“สักหน้า” วิธีการประจาน ในกฎหมายตราสามดวง

ญาดา อารัมภีร
ภาพนักโทษฉกรรจ์สมัยต้นศตวรรษที่ 20 จากหนังสือ The Country and People of Siam โดย Karl Döhring

“พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน” อธิบายว่า ‘สัก’ ที่เป็นคำโบราณ หมายถึง ทำเครื่องหมายโดยใช้เหล็กแหลมจุ้มหมึกจิ้มที่ผิวหนังเพื่อแสดงเป็นหลักฐานบนร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่น ข้อมือ แขน อก แก้ม หน้าผาก เป็นต้น

“พระไอยการลักขณโจร” ในกฎหมายตราสามดวงฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม 1 บันทึกว่า

“108 มาตราหนึ่ง โจรปล้นสดมย่องเบา ตีชิงชกล้วงลอบลักช้างม้าข้าคนวัวควายเรือเกวียรทรัพยสิ่งใดๆ ให้ลงโทษด้วยลวดหนัง แลศักสิ่งอันลักไว้ณะอก ให้ไหมโดยบทพระอายการ ถ้าลักถึงสองครั้งให้ทวนด้วยลวดหนัง ให้ศักสิ่งอันลักไว้ณะแก้ม ให้ไหมดุจเดียว ถ้าโจรลักถึงสามครั้งให้ทวนด้วยลวดหนัง แลให้ศักสิ่งอันลักไว้หน้าผาก ให้ตัดนิ้วมือเสีย แล้วให้ไหมดุจเดียว…” (อักขรวิธีตามต้นฉบับ)

จะเห็นได้ว่าสักเป็นรูปสิ่งที่ขโมย ลักช้างไปขาย สักรูปช้าง ลักเกวียนไปขาย สักรูปเกวียน ฯลฯ ทำผิดซ้ำซากจะถูกสักเพิ่ม จากสักที่อก เพิ่มแก้ม และหน้าผาก ตามลำดับ ทั้งยังมีโทษอื่นๆ ด้วย

การสักหน้าผาก เรียกสั้นๆ ว่า ‘สักหน้า’ ทำเพื่อประจาน เป็นวิธีลงโทษในสังคมไทยสมัยก่อน สักได้ทั่วถึงทุกเพศทุกสถานะ ดังปรากฏใน “พระไอยการลักษณผัวเมีย” ในกฎหมายตราสามดวงฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่มเดียวกัน

“35 มาตราหนึ่ง หลานทำชู้ด้วยเมียลุงตา ปู่อาวอาน้าพี่ตนเอง มันผู้มิกลัวเกรง มันมิอายแก่บาปดั่งนั้นให้เอามันคนร้ายจำใส่ตรวน ขื่อ คา เอาน้ำมึกศักหน้าทังหญิงชาย …” (อักขรวิธีตามต้นฉบับ)

 

นอกจากสักเป็นรูปต่างๆ ยังสักเป็นตัวอักษร ตัวละครที่คุ้นเคยกับการสักหน้าทั้งที่เป็นฝ่ายสักและถูกสัก คือ ‘หนุมาน’ พญาลิงเผือกทหารคู่ใจของพระราม

บทละครในเรื่อง “รามเกียรติ์” รัชกาลที่ 2 ทรงเล่าว่า หนุมานเห็นทศกัณฐ์พญายักษ์นอนเคียงนางมณโฑมเหสีบนแท่นบรรทม เกิดความเคียดแค้น คิดกลั่นแกล้งโดยผูกผมทศกัณฐ์กับผมนางเข้าด้วยกัน

“จำจะทำทรมานประจานไว้ ให้สมสาแก่ใจอสุรี

ว่าพลางทางผลักพลิกกลับ เอาผมผูกติดกับมเหสี

แล้วซ้ำเสี่ยงสัจจาวาที ข้าทำนี้จะให้มันได้อาย

อันอาวุธสาตราสารพัด จะเชือดตัดอย่าขาดเหมือนมาดหมาย

ถึงมีผู้รู้มนตร์มากมาย จะแก้ไขอย่าได้คลายเคลื่อนคลา

แล้วเขียนลักษณ์อักษรเป็นสำคัญ ที่หน้าผากทศกัณฐ์ยักษา

แม้นจะใคร่ได้พ้นทรมา จงทำตามตำราเราว่าไว้

ให้เมียชกหัวผัวสามที ผมนี้จึ่งจะหลุดออกได้”

ร้อนถึงพระฤๅษีโคบุตรต้องรีบมาช่วยลูกศิษย์ ร่ายคาถาก็แล้ว ใช้สองมือดึงก็แล้ว ใช้พระขรรค์ตัดผมยังตัดไม่ขาด พระฤๅษีเห็นหน้าเท่านั้นก็สิ้นสงสัย

