จดหมาย

จดหมาย

ประจำวันที่ 14-20 เมษายน 2566

 

• “สุข” สงกรานต์

ในสภาวะที่เศรษฐกิจฝืดเคืองและโรคระบาดโควิด-19 ยังไม่จบอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

การได้เดินทางกลับบ้านจึงเป็นโอกาสอันแสนวิเศษของผู้คนที่จากบ้านไปไกล-นาน

โดยเฉพาะในช่วง “เทศกาลสงกรานต์”

ความจำเป็นที่ต้องออกเดินทางจากมาตุภูมิบ้านเกิดเมืองนอน

รอนแรมไปแสวงหาอาชีพการงานยังเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด

ให้ผลดีหลายประการ

อย่างสำคัญคือได้ฝึกฝนจิตใจให้เป็นคนสู้ชีวิต

ยืนหยัดต่อสู้การงานด้วยความแข็งขัน อดทน อดออม วิริยะ อุตสาหะ ชนะใจตน

หากดำรงอยู่ได้อย่างประสบผลก้าวหน้าในสัมมาอาชีวะ

การกลับไปเยี่ยมยามบ้านแต่ละครั้งก็อิ่มเอมใจ

ทักถามพูดคุยกับใครๆ เขาได้อย่างแจ่มใสปลอดโปร่ง

…เป็นไอดอล เป็นคนต้นแบบให้รุ่นน้องๆ เพื่อนบ้านนิยมชมชอบและเจริญรอยตาม

เกิดอานิสงส์แก่ชุมชนบ้านเกิดได้มีวิวัฒนาการ

…อนึ่ง การเดินทางกลับบ้านเกิด แม้จะเป็นระยะเวลาเพียงสั้นๆ

แต่กลับได้ความรู้สึกยาวนานกับบรรยากาศย้อนยุคไปในวัยเด็ก

อันเคยดำผุดดำว่าย แหวกว่ายสายธาร, ลอยละล่องอยู่ในแม่น้ำใสไหลเย็นเห็นหินทราย (และปลาตัวเล็กตัวน้อยในซอกหลืบหิน)

…ช่วยกันขนทรายเข้าวัด ตกแต่งเจดีย์ทราย แต่งธง สรงน้ำพระ คารวะรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ฯลฯ

อันเป็นสิ่งจรุงใจให้เราเอิบอิ่ม เพลิดเพลิน สำราญใจ

…ได้มีพลังแรงสร้างสรรค์ ผลักดันพัฒนาการท้องถิ่นกันต่อไปตามความฝัน – จินตนาการ

ซึ่งจำต้องร่วมมือร่วมใจกันอย่างทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจและแรงทรัพย์แต่ละชุมชนถึงจะลืมตาอ้าปากได้อย่างมีอัตลักษณ์เป็นเอกภาพ

หากฝากความหวังไว้กับผู้ใหญ่ (หน้าซื่อๆ) ในรัฐบาล (ดื้อตาใส) ที่ (ตู่) แอบอ้างเอาความห่วงใยประชาชนไปสัญญาหาเสียงเรื่องยกระดับชีวิตความเป็นอยู่

ทว่ากลับ “รู้กัน” กับลิ่วล้อ (ส.ว.) บริวารพาล “ล็อก” การบริหารจัดการท้องถิ่นไม่ให้เติบใหญ่ไปความต้องการของชุมชนผู้อยู่อาศัย

…ชีวิตเราจะเฉา เศร้าซึม อ้างว้างเปล่าเปลี่ยว

ชุมชนท้องถิ่นบ้านเราก็จะสิ้นหวังแลวังเวงครับ

สงกรานต์ บ้านป่าอักษร

 

สงกรานต์ปีนี้

เชื่อว่าคนไทยคงครึกครื้นกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา

คนอีสานคงได้ “เมือบ้าน”

คนเหนือได้ “ปิ๊กบ้าน”

คนใต้ได้ “หลบบ้าน”

