ลำโพงทีวีสำหรับ Dolby Atmos (2)

 

จากราคาครึ่งแสนของเที่ยวก่อน ไปที่ Soundbar หรือลำโพงทีวีค่าตัวเบาๆ แบบสองหมื่นทอนสิบบาทของค่ายเดียวกันบ้าง (แต่ซื้อหากันจริงๆ ได้ในราคาเกินหมื่นกลางๆ นิดหน่อย) นั้นคือ Sony HT-G700 ซึ่งมาแบบสองชิ้น/ชุด เพราะได้ผนวกเพาเวอร์ สับ-วูฟเฟอร์ ที่มีกำลังขับ 400 วัตต์ ซึ่งทำงานร่วมกันแบบไร้สายมาด้วย ช่วยให้การจัดวางทำได้สะดวก เพราะมิพักต้องเป็นกังวลเรื่องสายเชื่อมต่อระหว่างกันแต่อย่างใด

แม้จะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Entry Level และอาจจะแลดูมีขนาดกะทัดรัด แต่ทั้งคู่สามารถทำงานร่วมกันด้วยการรังสรรค์พลังเสียงออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่ แบบที่ฝรั่งชอบพูดว่า Big & Weighty Sound นั่นแหละครับ

เป็นชุดลำโพงที่ฟังแล้วให้ความรู้สึกคุ้มค่ามาก ทั้งยังทำงานร่วมกับดอลบี้ แอทมอส ผ่านทางเทคโนโลยีที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของตนเอง ทั้ง Vertical Surround Engine และ S-Force Pro-Front Surround ได้อย่างยอดเยี่ยม

ให้ภาพรวมของเสียงที่ชวนให้ดื่มด่ำไปกับทุกรูปแบบของเนื้อหาที่ชมได้อย่างมีอรรถรส และเปี่ยมไปด้วยความสุนทรีย์

ขณะที่เพาเวอร์ สับ-วูฟเฟอร์ สามารถระเบิดพลังออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ ลำโพงทั้งคู่ทำงานสอดประสานกันได้อย่างราบรื่น ให้น้ำเสียงที่มีความลื่นไหลเป็นเนื้อเดียวกันอย่างกลมกลืน ตั้งแต่ย่านความที่ต่ำสุดไปจนถึงย่านความสูงตอนปลายแบบไร้รอยสะดุดอย่างสิ้นเชิง

นอกจากดอลบี้ แอทมอส แล้วยังรองรับ DTS:X ทำงานแบบสตรีมมิ่งผ่านบลูทูธ พอร์ตเชื่อมต่อมีให้ทั้ง HDMI Input และแบบ eARC (มีให้อย่างละชุด)

หากกำลังมองหาชุดลำโพงโฮม เธียเตอร์ ราคาประหยัด แต่ไม่ประหยัดประสิทธิภาพการทำงานแล้วล่ะก้อ ลองไปฟังลำโพงชุดนี้ – ที่เห็นในภาพนั่นแหละครับ, ดูครับ

มากันที่ค่าย Sonos จากอเมริกากันบ้าง แม้จะเพิ่งก่อร่างสร้างแบรนด์มาเพียงสองทศวรรษ แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำนวัตกรรมทางด้านระบบเสียงไร้สายอยู่ในระดับแถวหน้าๆ ของวงการ โดดเด่นอย่างมากในเรื่องของผลิตภัณฑ์สำหรับ Multi-Room และกับซาวด์บาร์หรือลำโพงทีวีชิ้นเดียวนั้น ได้ชื่อว่าเป็นเต้ยแบบยืนหนึ่งในเรื่องนี้มาตั้งแต่ยุคแรกๆ ของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ออกสู่วงการนั่นแล้ว

