เอเปค 2022 : ไทยควรเพิ่มการค้า-ลงทุนกับ รัสเซียและจีนยังไง?

เอเปค 2022 : ไทยควรเพิ่มการค้า-ลงทุนกับ รัสเซียและจีนยังไง?

ในการประชุมเอเปค 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มขั้นสูงสุดแบบไม่ให้มีสิ่งใดที่สร้างความด่างพร้อยให้กับเจ้าภาพจนเสียภาพลักษณ์ และความพยายามผลักดันแนวคิด BCG ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ท่ามกลางความท้าทายมากมายที่ข้ามขอบเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจนี้หลายเรื่อง อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ผู้สังเกตการณ์มองว่า ไทยควรเพิ่มความสนใจในความร่วมมือทางการค้ากับประเทศอื่น อย่างจีนที่ดีอยู่แล้ว ให้มากขึ้น และรัสเซียที่ถึงแก่เวลาที่ต้องยกระดับหลังจากไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควร

ให้เอกชนขับเคลื่อนแทนภาครัฐ

ดร.กิตติ ลิ่มสกุล อดีตผู้ดำเนินโนบาย OTOP ยุครัฐบาลไทยรักไทย ได้กล่าวถึงแนวโน้มต่อจากนี้ของเอเปคว่า เอเปคกำลังเป็นสิ่งล้าสมัย เรื่องนี้ผมไม่ได้ตำหนิประยุทธ์ แต่รัสเซีย จีน และประเทศนอกเอเปกล่ะ ประชาชนคนไทยจะไปเวทีโลกได้อย่างไร? จะลงทุนอย่างไร เราต้องการให้คนไทยได้ออกไปสู่โลกกว้าง ให้เอกชนไทยกลายเป็นนักลงทุน

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยกับรัสเซียโดยที่ยังคงรักษาผลประโยชน์ของชาติโดยไม่ถูกประณามในเวทีโลกจากการไม่มีจุดยืนในสงครามรัสเซีย-ยูเครน นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ต้องขอยกกรณีของไต้หวัน ซึ่งเป็นประเด็นละเอียดอ่อนสำหรับเรา (เพราะหลักการจีนเดียว) โดยปกติแล้ว เมื่อเราพูดถึงการค้าระหว่างไทยกับไต้หวัน รัฐบาลก็ไม่มีวาระแต่ให้นักธุรกิจคุยกันเอง มีสำนักงานความร่วมมือทางการค้าไต้หวัน

ดังนั้น ในช่วงเวลาอ่อนไหวนี้ใช้หอการค้าไทย-รัสเซีย จากนั้นศูนย์ธุรกิจของรัสเซียก็เข้ามาแทนที่ ปล่อยให้เป็นเรื่องของเอกชนไทย-รัสเซีย แต่รัฐบาลหนุนหลัง เบื้องหน้าให้การค้าทำงาน ผมโตมาในครอบครัวคนจีน ค้าขายต้องเก่ง อย่าเห็นแก่ศักดิ์ศรีจนไม่มีจะกิน ประเทศเรากำลังอดตาย ดังนั้นเพื่อจัดการกับสิ่งนี้ จะต้องทำ แม้แต่ในอินเดียทุกวันนี้ ไม่สนการคว่ำบาตรและยังบินไปเจรจาซื้อน้ำมันกับปูตินอีกด้วย ช่วงนี้เมืองไทยน้ำมันแพง หากคุณซื้อจากรัสเซียและได้รับส่วนลด 30% กองทุนน้ำมันที่หายไปของเราจะช่วยได้มาก อาจจะต้องใช้นักธุรกิจการเมืองจัดการ ส่ง ปตท.ไปซื้อ ใช้สำนักหักบัญชีซื้อจากสิงคโปร์แล้วส่งมาไทย ช่วยให้ราคาถูกลงได้

