กระทรวงมหาดไทย ลงนาม MOU ผ้าไทยใส่ให้สนุก ภายใต้แนวคิด “ชิคแอนด์ชิล ด้วยผ้าไทย ไปกับทิพย”

กระทรวงมหาดไทย จับมือทิพยประกันภัย ลงนาม MOU ผ้าไทยใส่ให้สนุก ภายใต้แนวคิด “ชิคแอนด์ชิล ด้วยผ้าไทย ไปกับทิพย” ปักธงบริษัทประกันภัยแห่งแรก ปลุกกระแสให้พนักงาน และภาคีเครือข่ายภาคเอกชนสวมใส่ผ้าไทยไปทำงาน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับประชาชน

วันนี้ (23 มี.ค. 66) เวลา 14:30 น. ที่บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ถ.พระราม 3 เขตยานนาวา กรุงเทพฯ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการดำเนินโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ระหว่างกระทรวงมหาดไทย กรมการพัฒนาชุมชน สมาคมแม่บ้านมหาดไทย และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในงาน “ชิคแอนด์ชิล ด้วยผ้าไทย ไปกับทิพย” โดย ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ทิพยประกันภัย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมลงนาม โดยมี นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน ดร.ศรินดา จามรมาน กรรมการที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก นายศิริชัย ทหรานนท์ ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์เธียเตอร์ (THEATRE) นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา นายเมธากุล สุวรรณบุตร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ผู้บริหารบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ สื่อมวลชน ผู้ประกอบการผ้าไทย และภาคีเครือข่าย ร่วมในงานเป็นจำนวนมาก

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เยี่ยมชมนิทรรศการดอนกอยโมเดล นาหว้าโมเดล และให้กำลังใจผู้ประกอบการผ้าแบรนด์ขวัญตา โชติกาไหมไทย แบรนด์ PANITAN และร้าน OTOP ผ้าไทย และรับชมการแสดงแบบผ้าไทยภายใต้แนวคิด “ชิคแอนด์ชิล ด้วยผ้าไทย ไปกับทิพย” โดยได้รับเกียรติจากนางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา นายเมธากุล สุวรรณบุตร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมเป็นนางแบบและนายแบบกิตติมศักดิ์ แสดงแบบกับพนักงานทิพยประกันภัย

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ผมรู้สึกปลื้มปิติและชื่นชม บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่ทำให้ในวันนี้เป็นวันสำคัญยิ่งของประเทศไทยที่ตอกย้ำและแสดงให้เห็นว่า บริษัทธุรกิจขนาดใหญ่ก้าวมาเป็นแนวหน้าในการสนองพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้ทรงมีพระปณิธานอันแน่วแน่ในการสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชดำริและพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมราชบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชปณิธานที่ทรงมีพระราชประสงค์ในการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในชนบทให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีผ่านการนำเอาภูมิปัญญาผ้าไทย งานหัตถศิลป์ หัตถกรรมมาประดิษฐ์ มาผลิตเป็นชิ้นงานที่มาจากหยาดเหงื่อ มาจากหัวใจ เพื่อที่จะทำให้มีรายได้ และนำรายได้นั้นไปเจือจุนเลี้ยงดูครอบครัว ให้มีความสุข เอาเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับไปช่วยส่งลูกเรียนหนังสือ ไปซ่อมบ้าน ไปซื้ออาหารการกิน สิ่งเหล่านี้เป็นจุดมุ่งหมายและเป็นพระประสงค์ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมุ่งมั่นและตั้งพระทัยมั่นที่อยากเห็นคนไทยในชนบทที่ด้อยโอกาสได้มีโอกาสที่จะมีรายได้มาเจือจุนครอบครัวเพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากการทำไร่ทำนา ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่ต้องอิงกับดินฟ้าอากาศ และพ่อค้าคนกลางตามกลไกตลาด ปีไหนฝนฟ้าอากาศตกต้องตามฤดูกาลผลผลิตก็จะมีเยอะ ทำให้ของมีเยอะ ราคาซื้อถูก ปีไหนที่ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาลก็ขาดทุน ผลผลิตเสียหาย เงินช่วยเหลือเยียวยาตามกฎหมายของรัฐก็น้อยมาก

