‘บิ๊กตู่’ ทหารเสือฯ ซ่อนเล็บ ลูบคม ‘พี่ใหญ่’ – เปิดสายสัมพันธ์ ‘2 ต. ตู่-ตุ๋ย’ และ ‘บิ๊กแดง’

‘บิ๊กตู่’ ทหารเสือฯ ซ่อนเล็บ เดินเกมเงียบ ลูบคม ‘พี่ใหญ่’ ภารกิจรวมไทยสร้างชาติ เปิดสายสัมพันธ์   ‘2 ต. ตู่-ตุ๋ย’ และ ‘บิ๊กแดง’

 

แม้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะยังไม่ประกาศด้วยวาจาออกมาให้ชัดเจนว่า จะย้ายไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ตาม

แต่การที่แต่งตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ลาออกจากที่ปรึกษานายกฯ มาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็ถือเป็นส่งสัญญาณชัดเจนแล้ว แบบที่ในหมู่นักการเมือง หรือรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่า นี้ยังไม่ชัดอีกหรือว่า พล.อ.ประยุทธ์ไปพรรค รทสช.แน่

แม้ว่าจะเกิดกระแสข่าวลือว่า พล.อ.ประยุทธ์เปลี่ยนใจจะกลับไปอยู่ พปชร.กับบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ และมีกาวใจระดับวีไอพี

รวมทั้งการที่ พล.อ.ประยุทธ์ไปโชว์ผัดกะเพราสูตรทหาร ในการลงพื้นที่สงขลา-พัทลุง พูดรำลึกสายสัมพันธ์พี่น้อง 3 ป.ที่เคยอยู่บ้านเดียวกันในค่ายทหารเสือฯ ร.21 รอ. กินข้าวหม้อเดียวกันก็ยังรักกันเหมือนเดิมก็ตาม

แต่การลุยลงพื้นที่ต่อเนื่อง และมีนายพีระพันธุ์มาเป็นเลขาฯ เคียงข้างลงพื้นที่ด้วย และจะต้องมาเจอกันที่ทำเนียบรัฐบาลทุกวัน มีเวลาพบปะหารือกันมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา นายพีระพันธุ์มักจะต้องไปหารือที่บ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์

เหตุนี้จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ฝ่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งนายพีระพันธุ์เป็นเลขาธิการนายกฯ อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ชื่นชมและไว้วางใจ เชื่อมือ ในฐานะที่เป็นนักกฎหมาย และอดีตผู้พิพากษา และเป็นสายเลือดทหาร

จึงมีความชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติแน่นอนเพราะเป็นพรรคของตัวเอง อีกทั้งก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ก็ระบุว่าสื่อก็น่าจะคิดเองได้ เพราะข่าวก็ออกมาแล้ว เพียงแค่ผมยังไม่ได้พูดออกมาเท่านั้น

รวมทั้งความเคลื่อนไหวแบบ ว.5 ในการพบปะ ส.ส. และคนที่จะเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ละกลุ่ม เป็นระยะๆ แต่เปลี่ยนจากที่เรียกไปพบในบ้านพักใน ร.1 รอ. ไปร้านอาหารในย่านซอยอารีย์ ไม่ห่างจากที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ

แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะปฏิเสธว่าไม่เคยไปกินข้าวกับ ส.ส.และนักการเมือง 40 คนก็ตาม แต่ข่าวที่ออกมา คือทยอยไปพบทีละกลุ่ม และมีภาพถ่าย พล.อ.ประยุทธ์กับ ส.ส.ยืนยัน ที่ก็สะท้อนชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติแน่นอน

จะว่าไปแล้ว พรรคนี้ก็เป็นพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งชื่อพรรค และการให้แรมโบ้ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ เมื่อครั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ เป็นคนออกหน้าจัดตั้ง โดยมีนายพีระพันธุ์อยู่เบื้องหลัง

 

หากจะเชื่อมโยงนายพีระพันธุ์กับ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่พบคอนเน็กชั่นที่ชัดเจนเพราะนายพีระพันธุ์ให้สัมภาษณ์สื่อว่า ไม่เคยรู้จักสนิทสนมกับ พล.อ.ประยุทธ์มาก่อน จึงไม่ได้ตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้นมาเพื่อรองรับ พล.อ.ประยุทธ์ หรือให้ พล.อ.ประยุทธ์สืบทอดอำนาจ แต่เพราะต้องการตั้งพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากได้ และไม่เคยมีมาก่อน