ดร.กิตติ เสนออีกว่า รัฐบาลจะรอดหรือไม่ขึ้นอยู่กับน้ำมัน ตอนนี้พวกเขากู้เงิน 5 พันล้านบาทแล้ว และอาจจะกู้มากกว่านั้น ทางออกที่แท้จริงคือการเจรจา ใช้วิธีทางการเมืองคุยกับรัสเซีย แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่กล้า เพราะเขาแข็งเรื่องนี้มาก เขาเข้าหาสหรัฐฯ แต่อีกทางหนึ่งก็ไปซื้อเรือดำน้ำจากจีน เป็นอะไรที่ผิดปกติ จะรับได้อย่างไร เราทำเหมือนเราเอาทุกอย่าง เมื่อก่อนก็ทำแบบนี้ ต่างกันเพียงวิธีการพูดหรือการเจรจาดีกว่าตอนนี้ นั่นทำให้การเจรจาซื้อน้ำมันจากรัสเซียไม่ราบรื่น แล้วมาพูดแบบรัสเซียไม่ยอมอะไร หรือแม้แต่สหรัฐอเมริกาก็ตาม เพราะประเทศเราไม่โดดเด่นและไม่มีใครสนใจ

เมื่อถามว่า เท่ากับต้องย้อนดูการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ว่าทำอะไรอยู่ หรือไม่ พลัฏฐ์กล่าวว่า ควรส่งเสริมให้เอกชนเป็นผู้ผลักดันมากกว่า เมื่อก่อนนี้ บ้านเมืองเรารุ่งเรืองเพราะเอกชนเป็นคนทำ ทั้ง 2 กระทรวงต้องทำงานสนับสนุนหอการค้า แต่ตอนนี้เราต้องอาศัยหอการค้าไทย-รัสเซีย ไทย-จีน ไทย-อินเดีย เข้ามามีบทบาท

ดร.กิตติกล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเป็นคนรักษากติกา การค้า โลกและทวิภาคี แต่ให้เอกชนนำการตลาด  แค่ลดอุปสรรคทางการค้าให้เอกชน และเสนอแนวทางเพิ่ม เขตการค้ากับแอฟริกา และการค้าการลงทุนกับ รัสเซีย จีน ยุโรปตะวันออก และแอฟริกา ให้มีสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่เมืองวลาดิวอสต๊อก ให้ เปลี่ยน เพิ่ม การทำงานของทูตพาณิชย์ ที่ไม่ แอคทีฟในปัจจุบัน เพิ่ม การค้า กับยุโรปตะวันออกและ รัสเซีย ผ่านทางเมืองวลาดิวิสต๊อก และ เพิ่มบทบาท ทางการค้ากับแอฟริกา

“ที่จริงไทยมีความสำคัญ มาก แต่ระบบราชการไทย ศักยภาพยังไม่พอ ต้องเสริม ด้วยเอกชนรายย่อย และ เปิดโอกาสธุรกิจเอสเอ็มอี โดยภาครัฐให้การสนับสนุน ผ่าน EXIM Bank” ดร.กิตติ กล่าว

เมื่อถามถึงมิติทางเศรษฐกิจของความสัมพันธ์จีนกับไทย และมองไทยขาดดุลการค้าต่อเนื่องกับจีน พลัฏฐ์กล่าวว่า ผมคิดว่าจีนเป็นโรงงานผลิตของโลก จึงมีดุลการค้าเกินดุลจากหลายประเทศ ผมคิดว่าสิ่งสำคัญคือจีน กลยุทธ์ ถ้าใช้ของ Made in China ไม่ได้ ก็ส่งไปต่างประเทศไม่ได้ เขาอยากใช้ Made in Thailand เราก็เลยชวนเขามาไทยเป็นฐานการผลิต และติดฉลาก Made in Thailand เพื่อส่งไปต่างประเทศ แบบเดียวกับญี่ปุ่นในช่วงก่อน แต่ไทยจะดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ ถ้าเรามีมาตรฐานสิ่งแวดล้อมจะช่วยดึง FDI มาทดแทนการขาดดุลการค้าได้ และนอกจากนี้ ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องดุลการค้าเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อื่นๆที่มากกว่านั้น ซึ่งในในระยะยาว เราต้องการความร่วมมือเชิงกลยุทธ์

