‘ณัฐพงษ์’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาครก้าวไกล เผย กมธ. ยื่นร่างกฎหมายประมงต่อประธานสภาแล้ว หลัง กมธ. ร่วมมือทำงานจนเสร็จ

‘ณัฐพงษ์’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาครก้าวไกล เผย กมธ. ยื่นร่างกฎหมายประมงต่อประธานสภาแล้ว หลัง กมธ. ร่วมมือทำงานจนเสร็จ เชื่อ การกระจายอำนาจให้คณะกรรมการประมงจังหวัด ช่วยแก้ปัญหาประมงในพื้นที่-ชูให้นายก อบจ. นั่ง ประธาน – เพิ่มสัดส่วนชาวประมง

วันที่ 9 มีนาคม 2566 ที่อาคารรัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ได้ยื่นร่างที่พิจารณาในชั้นกรรมาธิการแล้วเสร็จ ส่งต่อให้ประธานรัฐสภาดำเนินการต่อไป

ณัฐพงษ์ สุมโนธรรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ สัดส่วนพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่การพิจารณาแก้ไขกฎหมายประมงแล้วเสร็จในชั้นกรรมาธิการ เกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งพรรคการเมือง สมาคมด้านการประมง กรรมาธิการ และที่ปรึกษาทุกคน ทำให้เราสามารถใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด ผลักดันเรื่องนี้จนลุล่วง แม้ว่าหลายๆ เรื่องจะมีข้อคิดเห็นแตกต่างกันในที่ประชุม แต่ก็มีการถกเถียงพูดคุยและสงวนความเห็นกันไป อะไรที่เป็นจุดร่วมก็ร่วมพิจารณากัน

“แม้ว่าด้วยเงื่อนเวลาที่ปิดสมัยประชุมสภาฯ ไปแล้ว จึงไม่สามารถให้รัฐสภาเห็นชอบจนออกเป็นกฎหมายได้ แต่การที่ร่างแก้ไขในชั้นกรรมาธิการสำเร็จได้ ก็อาจจะกลายเป็นร่างฉบับที่ 8 ที่จะให้รัฐบาลและรัฐสภาชุดหน้า หยิบไปพิจารณาต่อได้เลย แม้ยังมีหลายเรื่องที่จำเป็นต้องเปิดพื้นที่ให้เวลาได้พิจารณาแลกเปลี่ยนกันในรายละเอียดตามที่มีกรรมาธิการสงวนความเห็น” ณัฐพงษ์กล่าว

ณัฐพงษ์ กล่าวว่า อีกเรื่องที่น่ายินดี คือในร่างแก้ไข พ.ร.ก. ประมงฯ ฉบับที่พูดคุยกันในชั้นคณะกรรมาธิการ มีการตั้งข้อสังเกตไว้ด้วยว่าให้มีการกระจายอำนาจไปยังคณะกรรมการประมงจังหวัดเพิ่มมากขึ้น แต่เรื่องที่ตนได้สงวนความเห็นไว้ด้วยคือ ตำแหน่งประธานคณะกรรมการประมงจังหวัด ควรให้ นายก อบจ. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในพื้นที่ ดำรงตำแหน่ง ไม่ใช่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากการแต่งตั้งของส่วนกลาง และสัดส่วนคณะกรรมการประมงจังหวัด เราเสนอให้ยึดตามร่างของ วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เพิ่มสัดส่วนชาวประมงและนักการเมืองท้องถิ่นที่ประชาชนเลือก มากกว่าที่จะมาจากราชการส่วนภูมิภาค

การกระจายอำนาจให้คณะกรรมการประมงจังหวัด ย่อมจะกำหนดกติกาที่ดูแลและรักษาทรัพยากรได้ดียิ่งกว่าที่จะถูกกำหนดโดยราชการส่วนกลาง เนื่องจากทะเลแต่ละพื้นที่ มีบริบทแตกต่างกัน ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคนที่อยู่ในพื้นที่ของตัวเอง เช่น เรือใหญ่ ขนาดใดบ้าง ถึงสามารถทำการประมงในเขต 3-6 ไมล์ทะเลได้ ด้วยอุปกรณ์อะไร และจำนวนเท่าไร นี่คือความยืดหยุ่นที่ให้แต่ละจังหวัดกำหนดกติกากันเอง ซึ่งจะช่วยรักษาทรัพยากรประมงได้ดีกว่าเดิมแน่นอน

“ผมและพรรคก้าวไกลมีความตั้งใจอย่างเต็มที่ในการผลักดันและแก้ไขปัญหาประมง เพื่อช่วยซับน้ำตาที่พี่น้องชาวประมงต้องรับภาระและได้รับความไม่เป็นธรรมมาตลอดเกือบ 8 ปี โดยยืนยันว่ากฎหมายต้องเป็นธรรม มองครบทุกมิติ และยืนยันหลักการกระจายอำนาจ เพื่อหาสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ทรัพยากรไปพร้อมกับการทำมาหากินของพี่น้องชาวประมง” ณัฐพงษ์ กล่าว