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยพระราชปณิธานที่แน่วแน่ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระองค์ได้แสดงให้ชาวโลกได้เห็นว่า “Sustainable Fashion” มีจริงและทำได้จริง ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล จากการเสด็จทรงงานในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่แต่เดิมชาวบ้านใช้สีเคมีในการย้อมผ้า พระองค์ท่านจึงได้ทรงโน้มน้าวจิตใจชาวบ้านด้วย กลวิธีทำให้คนตระหนักถึงการรักษาโลกใบเดียวนี้ของเราให้ยืนยาว เพื่อลด Climate Change ของโลกของเรา “โดยทรงปฏิเสธที่จะรับผ้าสีเคมีที่คนทูลเกล้าฯ ถวาย” และพระราชทานพระดํารัสอรรถาธิบายว่า สีที่ใช้ทอผ้าเป็นสีเคมี จะทำให้ดินเสีย คนย้อมผ้าก็มีโอกาสได้รับสารพิษสารเคมี ทำให้ผิวหนังแพ้ ซึ่งระยะสั้นอาจจะไม่เป็นไรแต่จะส่งผลในระยะยาว ส่วนน้ำที่ใช้ย้อมผ้าเมื่อเททิ้งลงดินก็ทำให้ดินเสีย เพาะปลูกอะไรก็ไม่ได้ เทลงไปในแหล่งน้ำน้ำก็เสียปลากับสัตว์น้ำก็กินเข้าไป เมื่อเป็นอาหารก็จะเป็นพิษกับร่างกาย ทำให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยจากปีแรก ๆ กว่า 90% ชาวบ้านย้อมผ้าด้วยสีเคมี ปัจจุบันนี้ แทบไม่มีชาวบ้านใช้สีเคมีในการย้อมผ้า และที่สำคัญไปกว่านั้น ด้วยความเพียรพยายามของพระองค์ท่านที่ทรงเป็นแรงผลักดันจนทำให้กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชนได้มีการทำงานร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ที่ได้ลงนามรับรองว่า กระบวนการที่ชาวบ้านผลิตผ้าด้วยการใช้สีธรรมชาติที่มาจากต้นไม้ รากหญ้า เปลือกไม้ โคลน ดินภูเขาไฟ ที่เป็นธรรมชาตินั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถแปลงเป็นคาร์บอนฟุตปริ้น รักษาโลกใบนี้ให้มีอายุยืนยาว นอกจากนี้ ยังทรงพระราชทานพระดำริในด้านการตลาด การออกแบบ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นลายที่เกิดจากพระกรุณาธิคุณ ต่อยอดจากลวดลายโบราณของบรรพบุรุษ เพื่อทำให้ชาวบ้านฉุกคิดว่า ลายเก่า ๆ ที่ทำมาก็ดี ก็ทำได้ แต่ในแง่การตลาดก็จะจำหน่ายลำบาก เพราะมีแต่ลายเดิม ๆ โดยพระองค์ได้พระราชทานลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ลายขิดนารีรัตนราชกัญญา และลายดอกรักราชกัญญา รวมทั้งลายผ้าบาติกต่าง ๆ จนทำให้ทุกวันนี้ชาวบ้านในทุกถิ่นที่ชนบทและผู้ประกอบการ OTOP ผ้าไทย สามารถลืมตาอ้าปากได้ ด้วยน้ำพระทัยอันเปี่ยมล้นไปด้วยพระกรุณาธิคุณที่ชุบชีวิตให้คนที่ไม่มีรายได้ ให้คนที่เคยทำแต่ผ้าลวดลายดงเดิม ๆ ได้มีรายได้ที่เพิ่มพูน มีเงินทองเลี้ยงดูจุนเจือลูกหลานและครอบครัว และมีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

“ทิพยประกันภัยทำให้วันนี้เป็นนิมิตหมายอันดีและจะเป็นต้นแบบทำให้เกิดการกระตุ้นบริษัทภาคเอกชนขนาดใหญ่ จับมือร่วมเป็นภาคีเครือข่ายกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย จึงขอขอบคุณท่านผู้บริหาร และพนักงานทุกท่าน ที่ได้ให้ความสำคัญและดำเนินการตามโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ชิคแอนด์ชิล ด้วยผ้าไทย ไปกับทิพย ที่ถือเป็นโครงการ CSR แห่งความยั่งยืน อันจะทำให้เกิดความคิดริเริ่มต่อยอดทำให้ผลิตภัณฑ์ผ้าไทยซึ่งมีหลากหลายชนิดมาก ทั้งผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ ผ้าแพรวา ผ้าย้อมคราม ผ้าหม้อห้อม ผ้าปัก ผ้าบาติก ผ้าปาเต๊ะ และผ้าชนิดอื่นๆ ซึ่งล้วนแต่เป็น Handmade จากฝีไม้ลายมือของพี่น้องชาวบ้านช่วยกันทำในทุกขั้นตอน ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ในการทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยผืนผ้าไทย และขอบคุณความคิดดี ๆ ที่พี่น้องทิพยประกันภัยได้แสดงให้โลกนี้รู้ว่า “Action Now ทำทันที” คือสิ่งที่พวกเราคนไทยทุกคน ต้องจับมือกันเพื่อทำให้ประชาชนคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการผ้าไทยที่อยู่ในทุกถิ่นที่ชนบท ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