ทว่า ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์กับนายพีระพันธุ์แล้ว ถูกจับโยงว่า เพราะมีบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. เป็นตัวเชื่อม เป็นจิ๊กซอว์เชื่อมโยงอยู่ เพราะ พล.อ.อภิรัชต์เป็นน้องรักสายตรงของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่คอยช่วยเหลือ พล.อ.ประยุทธ์มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเคลียร์ทาง เคลียร์ปัญหาให้ในทุกระดับ

ในขณะเดียวกัน พล.อ.อภิรัชต์ก็เป็นเพื่อนรุ่นน้องของนายพีระพันธุ์ที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ที่สนิทสนมกันมาก เพราะเป็นลูกทหารด้วยกัน และสไตล์เดียวกัน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ทั้งพี่ตุ๋ย พีระพันธุ์ และน้องแดง อภิรัชต์ สมัยเรียน ออกแนวไม่ใช่เด็กเรียบร้อย เรียนก็ไม่ค่อยดี จนถูกตำหนิว่า “เป็นพวกไม่มีอนาคต”

จนทำให้เมื่อเติบโตมาเป็นนายทหารใหญ่ นั่งตำแหน่งสำคัญ จนเป็น ผบ.ทบ. พล.อ.อภิรัชต์ก็ไม่ยอมรับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นของเซนต์คาเบรียล ที่ปีนี้มีชื่อนายพีระพันธุ์ได้รับรางวัลด้วย เพราะยังติดใจ ฝังใจ ที่ถูกตำหนิสมัยเป็นเด็ก จึงมีการประสานให้นายพีระพันธุ์ไปเจรจา

แต่ พล.อ.อภิรัชต์ไม่ขอรับรางวัล

 

“ผมกับแดงวิ่งเล่นมาด้วยกัน เป็นพวกเรียนไม่เก่ง ผมนี่หัวหน้าแก๊งโดดเรียนเลย นำทำผิดระเบียบ ทั้งการแต่งตัว ใส่กางเกงสั้นมาก พอใส่กางเกงยาว ก็ยาวจนมาสเตอร์บอกว่า ยาวไป ผมก็ตัดให้สั่นจุ๊ดเลย ไม่ได้โดนตีนะ โดนหวดเลย” นายพีระพันธุ์กล่าวอย่างอารมณ์ดี

“เห็นผมแบบนี้ คิดว่าผมเรียบร้อย เรียนเก่ง ไม่อยากเรียนเก่ง อาย ได้ขึ้นเวที พยายามเรียนกลางๆ เพื่อนเยอะ เฮฮาสนุกกับเพื่อน” นายพีระพันธุ์กล่าว

แม้ภาพลักษณ์ที่ปรากฏจะดูเหมือนว่าเป็นลูกคุณหนู ไฮโซ ไม่ติดดิน แต่นายพีระพันธุ์ระบุว่า ถ้าใครรู้จักผมดีจะรู้ว่าผมนี่แหละติดดิน ชอบกินส้มตำปลาร้า กินอะไรง่ายๆ ลงพื้นที่กับชาวบ้าน ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ได้เป็น ส.ส.มาหลายสมัย เพียงแต่ที่ผ่านมาอาจเห็นผมใส่สูทเพราะเป็นเรื่องงานและต้องให้เกียรติสถานที่ แต่ถ้าเวลาลงพื้นที่ก็จะแต่งตัวสบายๆ มากขึ้น

ด้วยความเป็นลูกทหาร พล.ท.ณรงค์ สาลีรัฐวิภาค อดีตเจ้ากรมการพลังงานทหาร และเป็นผู้ริเริ่มทำปั๊มสามทหาร เห็นบิดาเป็นต้นแบบในการทุ่มเททำงาน

ในวัยเด็ก นายพีระพันธุ์จึงอยากเป็นทหาร แต่เพราะสายตาสั้น จึงไม่ได้สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ขณะที่เพื่อนหลายคนที่เรียนกวดวิชาที่อโณชามาด้วยกัน สอบเป็นทหาร เช่น บิ๊กต่าย พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน อดีต ผบ.ทอ.

