับพัทยาและอีสเทิร์นซีบอร์ด จึงขยายทางไปจนถึงอ่างเก็บน้ำ และสนามกอล์ฟ Siam Country Club ที่อยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำ

ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในพัทยา ดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาทำงานและตั้งถิ่นฐาน บังเอิญว่าปากทางถนนสุขุมวิทพัทยา 53 ตรงกับถนนพัทยากลาง จึงมีนักลงทุนเปิดโครงการบ้านจัดสรรรองรับ จนกลายเป็นชุมชนใหญ่โต

เนื่องจากสถาปนิกหรือเจ้าของแต่ละโครงการ ออกแบบวางผังให้สวยงามเฉพาะโครงการ อีกทั้งปิดกั้นการเชื่อมต่อถนนโดยรอบ เพื่อความปลอดภัย ยิ่งเป็นบริษัทเล็ก จะตัดถนนสายเดียว เพื่อขายบ้านสองฝั่งถนน

ถนนสุขุมวิทพัทยา 53 แต่ละแยกจึงมีสภาพสับสน วุ่นวาย เหมือนกับหลายแห่งในกรุงเทพฯ

เมื่อรวมกับการพัฒนาแบบเดียวกัน ริมถนนพรประภานิมิต สุขมวิทพัทยา 87 และ 91 บุญสัมพันธ์ เอกมงคล 3 ชัยพฤกษ์ 2 ฯลฯ ที่อยู่ในกรอบของทางหลวงสุขุมวิท และมอเตอร์เวย์สาย 7 แยกเข้าพัทยาเหนือ และแยกเข้าจอมเทียน ที่เป็นขอบเขตเทศบาลเมืองหนองปรือ รวมพื้นที่กว่า 45 ตร.ก.ม. พอๆ กับเขตบางเขน หรือทวีวัฒนา

ในขณะที่จำนวนประชากรก็ใกล้เคียงกับเขตดุสิต หรือคลองเตย

 

เรื่องที่พาไปมองคราวนี้ จะถือเป็นแปลกก็ได้ เพราะในขณะที่คลองเตย หรือบางเขน จะมีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน จะมีทั้งแผนพัฒนา และข้อเสนอของนักวิชาการ และงบประมาณมากมาย

แต่สำหรับหนองปรือ คงไม่มีแผน หรือการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน มีเพียงเจ้าหน้าที่เทศบาล ปฏิบัติงานตามกำลังและความรู้เท่าที่มี

เรื่องที่พาไปมองคราวนี้ จะถือเป็นเรื่องปกติก็ได้ เพราะพื้นที่อื่นๆ อีกมากมายที่ไม่มีใครรู้จัก กระจายอยู่ทั่วประเทศ ที่มีที่มาคล้ายกัน มีการตั้งถิ่นฐานแบบเดียวกัน มีความเจริญอย่างรวดเร็ว ปราศจากแผนพัฒนาใดๆ นอกจากผังเมืองสี ที่ไม่มีความหมาย

ในขณะที่พรรคการเมืองไม่เคยสนใจ ข้าราชการก็ดูแลตามภาระหน้าที่แบบมหาดไทย นักวิชาการก็ไม่อยากเกี่ยวข้อง เพราะผลงานไม่ได้ลงวารสารต่างประเทศ

จึงถือเป็นหนึ่งในความเท่าเทียมกันของบ้านเมือง ที่ไหนๆ ในสยามประเทศนี้ ล้วนเป็นไปตามยถากรรมของเมือง และเคราะห์กรรมของผู้คน

ถ้าคนบางเขน กรุงเทพฯ ต้องเผชิญปัญหาจราจร น้ำท่วม อากาศเป็นพิษ บนถนนพหลโยธิน คนในหนองปรือ พัทยา ก็จะเผชิญปัญหาจราจร น้ำท่วม อากาศเป็นพิษ บนถนนสุขุมวิทพัทยา 53 แบบเดียวกัน •

 

 

มองบ้านมองเมือง | ปริญญา ตรีน้อยใส

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022