จดหมาย

• สวัสดีปีเถาะ

หากเปรียบเทียบประเทศไทยเป็นคนคนหนึ่ง

คนที่เคยมีรูปร่างสูงใหญ่ บึกบึน ล่ำสันแข็งแรง เหมือนคนไทยโบราณ

แต่มาวันนี้ คนไทยนั้นกลายเป็นคนหัวโต แขนขาลีบ ซี่โครงบาน พุงป่อง ก้นปอด

ในท้องไส้เต็มไปด้วยพยาธิ ทั้งตัวตืด ไส้เดือน เส้นด้าย ปากขอ ยั้วเยี้ยไปหมด

ส่วนร่างกายข้างนอก เต็มไปด้วยเห็บหมัด เกาะเต็มตัวไปหมดเช่นกัน

ในท้องก็โดนสูบเลือดสูบเนื้อ

ตามเนื้อตามตัวก็โดนสูบเลือดสูบเนื้อ

หากเป็นแบบนี้เรื่อยไป ไม่มีการถ่ายพยาธิ หรือกำจัดเห็บหมัด

อนาคตก็คงถูกส่งขึ้นเมรุ ให้พระสวด กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา เป็นแน่แท้

ไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายนะ

ดูภาพเสาไฟฟ้ากินรี เป็นตัวอย่าง

สงสารบ้านเมืองจริงๆ นี่แค่ส่วนภูธรนะ หากเป็นนครบาล ที่กุมอำนาจกันมโหฬารพันลึก มันจะแค่ไหน

มิน่า ถึงชอบแย่งกันเป็นรัฐบาลนัก

ชอบแย่งคุมกระทรวงใหญ่ๆ

ดูภาพของเจ้าเหมียว กับเจ้าตูบคู่นี้ก็แล้วกัน

นั่งจ้องหน้าคุมเชิง โดยมีจานข้าวคลุกปลาทูวางอยู่ตรงกลาง

ภาพนี้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เมื่อ 51 ปีที่แล้ว ฉบับละ 1 บาท

จั่วหัวไว้ว่า คุมเชิง

แล้วมีคำบรรยายว่า

“เฮ้ย คุณแมว ปกติเราเคยกินข้าวชามเดียวกันนะ ทำไมลื้อถึงได้ทำกับอั้วอย่างนี้ละเฟ้ย…

ลื้อไม่ได้ยินคำพูดของ ส.ส. หรือฟะ เพื่อนฝูงทำกันอีแบบนี้ (บ้านเมือง) จะอยู่กันยังไง…ฮ่า”

นั่นเป็นภาพถ่าย และคำบรรยายของอีตาปิยพงศ์ ในอดีต

ตอนนั้นยังอยู่ในวัยเอ๊าะๆ และกำลังห้าว ในฐานะสื่อ ที่เป็นหูเป็นตาแทนชาวบ้าน

เลยกระเซ้าเย้าแหย่กระตุกให้รู้ตัวในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเหล่านักการเมืองในสภา ให้รู้ตัวกันบ้าง (ความเลอะเทอะเหลวแหลกแบบไทยๆ ในสภาอันทรงเกียรติ มีตั้งแต่ พ.ศ.โน้นแล้ว)

แต่หากเป็นใน พ.ศ.นี้

คงต้องเปลี่ยนคำบรรยายเสียใหม่

เป็น “เฮ้ย คุณไอ้เหมียว ไม่ต้องมาทำตามเขียวปั๊ดใส่ข้ายังงี้

ข้าว่าเรามาสามัคคีกันดีกว่า

เอาน่า…ข้าว่ามา ข้าคำ เอ็งคำ แป๊บเดียวก็หมดประเทศ เอ๊ย หมดจานไปเองล่ะวะ…ฮ่า”

สวัสดีนักการเมืองระดับชาติ

สวัสดีนักการเมืองส่วนท้องถิ่น

ในยุคพยาธิกินเมือง

พวกคุณรักเธอประเทศไทยกันจริงๆ ผับผ่า

สวัสดีความเศร้าประเทศไทย

ดารานำแสดง : ตูบและเหมียว ของหลวงตาเกริ่ม วัดสารอด เขตราษฎร์บูรณะ ธนบุรี

ตากล้อง : อีตาปิยพงศ์ (เมืองหละปูน) เจ้าเก่า

ปิยพงศ์ เมืองหละปูน

ความจริง ในห้วงเวลานี้

ควรจะเป็นเวลาสวัสดีปีใหม่

แต่เมื่อ “ปิยพงศ์” มาส่งท้ายปีเก่า

ด้วยการ “สวัสดีความเศร้า” ล่วงหน้า

ก็ให้ถือเสียว่าเป็นการเตือนใจ ให้ตั้งรับสำหรับในปี 2566

ที่เรากำลังรอ “ของขวัญชิ้นใหญ่ คือเลือกตั้ง” อย่างที่ ไมตรี รัตนา ว่า

ด้วยความหวังอย่างที่ “สงกรานต์ บ้านป่าอักษร” หวัง

คือ “กระต่ายหมายมั่นโลกศิวิไลซ์”

แต่กระนั้นดูเหมือนการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น

อาจจะเป็นอย่างที่ปี้ปิยพงษ์ว่า

คือเป็นเพียง “ข้าวปลาทูคลุกในจาน” ให้เจ้าตูบและเหมียวแย่งกันกิน

ส่วนประชาชนตาดำๆ จะได้ลิ้มรส “ข้าวในจาน” เพียงใด

อันนี้ไม่อยากคาดหมาย

 

แต่กระนั้นก็ไม่อยากให้ทุกคนสิ้นหวัง

ด้วยหวังลึกๆ อย่างที่ “ณัช ศรีบุรีรักษ์” หวัง

“ปีเถาะ เกาะความดัง สักครั้งเถิด

ฟ้าโปรดเปิด ทุกท่าน พลันเลิศล้ำ”

สวัสดีปีใหม่ ผู้อ่านมติชนสุดสัปดาห์ ทุกท่าน •