“พอเห็นรอยจารึกเหมือนหมึกสัก ที่หน้าผากทศพัตร์ยักษา

อ่านดูรู้แจ้งกิจจา พระสิทธาลูบอกตกใจ”

ในที่สุดผมหลุดจากกันเพราะนางมณโฑ ‘ค่อยค่อยต่อยศีรษะสามี ผมคลี่คลายเคลื่อนเลื่อนหลุดไป’

 

กรรม คือ การกระทำ ทำสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้น หลายปีผ่านไป ใครจะนึกว่าหนุมานทหารกล้าที่ใครๆ กลัวเกรงกลับเสียท่าพ่ายแพ้สองกุมาร พระลบแนะพระมงกุฎว่า

“ชะรอยไอ้ลิงนี้จะมีนาย ใช้มาทำร้ายเราสองรา

อย่าเพ่อฆ่ามันให้บรรลัย มัดไปให้นายขายหน้า”

กุมารทั้งสองร่วมแรงร่วมใจ

“ทึ้งเอาเถาวัลย์มาทันใด

ช่วยกันผูกรัดมัดไพล่หลัง ชิงชังฉุดคร่าไม่ปราศรัย

แล้วสักหน้าวานรด้วยยางไม้ เป็นอักษรสาปไปดังใจจง

แม้นผู้อื่นหมื่นแสนจะแก้มัด ถึงเชือดตัดอย่าให้ขาดโดยประสงค์

ถ้าเจ้าของลิงนั้นมั่นคง แค่ลูบลงให้หลุดดังจินดา”

หนุมานสุดแสนอัปยศ บากหน้ากลับไปเฝ้าพระพรตพระสัตรุด ทั้งคู่พยายามช่วยแก้มัดและ ‘เชือดฉะด้วยพระขรรค์ เถาวัลย์จะขาดก็หาไม่’ เมื่อเห็น ‘อักษรสาปไว้ที่หน้านั้น’ ก็สั่งให้หนุมานรีบกลับไปเฝ้าพระรามที่กรุงอยุธยา คำสาปที่สักแสกหน้าแก้ไขได้เพราะพระราม

“จึ่งพินิจพิศดูวานร เห็นอักษรสาปไว้ที่แสกหน้า

คิดพะวงสงสัยวิญญาณ์ จึ่งเรียกมาอ่านดูด้วยพลัน

ก็แจ้งว่าคำสาปหยาบคาย พระนารายณ์เคืองขุ่นหุนหัน

เอาพระหัตถ์ลูบลงตรงวัลย์ ที่ผูกพันก็เคลื่อนเลื่อนหลุดไป”

 

“อักขราภิธานศรับท์” ของหมอบรัดเลย์ ให้ความหมายว่า

“สักหน้า คือ เอาเหล็กสำหรับสักแทงลงที่หน้า. แล้วเอาหมึกทาลง, สักหน้านี้แต่คนต้องโทษหลวงนั้น.”

“พระราชกำหนดใหม่” ในกฎหมายตราสามดวง ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม 2 ระบุโทษของผู้ทำเงินปลอมใช้ในพระนครว่า

“ทรงพระกรุณาให้ลงพระราชอาญาเฆี่ยน ริบราชบาทตัดนิ้ว ศักหน้า ถะเวรบกสามวันถะเวรเรือสามวัน ส่งตัวไปจำไว้ณะคุกกว่าจะตาย อย่าให้คนร้ายดูเยี่ยงหย่างกัน” (อักขรวิธีตามต้นฉบับ)

นอกจากนี้พระสงฆ์ที่ต้องโทษปาราชิกเสพเมถุน ขาดจากความเป็นพระภิกษุ บวชเป็นพระอีกไม่ได้ “นิราศเดือน” ของนายมี หรือหมื่นพรหมสมพัตสร บรรยายว่า

“ท่านจับสึกสักหน้าพากันอาย พวกหญิงชายฦๅดังทั้งพิภพ

เพราะโลกีย์ฟั่นเฝือเหลือสละ แต่เป็นพระแล้วยังคิดผิดขนบ”

หนังสือ “ภาษาไทยวันละคำ ฉบับรวมเล่ม” ให้รายละเอียดว่า

“ภิกษุที่ต้องโทษปาราชิกจะถูกสักเครื่องหมายที่หน้าผาก เรียกว่า สักพระปาราชิก ปัจจุบันการสักพระปาราชิกไม่มีแล้ว”

มิน่า ข่าวคาวข่าวฉาวมีรายวัน •