ชิ้นแรกที่ใคร่แนะนำ คือ Beam Gen 2 ที่เป็นผลพวงต่อยอดมาจากความสำเร็จอย่างล้นเหลือของเจนแรก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่ให้รายละเอียดเสียงออกมาได้น่าทึ่งมาก ภาพรวมของเสียงฟังดูอบอุ่นและเป็นน้ำเสียงที่มีความประณีตสูง แบบผ่านการกลั่นกรองและขัดเกลาด้วยเทคโนโลยีที่เหนือชั้น

ที่สำคัญคือนำพาผู้ฟังเข้าถึงแก่นของดอลบี้ แอทมอส ได้อย่างลึกล้ำ และมีประสิทธิภาพมาก ผ่านเทคโนโลยีที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะอย่าง HRTF : Head-Related Transfer Function Technology โดยมิพักต้องพึ่งลำโพงที่ติดตั้งให้ยิงเสียงขึ้นในแนวตั้งแต่อย่างใด

ทั้งยังรองรับและทำงานร่วมกับฟอร์แม็ตเสียงอื่นๆ ได้อย่างน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็น Atmos DP, Atmos TrueHD, Dolby Digital, Multi-Channel PCM ตลอดจน Stereo PCM ขณะที่บางคนอาจะรู้สึกตงิดใจอยู่หน่อยๆ ก็เป็นได้ ว่าทำไมถึงไม่รองรับ DTS:X ด้วยเล่า

การเชื่อมต่อนั้นรองรับทั้ง Wi-Fi, Ethernet และ HDMI eARC ขณะที่ระบบสั่งการด้วยเสียง หรือ Voice Control นั้น รองรับทั้ง Google Assistant และ Amazon Alexa

ด้วยราคาค่าตัวระดับสองหมื่นกลางๆ เป็นซาวด์บาร์ที่มิอาจมองข้ามได้อย่างเด็ดขาดสำหรับใครที่ตั้งงบไว้ประมาณนี้

อีกรุ่นแต่เป็นระดับพรีเมียม (ด้วยค่าตัวแถวๆ ครึ่งแสน) จากค่ายเดียวกัน คือ Sonos Arc ซึ่งได้ชื่อว่าโดดเด่นแบบยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะในแง่การออกแบบ การใช้งาน คุณภาพเสียง ตลอดจนความคุ้มค่า ที่บรรดานักวิจารณ์แทบทุกรายจะให้คะแนนเกือบเต็มสิบไปตามๆ กัน

บ้างถึงกับออกปากว่าเป็น The Best ในระดับราคานี้กันเลยนะคุณ

ภายใต้โครงสร้างภาพลักษณ์ที่เสมือนท่อซึ่งเกือบจะเป็นทรงกลมนั้น ได้ผนวกชุดตัวขับเสียงเข้าไว้ถึง 11 ตัว แต่ละชุดผ่านการคิดคำนวณตำแหน่งติดตั้งเพื่อการยิงเสียงไปยังบริเวณต่างๆ ภายในห้องอย่างละเอียด จึงผสานการทำงานร่วมกันแล้วรังสรรค์ผลลัพธ์ออกมาเป็นสนามเสียงที่สมบูรณ์ และถึงพร้อมในทุกรายละเอียด ถ่ายทอดบรรยากาศเสียงในแง่มุมต่างๆ ที่ผู้กำกับตั้งใจบันทึกออกมาให้สัมผัสได้อย่างสมเจตนารมณ์ โดยเฉพาะกับเอฟเฟ็กต์เสียงของดอลบี้ แอทมอส นั้น มันให้ออกมาได้อย่างน่าทึ่งมาก ทั้งยังมีความสมจริงที่สามารถเชื่อถือได้อย่างจริงจัง บ่งบอกผลงานการออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญสูงในเชิงนี้ได้เป็นอย่างดี

ภาพรวมของเสียงให้ออกมาได้อย่างน่าฟัง ไม่ว่าจะกับการดูหนังหรือฟังเพลง มีไดนามิกที่ยอดเยี่ยม เปี่ยมไปด้วยพลังอันหนักแน่น ขณะเดียวกันก็ให้สมดุลเสียงออกมาได้อย่างเป็นเลิศ

