ท่ามกลางการกวาดล้างเสี้ยนหนามที่ไม่น่าไว้ใจ ไม่เว้นแม้แต่คนในเครือญาติของ “คิม จอง อึน” ผู้นำสุงสุดเกาหลีเหนือ

ทว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา “คิม โย จอง” น้องสาววัย 28 ปีของประมุขชาติติดอาวุธนิวเคลียร์อันโดดเดี่ยว กลับได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกคณะกรรมการโปลิตบูโร ของพรรคกรรมกร คณะกรรมการระดับสูงจำนวนหนึ่งซึ่งมีหน้าที่กำหนดทิศทางการออกนโยบายบริหารประเทศ

การแต่งตั้งดังกล่าวเป็นสัญญาณหนึ่งที่สะท้อนความต้องการในการสร้างความมั่นคงให้กับตำแหน่งผู้นำสูงสุดด้วยการดึงคนใกล้ชิดเข้ามาอยู่ในศูนย์กลางอำนาจของประเทศ

และทำให้ “คิม โย จอง” กลายเป็นผู้หญิงคนที่สองในเกาหลีเหนือที่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญนี้ ต่อจาก “คิม คยอง ฮุย” ผู้มีศักดิ์เป็นน้าที่เคยช่วยพี่ชายอย่าง “คิม จอง อิล” ปกครองประเทศมาแล้วก่อนหน้านี้

เส้นทางการก้าวสู่อำนาจของ “คิม โย จอง” นั้นไม่เหมือนกับน้า ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งสู่ตำแหน่งเมื่อปี 2012 หลังจากเป็นสมาชิกพรรคกรรมกรยาวนานกว่า 30 ปี

ดังนั้น การผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างรวดเร็วของน้องสาวผู้นำเกาหลีเหนือในครั้งนี้จึงนับว่าเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ก็ว่าได้

 

สําหรับ “คิม คยอง ฮุย” ผู้ที่มีศักดิ์เป็นน้าของ “คิม จอง อึน” ด้วยนั้นหายหน้าไปจากสื่อหลังจาก “จาง ซอง แต๊ก” สามีผู้ที่เคยได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด “ลำดับที่สอง” ในรัฐบาลเปียงยางถูกประหารชีวิตไปเมื่อปี 2013

หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้เชื่อว่า “คิม คยอง ฮุย” อาศัยอยู่ในสถานที่ลับๆ ในกรุงเปียงยางและอยู่ระหว่างการรักษาอาการป่วยบางอย่าง

ไม่เพียงเฉพาะน้าและน้าเขยของผู้นำเกาหลีเหนือเท่านั้นที่ต้องถูกเขี่ยออกจากเส้นทาง

พี่ชายต่างแม่อย่าง “คิม จอง นัม” ก็ไม่เป็นข้อยกเว้น พี่ชายผู้ลี้ภัยอยู่มาเก๊าและมักวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเกาหลีเหนือถูกฆาตกรรมด้วยสารทำลายระบบประสาท “วีเอ็กซ์” ที่สนามบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เหตุการณ์ซึ่งเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาเชื่อว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือนั้นอยู่เบื้องหลัง

 

“คิม โย จอง” หญิงสาวที่มักแต่งกายด้วยชุดสูทสีดำ รองเท้าส้นสูงสีดำ ผมดำถูกรวบตึงไปด้านหลังมัดรวมเข้าไว้เป็นหางม้า ปรากฏตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2011 ยืนเคียงข้าง คิม จอง อึน พี่ชายพร้อมด้วยน้ำตาอาบแก้ม ในงานศพของ “คิม จอง อิล” พ่อและอดีตผู้นำเกาหลีเหนือผู้ล่วงลับ

หลังจากนั้น คิม โย จอง ปรากฏตัวต่อสื่ออีกหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการชมคอนเสิร์ตเคียงข้างพี่ชาย การขี่ม้าสีขาว รวมถึงการออกรับดอกไม้แทนพี่ชายในงานรัฐพิธีของเกาหลีเหนือ

