เดินหน้าอย่าลืมหลัง

พิชัย แก้ววิชิต

เดินหน้าอย่าลืมหลัง

 

ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มจ้าไปด้วยแสงแดด ตึกน้อยใหญ่หลากหลายรูปแบบต่างระดับความสูง ชัดเจนอยู่ด้วยสีสันและแสงเงา

ทุกย่างก้าวของการเดินถ่ายภาพ ผมตอบไม่ได้ว่าวันนี้จะถ่ายภาพอะไรมาได้บ้างจากกล้องตัวเล็กที่อยู่ในกำมือ

การมองหาให้ได้เห็นซึ่งมุมมอง กับความชอบทำที่มักเอาแต่ใจตัวเองเป็นตัวตั้ง และลดน้อยถอยลงกับกฎนิยมของข้อบังคับตามตำรามีของการสร้างภาพ เพื่อแลกแล้วกับความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่พึงมีและพึงทำได้

ในแบบบทของวิถีที่เป็นอยู่

 

เบื้องหน้ามีหลายสิ่งให้ได้พบเจอจากสายตาที่มองตรงไป แต่ก็น้อยนักกับมุมมองที่ผมยังไม่พบเห็นจากความรู้สึก

และด้วยเหตุนี้ ผมมักจะหันกลับไปมองสิ่งที่อยู่ข้างหลังเป็นระยะ ในขณะที่ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ จากสิ่งที่ผมเพิ่งเดินผ่านมา ก่อนที่จะเดินผ่านไป

มันเป็นเรื่องของมุมที่ได้มอง เพราะองศาที่แตกต่างในจุดที่ยืนอยู่ จากความใกล้ไกล และความสูงต่ำ ภาพที่เห็นจึงไม่เหมือนกัน

การมุ่งแต่จะมองไปข้างหน้าไม่เหลียวแลทิศทางใดอีก อาจทำให้เห็นแค่ภาพเฉพาะมุมมองของสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และก้าวไปต่อโดยอาจละทิ้งภาพอื่นอีกจากหลายมุมมองไว้เบื้องหลัง

มากทิศหลายทางที่เดินถึง ถ้าไม่รีบเร่งจนเกินไปนัก อยากให้หยุดยืนแล้วมองไปโดยรอบ เพื่อที่จะเห็นภาพโดยรวมได้มากกว่าการเดินดุ่มๆ เพื่อหามุมสวยจากความทรงจำเพียงอย่างเดียว อาจทำให้พลาดมุมของความงาม ที่ซุกซ่อนอยู่ในซอกหลืบของการสังเกตเห็นที่ไม่เคยหยุดยืนมอง

การมองหาภาพให้ถูกใจตามความรู้สึก ภาพความพอใจอาจมันไม่สวยสมบูรณ์แบบ แต่ก็เชื่อใจได้เสมอถ้าไม่คิดให้มากไป กับความงามของความที่ไม่สมบูรณ์

การเดินหน้าโดยไม่เหลียวหลัง อนาคตจะเป็นอย่างไร ถ้าไม่เห็นภาพที่ชัดเจนของอดีต อนาคตภายภาคหน้าที่กำลังตามหา อาจเกาะอยู่ข้างหลังมาโดยตลอด มีเรื่องราวอีกมากถูกเข้าใจว่า มันเป็นของโบราณกาลเก่า ผ่านไปแล้วไม่ควรใส่ใจ หากแต่ความเป็นจริง ปัจจุบันล้วนมีที่มาจากอดีต “เมื่อเรารู้แจ้งในอดีต เราก็จะเข้าใจในปัจจุบัน และรู้แล้วกับมุมมองของอนาคต” / เทคนิค : F.8 1/1600 ISO.100 / สถานที่ : มักกะสัน กรุงเทพฯ

เหตุผลที่ไม่ละทิ้งมุมใดมุมหนึ่งไว้ โดยไม่หันไปมอง เพราะไม่อยากให้พลาดในสิ่งที่ควรจะได้เห็น เมื่อไม่เห็นแล้วที่จะหยุดยืนดูบางสิ่งบางอย่าง เดินตรงเลยผ่านไปโดยไม่หันหลับไปมอง ความพลาดไปอาจทำให้เห็นได้น้อยกว่า

ในท้ายที่สุด ทางตรงก็อาจเป็นทางตัน เพราะมากกว่าองศา มากกว่าแง่มุม ก็คือหัวใจอันหลากด้วยมิติ ที่จะเปิดโอกาสให้กว้างมากพอ เพื่อจะได้นำพาตัวเองชมโลกที่มีอยู่โดยรอบอย่างคุ้มค่ากับเวลาที่ก้าวเดินไป

เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ของการถ่ายภาพ กับในแง่ในมุมอื่นอีกของการใช้ชีวิตก็คงจะใช้วิธีนี้ได้บ้าง ถ้าจะลองกันดู ก็มีบ้างบางครั้งที่อาจหลงทางไปกับจุดที่ยืนอยู่ “หลายคนอาจกำลังมองดูอยู่กับสิ่งที่ยังไม่เคยเห็น และกำลังเข้าใจในสิ่งที่ไม่เคยรู้”

 

การเดินหน้าโดยไม่เหลียวหลัง อนาคตจะเป็นอย่างไร ถ้ายังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนของอดีต

อนาคตภายภาคหน้าที่กำลังตามหา อาจเกาะอยู่ข้างหลังมาโดยตลอด

มีเรื่องราวอีกมากถูกเข้าใจว่ามันเป็นของโบราณกาลเก่า ผ่านไปแล้วไม่ควรใส่ใจ

หากแต่ปัจจุบันล้วนมีที่มาจากอดีต “เมื่อเรารู้แจ้งในอดีต เราก็จะเข้าใจปัจจุบัน และรู้แล้วกับมุมมองของอนาคต”

เมื่อหันหลังกลับไปมองแล้วสืบค้น ก็จะเห็นภาพมุมมองใหม่ๆ จากอดีต กับความเข้าใจที่ดีขึ้น เพราะโลกมันสวยเกินกว่าจะมองมุมเดียว อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดจะได้ดีแก่ตัวเจ้าของ เมื่อพบเห็นของสวยของงามในหลายแง่มุม ความเข้าใจจะตรงกัน เมื่อเห็นมุมมองของกันและกัน

ขอบคุณมากมายครับ •

 

เอกภาพ | พิชัย แก้ววิชิต