นอกจากดอลบี้ แอทมอส แล้วยังรองรับฟอร์แม็ตเสียงอื่นๆ ได้หลากหาย ทั้ง Dolby Digital 5.1, Dolby TrueHD และ Dolby Digital+ รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Wi-Fi, HDMI eARC, Optical และ Ethernet พร้อมทำงานกับคำสั่งผ่านเสียงทั้ง Google Assistant และ Amazon Alexa

เป็นซาวด์บาร์ขนาดใหญ่ที่เหมาะกับทีวีจอภาพ 55 นิ้ว ขึ้นไป มีชุดอุปกรณ์ติดตั้งเข้าผนังแยกขายต่างหาก

มากันที่ค่าย Great American Sound อีกราย คือ Bose Smart Soundbar 900 ลำโพงทีวีสำหรับดอลบี้ แอทมอส ที่ได้ชื่อว่าให้สนามเสียงออกมาอย่างกว้างขวาง ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยพลัง และให้ความคมชัดของเสียงที่มีความชัดเจนอย่างน่าประทับใจมาก

มีอินพุตให้สำหรับ HDMI eARC และ Optical พร้อม Ethernet Port นอกจากดอลบี้ แอทมอส ยังรองรับฟอร์แม็ตเสียงแบบ Dolby Digital, Dolby TrueHD และ Dolby Digital+ ทำงานแบบสตรีมมิ่งผ่านทาง Wi-Fi, Bluetooth 4.2, Chromecast, Spotify Connect และ Apple AirPlay 2

สำหรับการสั่งงานด้วยเสียงรองรับทั้ง Google Assistant และ Amazon Alexa ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Voce4Video ซึ่ง Bose พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ลำโพงเปิดทีวีพร้อมเล่นภาพตามสั่งได้ทันทีโดยที่มิพักต้องกดปุ่มใดๆ

ภายใต้โครงสร้างภาพลักษณ์ที่เรียบหรูดูมีระดับด้วยงานฝีมืออันประณีตยิ่งนั้น ผนวกเข้าไว้ด้วยตัวขับเสียงเก้าชุดพร้อมภาคขยายเสียงแบบ 9 แชนเนล สำหรับแยกขับไดรเวอร์แต่ละตัว ซึ่งประกอบไปด้วยทวีตเตอร์หนึ่งตัวอยู่ตรงกึ่งกลางด้านหน้า พร้อมทรานสดิวเซอร์อีกสี่ตัวขนาบทวีตเตอร์ด้านละสองตัว ที่ปลายแท่งซาวด์บาร์ด้านหน้ามีชุดตัวขับเสียงอีกด้านละตัว และด้านบนตอนปลายมีอีกด้านละตัว ติดตั้งในลักษณะยิงเสียงขึ้นด้านบน

ซึ่งแม้จะไม่มีชุดขับเสียงติดตั้งที่ด้านข้าง แต่ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะอย่าง PhaseGuide และ TruSpace ทำให้ซาด์บาร์ชิ้นนี้สามารถรังสรรค์ชั้นบรรยากาศเสียงในระดับต่างๆ ออกมาได้อย่างน่าฟัง ทั้งยังให้ทิศทางเสียงที่มีความสมจริงสูงมาก

เป็นลำโพงทีวีที่ให้ซาวด์สเตจออกมาได้กว้างขวาง แยกแยะมิติเสียงและให้รายละเอียดออกมาได้ดี มีพลังที่หนักแน่น เสียงพูดชัดเจน ปลายเสียงแหลมทอดไปได้ไกล กล่าวโดยรวมแล้วคุ้มค่าสมราคาสามหมื่นปลายๆ

เที่ยวหน้ามีมาให้พิจารณาอีกสี่ซ้าห้ารุ่นแล้วจบเรื่องนี้ล่ะครับ •

 

เครื่องเสียง | พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022