 

หากนายพีระพันธุ์ได้เป็นทหาร ก็จะเทียบเตรียมทหาร 18 และเมื่อจบปริญญาตรี เคยจะไปสมัครเข้ารับราชการทหารที่ บก.ทัพไทย แต่ก็มีปัญหา ทำให้ไม่ได้เป็นทหารอีก

แต่แม้จะไม่ได้เป็นทหาร โดยเฉพาะนักบินทหารอากาศ แต่นายพีระพันธุ์ก็เคยได้รับอนุญาตจาก ทอ. ไปลองนั่งเครื่องบินเอฟ 16 มาแล้ว และมีเพื่อนเป็นทหารอากาศหลายคน

“ชะตากรรมผม สุดท้ายหนีไม่พ้นที่จะต้องมาทำงานการเมือง และถ้า พล.อ.ประยุทธ์มาอยู่พรรคผม ผมก็จะได้ทำงานกับทหาร” นายพีระพันธุ์ สายเลือดทหารระบุ

จะว่าไปแล้ว ชีวิตนายพีระพันธุ์ผูกพันกับทำเนียบรัฐบาล เพราะบิดาและมารดาได้จัดพิธีแต่งงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จนที่สุด ได้มาอยู่ทำเนียบฯ เป็นที่ปรึกษานายกฯ และเป็นเลขาธิการนายกฯ

“ผมตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ คิดเองหมด ทั้งชื่อ โลโก้ และรีโนเวตที่ทำการพรรค ผมอยากจะตั้งพรรคการเมืองในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำเพื่อประชาชนจริงๆ” นายพีระพันธุ์ระบุ

แต่ก็ยอมรับว่า ยังมีความพยายามที่จะไม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์มาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ท่านเป็นคนดี ผมอยากให้ท่านมา

 

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เตรียมแผนรองรับการมาของ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว ที่นอกจากจะให้เป็นประธานพรรค แล้วยังทำโครงสร้างพรรคให้มีซูเปอร์บอร์ด โดยให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานซูเปอร์บอร์ด ที่จะร่วมพิจารณาตกลงใจในเรื่องสำคัญ ที่จะประเดิมจากการคัดตัวผู้สมัคร ส.ส.

การเป็นประธานซูเปอร์บอร์ด อาจถูกมองว่า เปรียบเป็นโปลิตบูโร และ พล.อ.ประยุทธ์เป็นเสมือนหัวหน้าพรรคเงา ที่อาจไม่แตกต่างจากที่พรรคเพื่อไทยมีหัวหน้าพรรค และมีหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่า พล.อ.ประยุทธ์เองไม่ต้องการทำให้สถานภาพของตัวเองกลายเป็นนักการเมืองเต็มตัวที่มีตำแหน่งกรรมการบริหารในพรรค หรือเลี่ยงการเป็นหัวหน้าพรรค เพราะมองกันว่า หากถึงเวลาต้องออกจากสนามการเมือง หรือต้องวางมือ พล.อ.ประยุทธ์จะมีตำแหน่งสำคัญรองรับ ที่ไม่ควรจะเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง

จึงน่าจับตามอง การขยับของพรรครวมไทยสร้างชาติที่เชื่อกันว่านอกจากนายพีระพันธุ์จะมีบทบาทสำคัญแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ก็จะเป็นคีย์แมนหลักในการวางแผนการเดินเกมต่างๆ เพื่อชดเชยความผิดพลาดเมื่อครั้งที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ และไม่อาจมีส่วนร่วมในทางการเมืองได้เท่าที่ควร อีกทั้งยังอยู่ในสถานภาพ “ขาลอย” ในทางการเมือง เพราะมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตรดูแลการเมืองเพียงคนเดียว

เมื่อมาถึง Episode นี้ พล.อ.ประยุทธ์จึงต้องลงมาดูเองคุมเองทำเองทั้งหมดในทุกเรื่อง

เพราะศึกเลือกตั้งครั้งนี้ เดิมพันด้วยอนาคตประเทศ และศักดิ์ศรีของอดีตทหารเสือฯ ผู้เคยเป็นทั้ง ผบ.ทบ.และเป็นนายกฯ มาถึง 8 ปีเลยทีเดียว