บุคลิกที่สดใสและอายุที่ยังอ่อนเยาว์ของ คิม โย จอง ขัดแย้งอย่างชัดเจนกับกลุ่มนายทหารที่อายุมากและขึงขังที่รายล้อม คิม จอง อึน ในระหว่างการออกงานอย่างเป็นทางการ

จากผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อยู่ในฉากหลัง คิม โย จอง เริ่มออกมายืนเคียงข้างพี่ชายในงานใหญ่ๆ หลายครั้ง

อย่างการเดินสวนสนามครั้งใหญ่ของกองทัพเกาหลีเหนือเพื่อฉลองวันเกิดครบรอบ 105 ปีของ คิม อิล ซุง บิดาผู้ก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คิม โย จอง วิ่งนำเอกสารมาให้ คิม จอง อึน พี่ชายขณะที่กำลังเตรียมตัวกล่าวสุนทรพจน์

ในเดือนเดียวกัน คิม โย จอง ยืนเคียงข้างพี่ชายระหว่างการเปิดโครงการก่อสร้างในกรุงเปียงยาง

ขณะที่เมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน คิม โย จอง เดินเคียงข้างพี่ชายในการเยี่ยมที่ทำงานของนักวิทยาศาสตร์ผู้พัฒนาหัวรบนิวเคลียร์

โดยครั้งนั้น คิม จอง อึน ประกาศความสำเร็จในการย่อขนาดหัวรบนิวเคลียร์ที่สามารถติดบนขีปนาวุธได้ในที่สุด

 

ข้อมูลเกี่ยวกับน้องสาวผู้นำรายนี้มีค่อนข้างน้อย การพบตัวตนของ คิม โย จอง ครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2011 ในคอนเสิร์ตของ เอริก แคลปตัน ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยครั้งนั้นเธอไปกับ “คิม จอง โชล” พี่ชายคนโตของ “ครอบครัวคิม”

ทั้งสามคนเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันในฐานะลูกๆ ของ คิม จอง อิล อดีตผู้นำเกาหลีเหนือกับภรรยาคนที่สี่อย่าง “โก ยอง ฮุย”

มีรายงานว่าสามพี่น้องถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่พี่คนโตอย่าง คิม จอง โชล นั้นไม่ได้มีส่วนร่วมในวงการการเมือง แต่ใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ ในกรุงเปียงยาง ในฐานะมือกีตาร์ของวงดนตรีวงหนึ่ง

ในปี 2014 คิม โย จอง ได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้อำนวยการ “สำนักงานโฆษณาชวนเชื่อและปลุกปั่น” ของพรรคกรรมกร รับผิดชอบการสื่อสารคติความเชื่อผ่านสื่อมวลชน ศิลปะ และวัฒนธรรมสู่ประชาชน

ตำแหน่งซึ่งส่งผลให้ “กระทรวงการคลังสหรัฐ” ขึ้นบัญชีดำ “คิม โย จอง” พร้อมกับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนืออีก 6 ราย เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเนื่องจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และการเซ็นเซอร์ซึ่งปกปิดพฤติกรรมไร้มนุษยธรรมและกดขี่ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ

ล่าสุดเมื่อปี 2016 อดีตผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ระบุว่า คิม โย จอง ใช้อำนาจในทางที่ผิดในการสั่งลงโทษผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานโฆษณาชวนเชื่อ ด้วยความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นอกจากนี้ มีรายงานว่าน้องสาวผู้นำเกาหลีเหนืออาจแต่งงานแล้วกับเพื่อนเรียนมหาวิทยาลัยคิม อิล ซุง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันข้อเท็จจริงว่ามีการแต่งงานเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และใครเป็นชาย “ผู้โชคดี” คนนั้นกันแน่