“ผมเชื่อว่าถ้าเราช่วยจีนในเรื่องเชื่อมโยง นโยบาย BRI (ยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง) ได้ด้วยการเร่งโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เขาจะไม่ปฏิเสธถ้าอยากให้เขาซื้ออะไรเขาจะซื้อตลอดที่ขายข้าวไม่ได้ ไม่สามารถขายยางพาราได้ เขาช่วยเราซื้อมัน ถ้าเราช่วยเขาทำความฝันให้บอกเราขออะไรเขาก็ตอบตกลง ต้องสั่งล่วงหน้า เขารับรองหมด” พลัฏฐ์ กล่าว

อดีตเลขาฯกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่านอกจากสินค้าเกษตรจำพวกผลไม้เมืองร้อน สินค้ามีค่าเช่นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สามารถไปจีนได้เนื่องจากปัจจุบันสหรัฐฯห้ามสินค้าที่ผลิตในจีน ถ้ามาเมดอินไทยแลนด์ก็ส่งได้

โลกหวนกลับสู่ยุค 2 ขั้ว

ดร.กิตติกล่าวถึงความแตกแยกทางการเมืองในโลกในอนาคตว่า ต่อจากนี้ไป รัสเซียและจีน จะกลายเป็นข้างเดียว โลกถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย สหรัฐอเมริกาและตะวันตก อีกด้านหนึ่งคือ รัสเซีย จีน กลุ่มประเทศแอฟริกา กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง จะมาร่วมมือกัน หากความสัมพันธ์มีความสมดุลมากขึ้น ไม่เอาเปรียบ ชาติอาหรับจะช่วยเหลือจีนมากขึ้น นั่นหมายความว่ามันเป็นโลกสองขั้ว หากการมองโลกในแง่ดีเป็นโลกที่ยุติธรรมมากขึ้น เราจะเป็นอย่างไร? ฉันมองการเมืองโลก สุดท้ายก็ต้องสร้างระเบียบโลกใหม่ จีนไม่ได้คิดแค่เรื่องนี้แต่กำลังคิดไปไกลกว่านั้น

เมื่อถามถึงบทบาทของสี จิ้นผิง ในเอเปค จะมีวาระอะไร ดร.กิตติกล่าวว่า สี จิ้นผิงฉวยจังหวะนี้ ในเวทีเอเปค ประกาศว่าจุดยืนเขาต้องการอะไร? คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับโลก? คุณมองสหรัฐฯ อย่างไร? แต่ไม่ใช่เผด็จการที่รุนแรง การดำรงตำแหน่งผู้นำสมัยที่สามของสี จิ้นผิง อาจไม่ใช่แค่คำทักทาย แน่นอนเขาจะเสนอกระบวนทัศน์ของเขาเอง กระบวนทัศน์นี้จะเปิดเผยในเอเปก

นายปรีชา ตรีสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญการค้าและการลงทุนต่างประเทศ กล่าวว่า คาดว่าจีนมาเหนือเมฆ สัมพันธ์ใกล้ชิดกับแอฟริกา ตบหน้าสหรัฐฯ ด้วยการประกาศกวาดล้างหนี้ในแอฟริกา

ดร.กิตติกล่าวอีกด้วยว่า ถ้าดู APEC ครั้งนี้ก็ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้วมีสงครามโลกครั้งใหญ่บนแนวคิดที่จะปกครองโลกในยุคใหม่ สี จิ้นผิง ต้องพูดอะไรบางอย่าง แต่ผู้นำไทยไม่รู้ว่าประยุทธ์จะพูดอะไร คำพูดของผู้นำจีนสมัยที่ 3 จะโดดเด่นขึ้นมาทันที และอาจถึงขั้นเป็น “ปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยความเป็นเจ้าอำนาจนำผู้กำหนดระเบียบใหม่ของโลก” ก็ว่าได้

แน่นอนว่า คงไม่ได้มาที่นี่เพื่อแค่ ทานอาหารฝีมือเชฟชื่อดังหรอก