อมรัตน์ ซัดประยุทธ์ ไร้วุฒิภาวะ ไม่เหมาะสมแคนดิเดตนายก หลังเกิดกรณีป้านา ราชบุรี ใช้กำลัง-ปิดปาก

อมรัตน์ ชี้กรณีป้านา หากผู้นำที่มีสติปัญญาจะมีวิธีการรับมือผู้เห็นต่างอย่างเหมาะสม ซัดประยุทธ์ ไร้วุฒิภาวะ ไม่เหมาะสมแคนดิเดตนายก

อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่ตำรวจเข้าจับกุม ‘ป้านา’ วันทนา โอทอง โดยใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ขัดขวางการแสดงออกทางการเมืองและมีการตั้ง 3 ข้อหาหนัก โดยอมรัตน์กล่าวว่าตนเข้าใจความจำเป็นในหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้นำ แต่การใช้กำลังรุนแรงปิดปากฉุดกระชากลากถูกับหญิงผู้สูงอายุคนเดียว ต้องถามว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่

ทั้งนี้หากประยุทธ์เป็นผู้นำที่มีสติปัญญาควรมีการซักซ้อมทำความเข้าใจกับทีมตนเองว่าเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินควรมีแนวปฏิบัติอย่างไร ต้องมีการเจรจาพูดคุยทำความเข้าใจ และใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักอย่างเหมาะสมไม่ใช่ใช้มุมมองแบบทหาร มองเพื่อนร่วมชาติที่มีจุดยืนการเมืองคนละขั้วเป็นอริราชศัตรู แบบที่มองภัยจากภายนอกประเทศ” อมรัตน์กล่าว

ส่วนประเด็นการตั้งข้อกล่าวหาหนักต่อป้านา ว่าขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ตนอยากถามว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ไปตรวจราชการที่ อ.บ้านโป่งครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี หรือใช้ตำแหน่งนายกฯ เป็นข้ออ้างไปติดตามงานเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง เพราะรู้กันอยู่ว่าบ้านโป่งเป็นเขตพื้นที่ส.ส.ย้ายพรรคจากปชป.ไปซบพรรครวมไทยสร้างชาติ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ส่วนประเด็นที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงคนที่ชู 3 นิ้วว่าให้ไปหาหมอป่วย และมาเพราะต้องการอะไรสักอย่าง
อมรัตน์ให้ความเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ก็รู้นี่ว่าประชาชนที่มารอพบท่านมาเพราะต้องการอะไรบางอย่าง
เลยต้องถามว่าเมื่อทราบแล้วในฐานะผู้นำเคยออกมารับฟังพวกเขาไหม
และนี่ขนาดกำลังจะเข้าสู่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังไม่เปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำ ทั้งที่มีบทเรียนอยู่แล้ว

“การที่นักการเมืองซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะไปที่ไหนจะมีคนสนับสนุน เห็นด้วย คัดค้าน เป็นเรื่องปกติ แต่การใช้อำนาจปิดปากผู้ที่ออกมาแสดงออกเช่นนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีภาวะผู้นำในการจัดการเรื่องพวกนี้เลย วันนี้กำลังจะออกจากหมวกผู้นำเผด็จการ มาลงสนามเลือกตั้งแล้วแต่ยังละนิสัยเดิมไม่ได้ จึงอยากถามว่าคนที่ไม่มีมีภาวะผู้นำแบบนี้สมควรเสนอตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่” อมรัตน์ตั้งคำถาม

สุดท้าย อมรัตน์กล่าวว่าการแสดงออกเช่นนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์สะท้อนให้เห็นตัวตนของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ลุแก่อำนาจ เป็นผู้นำที่เผด็จการอำนาจนิยม มีลักษณะโอหังคลั่งอำนาจตรงตามญัตติพรรคฝ่ายค้านที่ได้เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ และคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะต้องเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ จนถึงวันเลือกตั้ง

“ช่องคอมเมนต์คุณก็ปิด จะให้ประชาชนไปแสดงออกที่ไหน อยากให้เปิดช่องคอมเมนต์ ประชาชนจะได้ไม่ต้องมาตะโกน ในโซเชียลมีเดียคุณปิดช่องคอมเม้นท์

ประชาชนพูดผ่านตัวแทนในสภาก็โดนประธานปิดไมค์ คิดหรือว่าจะใช้วิธีนี้สยบประชาชน แจ้ง 3 ข้อหาหนักเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู วิธีนี้ไม่ได้ผล เพราะความอึดอัดคับข้องใจทำให้วิธีการนี้จะไม่ได้ผลอีกต่อไป

มีประชาชนจำนวนหนึ่งที่ก้าวข้ามความกลัวเพราะความคับแค้นที่สะสมมานาน การปกครองด้วยความกลัวใช้ไม่ได้ผลแค่ระยะหนึ่งเท่านั้น
ไม่ใช่ทุกคนจะสยบยอมกับอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์”
อมรัตน์กล่าวทิ้งท้าย