ด้าน ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ทิพยประกันภัย กล่าวว่า ทิพยประกันภัย ร่วมสืบสานพระราชปณิธานและเฉลิมพระเกียรติ 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสนองแนวพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จับมือ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดงาน “ชิคแอนด์ชิล ด้วยผ้าไทย ไปกับทิพย”ภายใต้โครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” รณรงค์ให้พนักงานแต่งกายด้วยผ้าไทยในวันทำงาน นับว่าเป็นองค์กรแรกในธุรกิจประกันภัยไทย ที่เดินหน้าปลุกกระแสการสวมใส่ผ้าไทย เพื่อร่วมอนุรักษ์ ส่งเสริม สืบสาน รักษา และต่อยอด มรดกภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย ตลอดจนสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างยั่งยืน ผ่านการเชิญชวนผู้บริหารและพนักงานทุกสาขาทั่วประเทศสวมใส่ผ้าไทยในวันทำงาน ทุกวันพฤหัสบดีตลอดปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยผลักดันและส่งเสริมให้เกิดการเห็นคุณค่าของผ้าไทยตามโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” อย่างต่อเนื่อง อาทิ ประกวดการแต่งกายด้วยผ้าไทยของผู้บริหารและพนักงาน บมจ. ทิพยประกันภัย การนำผ้าไทยทุกชนิดมาแลกเปลี่ยนกับผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย ตามราคาขายของผ้าไทยที่นำมาแลก ซึ่งจะไม่เกินค่าเบี้ยประกันภัย ของ บมจ. ทิพยประกันภัย อีกทั้งการมอบของที่ระลึกในนาม บมจ. ทิพยประกันภัยแก่คู่ค้าโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผ้าไทย รวมถึงบริษัทฯ จะจัดกิจกรรมพิเศษให้กับลูกค้าและประชาชนทั่วไปได้สามารถเข้าร่วมโครงการ โดยทุกวันพฤหัสบดีหากสวมใส่ผ้าไทยมาซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัทฯ ก็จะได้รับส่วนลดพิเศษซึ่งสามารถติดตามช่วงเวลาในการเริ่มกิจกรรมผ่านช่องทาง Website , Facebook Fanpage , Line OA ของทางบริษัทฯ รวมทั้งจะได้ส่งเสริมให้ตัวแทนในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งร้านจำหน่ายผ้าไทย เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก และส่งเสริมอาชีพให้กับพี่น้องผู้ประกอบการผ้าไทย ต่อไป

“ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยและท่านนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ในการเป็นผู้ริเริ่มการน้อมนำพระราชดำริ ทำให้เกิดการต่อยอดลมหายใจ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับพี่น้องคนไทยในชนบทและผู้ประกอบการผ้าไทย ให้ได้มีชีวิตที่มั่นคง มีรายได้จุนเจือครอบครัว และถ้าพวกเราร่วมกันผนึกกำลังภาคีเครือข่ายภาคธุรกิจเอกชนมาร่วมขับเคลื่อน นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจฐานรากแล้ว นี่เป็นเอกลักษณ์ไทยอย่างแท้จริง และจะเป็นการสร้างความนิยมในเรื่องของผ้าไทยให้ขยายไปสู่ภูมิภาคอื่น ๆ และขอยืนว่า “ผ้าไทยใส่แล้วสนุกจริง ๆ” และที่พวกเราชาวทิพย กล่าวว่า ผ้าไทยใส่แล้วชิคแอนด์ชิลได้ เพราะใส่ผ้าไทยแล้วไม่ได้ดูโบราณ วันนี้เราคนไทยนำสมัยและเป็นต้นแบบของแฟชั่นผ้าไทยในเวทีโลก” กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทิพยประกันภัย กล่าวเพิ่มเติม