ปมสังหาร ‘ดาร์ยา ดูกินา’ ลูกสาวคนสนิท ‘ปูติน’/บทความต่างประเทศ

เครดิตภาพ AP

บทความต่างประเทศ

 

ปมสังหาร ‘ดาร์ยา ดูกินา’

ลูกสาวคนสนิท ‘ปูติน’

ขณะที่สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ยังคงตึงเครียดอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีรายงานระเบิดรถยนต์ คือคาร์บอมบ์ บริเวณชานกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย เมื่อช่วงดึกของวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา

เหตุคาร์บอมบ์ดังกล่าว ทำให้ “ดาร์ยา ดูกินา” นักข่าวและผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองสาวรัสเซีย วัย 29 ปี เสียชีวิต

หากแต่ดาร์ยาไม่ใช่แค่นักข่าวเท่านั้น แต่เธอยังเป็นบุตรสาวของนายอเล็กซานเดอร์ ดูกิน นักปรัชญาชาวรัสเซีย บุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็น “มันสมองของปูติน” ผู้นำทรงอิทธิพลของรัสเซีย

ทั้งนี้ เป็นที่รู้กันดีว่า นายอเล็กซานเดอร์เป็นนักปรัชญาที่มีแนวคิดชาตินิยมสุดโต่ง และเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนอย่างแข็งขันต่อการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

ส่วนตัวของดาร์ยานั้น เป็นถึงบรรณาธิการบริหารของสถานีโทรทัศน์ซาการ์ด และเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการทำสงครามของรัสเซียในยูเครนอย่างเต็มที่เช่นกัน

 

แรกเริ่ม สื่อของรัสเซียรายงานว่า จริงๆ แล้วคนร้ายน่าจะพุ่งเป้าลอบสังหารนายอเล็กซานเดอร์มากกว่าลูกสาว ซึ่งจากการเปิดเผยของสมาชิกในครอบครัว บอกว่า “ดาร์ยา ดูกินา” ยืมรถของพ่อเธอใช้ในวันที่เกิดเหตุ

เหตุเกิดจากการที่อเล็กซานเดอร์ ดูกิน ได้รับเชิญให้ไปกล่าวปาฐกถาที่งานๆ หนึ่ง และหลังเลิกงาน อเล็กซานเดอร์และดาร์ยาก็จะกลับพร้อมกัน หากแต่อเล็กซานเดอร์เปลี่ยนแผนกะทันหัน และได้ขับรถอีกคันกลับ ส่วนดาร์ยาขับรถของพ่อกลับ จนมาเกิดเหตุระเบิดขึ้น

ด้านคณะกรรมการสืบสวนของรัสเซียเปิดเผยผลการสืบสวนเบื้องต้นระบุว่า อุปกรณ์ระเบิดได้ถูกติดตั้งไว้ที่ใต้ท้องรถด้านคนขับ ซึ่งในวันเกิดเหตุ ดาร์ยา ดูกินา เป็นผู้ขับรถ และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

โดยเชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างเป็นขั้นตอนแล้ว

 

แน่นอนว่า ผู้ต้องสงสัยรายแรกของการลอบสังหารครั้งนี้ รัสเซียชี้เป้าไปที่ “ยูเครน” โดยหน่วยความมั่นคงกลางของรัสเซีย (เอฟเอสบี) ชี้ว่า เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษของยูเครน เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดลอบสังหารครั้งนี้ และว่า ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นชาวยูเครน ได้หลบหนีไปประเทศเอสโตเนียแล้วหลังก่อเหตุ

เอฟเอสบีระบุว่า มีสตรีชาวยูเครนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นสายลับของหน่วยปฏิบัติการพิเศษของยูเครน ได้ย้ายเข้าไปอยู่ที่รัสเซียเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และติดตามการเคลื่อนไหวของดาร์ยา ด้วยการเช่าอพาร์ตเมนต์ภายในอาคารเดียวกับที่ดาร์ยาอาศัยอยู่ เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อเตรียมวางแผนก่อเหตุครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ทางการยูเครนได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยนายมิไคโล โปโตเลียก ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของเอฟเอสบี พร้อมระบุว่า เป็นข้อกล่าวอ้างเพื่อโฆษณาชวนเชื่อที่รัสเซียแต่งเองขึ้นทั้งนั้น

ก่อนหน้านี้ นางมาเรีย ซาตาโรวา โฆษกประจำกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เคยโพสต์ข้อความผ่านทางเทเลแกรมว่า หากพบว่ายูเครนมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ยิ่งทำให้ยูเครนตกอยู่ในสถานะรัฐก่อการร้าย

แต่มิไคโล โปโตเลียก ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยยืนยันว่า ยูเครนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารครั้งนี้ และยูเครนไม่ใช่รัฐอาชญากร อย่างที่รัสเซียเป็นอยู่ และยูเครนไม่ใช่รัฐผู้ก่อการร้ายอย่างแน่นอน

ส่วนวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้กล่าวแสดงความเสียใจสุดซึ้งต่อการจากไปของดาร์ยา ดูกินา พร้อมกับประณามผู้ก่อเหตุว่าเป็นการก่ออาชญากรรมที่รุนแรงและโหดร้าย

พร้อมกันนี้ ปูตินยังได้มอบเหรียญกล้าหาญให้แก่ดาร์ยา เพื่อยกย่องการอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่ของเธอ

 

ในขณะที่บรรยากาศงานศพของดาร์ยา ซึ่งจัดที่กรุงมอสโก บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีผู้นำดอกกุหลาบสีแดงมาวางไว้หน้ารูปดาร์ยาจำนวนมาก เพื่อร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปอย่างไม่คาดคิดของดาร์ยา

ส่วนอเล็กซานเดอร์ผู้เป็นพ่อ ได้ย้ำว่า การจากไปของดาร์ยาจะต้องไม่สูญเปล่า และสิ่งที่จะทำให้การจากไปของดาร์ยา คือ “รัสเซียจะต้องชนะในสงครามยูเครนเท่านั้น”

ปมแห่งการสังหารคนสนิทของปูตินครั้งนี้ ดูเหมือนจะไม่หลุดไปจากประเด็นความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ท่ามกลางสงครามที่ยังคงยืดเยื้อต่อไป และไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงง่ายๆ

และไม่รู้ว่า จะต้องสูญเสียชีวิตผู้คนไปอีกเท่าไหร่