ก็ขอให้ “ม่วนชื่นโฮวแซว” – สนุกสนานกันทั่วหน้า

ไม่สิ้นหวังกับปัญหา อย่างที่ว่ามา

เพื่อที่จะมี “แรงใจ แรงกาย” สู้กับ “อุปสรรค ปัญหา” ต่อไป

ด้วย “หลัง” สงกรานต์คงมีอะไรต้องเผชิญอีกมาก

ดังอีเมลฉบับต่อไป

• “ทุกข์” หลังสงกรานต์

อีสานโพล (E-Saan Poll)

โดยศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ทำการสำรวจ “ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 1/2566 และคาดการณ์ไตรมาส 2/2566”

ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม-2 เมษายน 2566

จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,106 ราย

ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด

ผลการสำรวจมีดังนี้

(ค่าดัชนีมีค่าระหว่าง 0-100 หากดัชนีอยู่ระหว่าง 0-19.9 คือ แย่มาก ระหว่าง 20-39.9 คือ แย่ ระหว่าง 40-59.9 คือ ปานกลาง/พอใช้ ระหว่าง 60-79.9 คือ ดี และระหว่าง 80-100 คือ ดีมาก)

1) ดัชนีรายได้และทรัพย์สินครัวเรือนไตรมาส 1/2566 เท่ากับ 33.8

หมายความว่า รายได้และทรัพย์สินครัวเรือนอีสาน อยู่ในระดับแย่

ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนซึ่งมีค่าดัชนี 33.6

2) ดัชนีโอกาสหางานใหม่หรือเริ่มธุรกิจใหม่ไตรมาส 1/2566 เท่ากับ 31.8

หมายความว่า โอกาสหางานใหม่หรือเริ่มธุรกิจใหม่ในอีสาน อยู่ในระดับแย่

แย่กว่าไตรมาสก่อนซึ่งมีค่าดัชนี 32.3

3) ดัชนีการหมุนเงินเพื่อใช้จ่ายและชำระหนี้ไตรมาส 1/2566 เท่ากับ 35.1

หมายความว่า การหมุนเงินเพื่อใช้จ่ายและชำระหนี้ของครัวเรือนอีสาน อยู่ในระดับแย่

ดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อนซึ่งมีค่าดัชนี 32.9

4) ดัชนีการซื้อของมูลค่าสูงไตรมาส 1/2566 เท่ากับ 34.4

หมายความว่า ความมั่นใจของครัวเรือนอีสานในการซื้อของมูลค่าสูง อยู่ในระดับแย่

ดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อนซึ่งมีค่าดัชนี 34.2

5) ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสานไตรมาส 1/2566 เท่ากับ 33.8

หมายความว่า ภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสานโดยรวม อยู่ในระดับแย่

ดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อนซึ่งมีค่าดัชนี 33.3

6) ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสานคาดการณ์ไตรมาส 2/2566 เท่ากับ 33.3

หมายความว่า ภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสานโดยรวม อยู่ในระดับแย่

แย่ลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2566 ซึ่งมีค่าดัชนี 33.8

รศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์

หัวหน้าโครงการสำรวจอีสานโพล

 

ผลอีสานโพล เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนอีสานที่ออกมา

อยู่ในภาวะ “แย่” เกือบทุกด้าน

เป็นดัชนีชี้วัดว่า ความเปียกโชก

ไม่ใช่เพียงน้ำที่สาดใส่กัน

หากแต่มี “น้ำตา” แห่งความ “ทุกข์หลาย” ปะปนอยู่ด้วย

ซึ่งแน่นอน คงไม่ใช่แค่คนอีสานต้องเผชิญ

เชื่อว่า หากสำรวจทุกภาค ผลก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่

หลังสงกรานต์ แม้จะมีคำมั่นจากพรรคการเมืองต่างๆ

ว่าจะทำให้ความเป็นอยู่ของเราดีขึ้น

แต่ก็ทำใจไว้มากๆ

“หลัง” สงกรานต์ คงต้องเผชิญสิ่งไม่ดีอีกมาก •