“ประเทศจีนมีประชากรพันกว่าล้านคน ถ้ามีกลุ่มคนที่ไม่ดีเข้ามาประเทศไทยเพียงแค่ 1 ล้าน ประเทศเราก็อยู่ไม่ได้แล้ว เจ๊งแล้ว” พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าของฉายามือปราบหูดำ เปิดเผยถึงกระบวนการกลุ่มทุนจีนและธุรกิจสีเทาที่เข้ามาเปิดในประเทศไทย โดยต้องย้อนตั้งคำถามว่าทำไมเขาถึงเลือกมาประเทศเรา สามารถมองได้ดังนี้

1. เพราะไทยกับจีนมีความสัมพันธ์ที่ดี เชื้อสาย หน้าตาคล้ายคลึงกัน และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่คนจีนชอบมากมาย คนจีนอยากเข้ามาตั้งถิ่นฐาน

และ 2. กลุ่มสีเทาที่เข้ามาได้ง่ายเพราะอะไร? ก็ต้องตอบว่าเพราะเจ้าหน้าที่รัฐของเราเอื้อประโยชน์ได้ง่าย ซื้อขายได้ง่าย จึงทำให้เป็นจุดที่เขาเลือกจะมาในประเทศไทย

พล.ต.ต.วิชัยชวนคิดต่อไปว่า ถ้าเขาอยากจะเข้าทำธุรกิจสีเทาแบบนี้ จะต้องเข้าหาใครบ้าง

ไล่มาตั้งแต่ 1. ผู้มีอำนาจของบ้านเมือง

2. นักการเมืองที่สามารถจะรับผลประโยชน์ได้ คนพวกนี้เขาหาข้อมูลมาแล้วว่านักการเมืองคนไหนที่มีประวัติด่างพร้อยที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับเขาได้ แล้วถ้าดันเป็นนักการเมืองที่มีอำนาจก็ยิ่งเอื้อประโยชน์กันเข้าไปใหญ่

3. กลุ่มผู้มีอิทธิพลที่จะสามารถคุ้มครองเขาได้และกลุ่มคนพวกนี้สามารถจะพาไปหานักการเมืองและผู้มีอำนาจได้ ที่สำคัญที่สุดคนที่เอื้อประโยชน์

และ 4. สำคัญที่สุดคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นผู้ดูแลกฎหมายบังคับใช้กฎหมาย ถ้าไม่ทำอะไร ไม่เอาจริงเอาจัง ธุรกิจพวกนี้ก็สบาย

ดังนั้น กลุ่มทุนจีนเหล่านี้จึงเลือกที่จะมาประเทศไทย

พล.ต.ต.วิชัยบอกว่า ตอนแรกคนเหล่านี้อาจจะมาประกอบธุรกิจร้านอาหาร เปิดสถานบริการเพื่อบังหน้า เมื่อทำตรงนี้เสร็จแล้วอะไรจะตามมา ก็มีทั้ง

1. ปัญหายาเสพติด อย่างที่มีการจับกันเป็นข่าวเพราะกลุ่มคนพวกนี้เสพด้วยกันทั้งสิ้น แล้วก็นำยาเสพติดเข้ามาขายในประเทศ

2. การค้าบริการทางเพศในช่วงก่อนโควิด ผู้หญิงจากประเทศจีนเข้ามาเลยเข้ามาขายตัวมาอยู่กัน 1-3 เดือน ขายกันเป็นแพ็กเกจ เสร็จแล้วก็กลับไปเปลี่ยนคนใหม่เข้ามาใหม่ ถามว่ามาขายให้กับใคร ก็เข้ามาขายให้กับกลุ่มคนจีนที่เข้ามาอยู่ในไทยด้วยกันนี่แหละ หรือบางทีจะเปิดเป็นคาเฟ่ให้คนไทยเข้าไปร่วมซื้อขายบริการทางเพศด้วยได้

3. มีบ่อนการพนันที่เดิมทีเล่นกันเองในหมู่คนจีนหรือกลุ่มสีเทาด้วยกันเอง ต่อมามีการขยายวงไปร่วมกับคนไทยเปิดยิ่งใหญ่หมด ดังนั้น บ่อนใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด กลุ่มคนสีเทามีหุ้นด้วยกันหมด นอกจากนี้ ยังเอี่ยวกับการทำพนันออนไลน์

มือปราบหูดำถามว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่รู้หรือ? ว่าจะตรวจสอบอะไรตรงไหนได้บ้าง ไม่สามารถตรวจได้เลยหรือแม้จะมีการตั้ง Server อยู่ที่ต่างประเทศคุณก็สามารถที่จะตรวจสอบได้ ตำรวจสามารถจะตรวจสอบได้หรือไม่ว่าเส้นทางการเงินไปไหนอย่างไร

จริงๆ คือทำได้หมด แต่ก็ไม่ได้ทำ พวกนี้มันถึงได้เจริญเติบโตมากมาย

ในเรื่องออนไลน์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็เช่นเดียวกัน เพราะเราไม่เคยเอาจริงเอาจังทางกฎหมายอย่างเข้มงวดในเรื่องเหล่านี้ จับได้ทีหนึ่งก็แถลงข่าวทีหนึ่งแล้วก็เงียบหายไป

แล้วถามว่ากลุ่มเหล่านี้ทำอะไรอีก เขายังเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องค้าของเถื่อน ถามว่าใครบ้างที่สามารถจะให้ของเถื่อนเข้ามาในประเทศได้ มันเข้ามาทางไหน?

