การทำความเข้าใจต่อสภาพการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันจะต้อง เริ่มต้นจากจุดไหน บางคนอาจเริ่มจากก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549

มองเห็นภาพการเคลื่อนไหวของ”พันธมิตรประชาชนเพื่อประ ชาธิปไตย”ว่าดำเนินมาอย่างไร ทำไมนายกรัฐมนตรีต้องเป็น พล.อ.สรยุทธ์ จุลานนท์

บางคนอาจเริ่มจากบทบาทของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เดินออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ก่อการชุมนุมที่ย่านสามเสนกระทั่งสถาปนามวลมหาประชาชน”กปปส.”

แล้วลงเอยด้วยรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 ทำไมนายกรัฐมนตรีต้องเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

บางคนอาจเริ่มจากสถานการณ์ภายหลังการเลือกตั้งเดือนมี นาคม 2562 การขึ้นมาแสดงบทบาทของพรรคอนาคตใหม่โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล

ขณะเดียวกัน สำหรับบางคนอาจจับตาไปยังบทบาทของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะ”เส้นเลือดใหญ่”ในการจัดตั้งรัฐบาลเมื่อเดือนมิถุนายนจนได้เป็น”รัฐมนตรี”

และจุดร้อนแรงเป็นอย่างยิ่งมาอยู่ที่เดือนกันยายน 2564

 

บทบาทของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในเดือนกันยายน 2564 อาจ ถูกมองว่าเป็นเรื่องความแค้นส่วนตัว แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ ความแค้นนี้มีผลสะเทือนลึกซึ้งกว้างขวาง

เพราะเป็นความแค้นระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในเบื้องต้นลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แต่ล่วงมาถึงเดือนมีนาคม 2566 สังคมก็เริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วว่าเป็นความพ่ายแพ้หรือเป็นชัยชนะกันแน่

เนื่องจากมี”มือที่มองไม่เห็น”จำนวนมากดุนอยู่ข้างหลังของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ว่าจะเป็นมือในรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นมือจากนอกรัฐบาล

การแยกตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จาก”พลังประชารัฐ” ไปจัดตั้ง”รวมไทยสร้างชาติ” คือรูปธรรมสำคัญ

 

มีความพยายามจะสรุปว่า การแยกตัวของ”พี่น้อง 3 ป.”ดำเนินไปในกลยุทธ์”ลับ ลวง พราง” แท้จริงแล้ว แนวทางยังเป็น”แยกกันเดิน”ในที่สุดก็”รวมกันตี”

ขณะที่มีเสียงหัวร่อจนตัวโยนก้องกังวานมาจาก”ดูไบ”เป็นเสียงหัวร่อพร้อมกับการเปิดตัว นส.แพทองธาร ชินวัตร มากับ”ครอบครัวเพื่อไทย” และการเดินสายพบประชาชนในขอบ เขตทั่วประเทศจากอีสานเ หนือ ทะลวงไปยังภาคใต้

เป้าหมายคือ”แลนด์สไลด์” โค่นอำนาจของ”คสช.”โดยตรง