เรื่องเหล่านี้พวกคุณต้องไปคิดต่อเอาเอง และยังมีกิจการเข้ามาทำเกี่ยวกับเรื่องอสังหาริมทรัพย์เพื่อบังหน้า

“ผมยังมองเลยว่าที่ก่อนหน้านี้มีกฎหมายเรื่องที่ดินให้คนต่างชาติมาลงทุนได้ บ้านเมืองเราจะแย่อย่างมาก แค่เข้ามาล้านคนจะเสียที่ดินไปถึงล้านไร่ นี่คือสิ่งที่เขาเข้ามาทำ”

อีกเรื่องที่ พล.ต.ต.วิชัยคาดว่าจะเป็นปัญหาตามมาคือ “แก๊งเรียกค่าไถ่” กลุ่มนักเลงกลุ่มมาเฟียที่หนีเข้ามามันจะรู้เลยว่ากลุ่มไหนใครทำอะไรต่างๆ อยู่ก็จะไปจับเขามาเรียกเงิน หรือบางทีเล่นการพนันมีหนี้สินไม่ใช้ก็ไปจับกุมมาเรียกค่าไถ่ เมื่อไม่นานมานี้ก็มีเรื่องขบวนการที่ตัดนิ้วกัน ซึ่งขบวนการเรียกค่าไถ่นี้มีตั้งแต่สมัยผมมีประสบการณ์ทำต่อสู้กับ “แก๊งลูกหมู” นี่คือกลุ่มสีเทาที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศเรา

มือปราบหูดำกล่าวว่า กลุ่มพวกผู้มีอำนาจที่รับเงินแบบนี้คิดชั่วกับบ้านเมือง คิดชั่วกับประชาชนเพราะคุณไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่คุณกำลังเอื้อประโยชน์ มันกำลังตกผลกับประชาชนและลูกหลาน และมันจะทำลายเศรษฐกิจของบ้านเรา คุณเป็นนักการเมือง คุณเป็นผู้มีอำนาจ คุณไม่มีความคิด มันเป็นเรื่องของจิตสำนึก จากพวกคนที่ไม่มีจิตสำนึกที่ไปเอื้อประโยชน์ให้การสนับสนุนให้กลุ่มคนเหล่านี้เข้ามา

“ถามว่าทำไมมันง่ายขนาดนี้ ผมก็ต้องตอบว่า ‘เงิน’ มันง้างทุกเรื่องได้ ใครมีเงินก็ง้างได้ทุกอย่าง”

“ผมถามว่ากลุ่มคนจีนกลุ่มทุนที่อยากจะเข้าประเทศมาขอวีซ่าเป็นนักเรียนสามารถทำได้หรือไม่ คนมีอายุก็สามารถมีการศึกษาได้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีเซ้นส์ ขาดไหวพริบ หรือไม่มีจิตสำนึกเลยหรือที่ว่ากลุ่มคนเหล่านี้เข้ามาเรียนหนังสืออะไร มาขอวีซ่าอะไรใครกันมันจะเข้ามาเรียนถึง 20 ปี การต่อวีซ่าคุณจะไม่ใช้ไหวพริบเลยหรือให้กับกลุ่มคนพวกนี้ ถามว่ามันเกิดขึ้นได้เพราะอะไร ก็เพราะว่า ‘เงินไปง้าง’ ผลประโยชน์ค้ำคอบ้านเมืองเราถึงได้เละอย่างทุกวันนี้”

กลุ่มคนพวกนี้ก็เอาเงินเหล่านี้มาใช้ในการสนับสนุนกลุ่มการเมืองเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจแล้วก็ใช้เงินที่ไม่ถูกต้องนี้ให้ได้มาซึ่งความมีอำนาจ

พอได้อำนาจเข้ามาแล้วเขาก็จะได้ผลประโยชน์จากอำนาจมันก็วนเวียนกันเป็นวัฏจักร ที่เราก็รู้กันมาอย่างในอดีตโมเดลคือการซื้อเสียงเข้าไปเป็น ส.ส. พอเป็นรัฐมนตรีได้ก็จะเอาผลประโยชน์ก็กลับมาซื้อเสียงอีก ก็วนเวียนอยู่อย่างนี้

“ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นเรื่องของ ‘จิตสำนึก’ ตามที่ผมบอกทั้งของผู้มีอำนาจและนักการเมืองที่คิดได้อย่างไร นอกจากคุณจะรับเงินเขามาแล้วคุณยังจะอยู่เบื้องหลังในการกระทำอีกหลายๆ เรื่อง คุณเอาจิตสำนึกอะไรมาทำเรื่องเหล่านี้ คนเหล่านี้ถือว่าคิดชั่วมาก” พล.ต.ต.วิชัยกล่าว

 

สําหรับทางแก้ปัญหาเรื่องนี้ มือปราบหูดำบอกว่า “ต้องรักษากฎหมายเท่านั้น” ขอให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง

ผมถามว่าคนพวกนี้เปลี่ยนมาเป็นคนไทยได้อย่างไร เจ้าหน้าที่ปกครองเข้าไปช่วยหรือไม่ ใครได้รับเงินบ้าง คิดชั่วต่อบ้านเมืองหรือไม่ที่ปล่อยให้คนเหล่านี้เข้าบ้านเมืองเรามา

ถ้ารักษากฎหมายให้ถูกต้องและคิดดีมันก็จะไม่มีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น ผมก็ต้องถามว่าพวกมีอำนาจควบคุมการแต่งตั้งโยกย้าย ดูแลผู้ใช้กฎหมายได้ ผมถามว่าคนเด็กๆ ตัวเล็กๆ จะไปทำถึงหรือ ผมอยากให้จับตาดูคดีเหล่านี้ให้ดี ผมพูดได้แค่นี้ว่ามันจะไปสิ้นสุดแค่ตรงไหนอย่างไร

ขอย้ำอีกครั้งว่าทุกปัญหาแก้ได้หมดถ้ารักษากฎหมายบังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้องจริงจังชัดเจน ถ้าผมมีอำนาจและบริสุทธิ์ใจจริงผมจะสั่งจัดการให้หมดเลย กวาดล้างให้หมดทั้งขบวนการ

ส่วนภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติผมก็จะคาดโทษตำรวจที่เกี่ยวข้อง ให้ออกจากราชการทันทีเท่านั้น ให้ออกไว้ก่อนเลย นอกจากออกแล้วถ้ามีเกี่ยวข้องกับธุรกิจก็ทำงานยึดทรัพย์ให้หมด ก็ไม่มีใครกล้าแล้ว

ประเทศเราถ้าหัวไม่ส่ายหางจะไม่กระดิก ฟันเฟืองมันจะไม่ทำงาน

ถ้าเฟืองตัวใหญ่ๆ หมุนนิดเดียว เฟืองตัวเล็กๆ จะหมุนตามในทันที ถ้าฟันเฟืองหมุนช้าหรือไม่หมุน ฟันเฟืองตัวอื่นๆ ก็จะช้าไปด้วย แต่ถ้าไม่ทำอะไรก็จะเป็นมวยล้มต้นคนดู ก็จะทนเห็นเหมือนเดิม ประเทศเราก็จะเหมือนเดิม องค์กรตำรวจก็ไม่ได้ดีเหมือนเดิม

ถามว่าขบวนการเหล่านี้มันมีมานานมากถามว่าทำไมช่วงนี้มาผุดเป็นข่าวดังแบบนี้ ผมเองมีโอกาสคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ท่านบอกว่าผมจะทำให้บ้านสะอาดเป็นอันดับแรกก่อน จากนั้นผมจะไปจัดการอย่างอื่นต่อ

ดังนั้น ช่วงนี้การจะทำให้บ้านสะอาดก็ต้องกวาด เมื่อเวลาเราเข้ามาทำความสะอาดบ้านก็จะเจอสิ่งสกปรกอยู่เยอะมาก กวาดไปทางไหนก็จะเจอสิ่งสกปรกออกมาเยอะ คนที่มองว่ามันมีเรื่องสกปรกเยอะ เพราะมีการกวาดให้เห็น แล้วถ้ายอมเจ็บตอนนี้ กวาดในตอนนี้ให้สะอาดได้ต่อไป

อยากให้กำลังใจผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่าขอให้ทำให้เด็ดขาด ใครผิดให้ออก เปิดให้มีการสอบอย่างเต็มที่ มันจะได้สะอาดเสียที เราสามารถที่จะไปยืนชูคอได้ แล้วไปจัดการกับเรื่องอื่นๆ ได้ต่อ ไม่มีใครมาโต้แย้งว่าหน่วยงานเรายังสกปรกอยู่เลย

ถ้าเราตั้งหลักให้ดี ทำบ้านให้สะอาด และทำแบบนี้ให้ชัดเจน ถามว่าใครจะทำผิดก็ไม่กล้า เพราะตำรวจต้องเข้าไปจัดการ

 

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022