ต้นเหตุแห่งทุกข์ / ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ : หนุ่มเมืองจันท์

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ

หนุ่มเมืองจันท์

www.facebook.com/boycitychanFC

 

ต้นเหตุแห่งทุกข์

 

อยู่ดีๆ ผมก็เกิดอาการคล้าย “บ้านหมุน”

ผมตื่นนอนตอนเช้า ลุกจากเตียงปั๊บ รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาทันที

ไม่นิ่งเหมือนทุกวัน

พอก้าวเดินก็เหมือนกับเสียศูนย์นิดๆ

มีอาการชะแว้บแบบงงๆ

ตกใจ เพราะผมไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน

เรื่องเวียนหัว ตาลาย ที่คนอื่นชอบเป็นกัน ผมก็ไม่เคยเป็น

ลองล้มตัวนอนพักหนึ่ง หวังว่าอาการเวียนๆ มึนๆ จะหาย

ลุกขึ้นมาก็ยังเหมือนเดิม

อาการไม่ได้หนักหนาแบบ “บ้านหมุน” ที่เดินไม่ได้

เพียงแต่มันมึนๆ เวียนๆ

ตอนเดินเหมือนมีกำลังภายในเหาะเหินเดินอากาศได้

แต่ละก้าวมันดูเหิน-เหินยังไงก็ไม่รู้

ไม่ค่อยมั่นคงเหมือนปกติ

ก้าวเร็วๆ ก็มีแกว่งนิดหน่อย

“ห้องสมุดเคลื่อนที่” ของผมเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ เพราะเคยเป็น “บ้านหมุน” มาหลายครั้ง

เธอเอายาแก้เวียนหัวมาให้ลองกิน

ดีขึ้น แต่ก็ไม่ดีมาก

ผมพยายามนั่งนึกว่าอาการแบบนี้น่าจะเกิดจากอะไรได้บ้าง

ลองทำตามที่ท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สอนตอนที่ให้สัมภาษณ์เรื่องการขึ้นค่าไฟ

“ทุกข์-สมุทัย-นิโรธ-มรรค”

หา “สาเหตุแห่งทุกข์” ให้เจอ

ผมนึกถึงคุณหมอเอกพจน์ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์

เขาเคยรักษาอาการ “บ้านหมุน” ของภรรยาผม

เธออ่านอีบุ๊ก ผ่านไอแพด

อ่านต่อเนื่องแบบไม่พักรอบละ 3-4 ชั่วโมง

พอหมอแนะนำให้หยุดอ่าน ดีขึ้นทันที

ผมก็นึกถึงตัวเองที่นั่งหน้าจอแทบทั้งวัน ทั้งไอแพด และไอโฟน

ช่วงหลังๆ เริ่มมีอาการปวดคอ

เงยหน้าแล้วเจ็บๆ

อาการเวียนหัวที่เดินแล้ว “เหิน-เหิน” น่าจะมาจากเรื่องนี้แน่เลย

คิด-วิเคราะห์-แยกแยะเอง

แต่ก็ไม่รู้ว่าจะแก้อย่างไร

 

วันรุ่งขึ้น ผมมีงานของหลักสูตร ABC

ต้องนั่งสัมภาษณ์คุณบุญคลี ปลั่งศิริ บนเวทีกับ “โจ้” ธนา เธียรอัจฉริยะ

ตอนนั่งคุย แม้อาการภายนอกดูปกติ แต่ในหัวนั้นมึนๆ ต้องหลับตาเป็นระยะ

แต่ก็รอดไปได้

อีกวันหนึ่ง มีงานกีฬาสีของ ABC ทุกรุ่น

งานสนุกมาก

ผมเดินคุย ทักทายกับผู้คนเหมือนปกติธรรมดา

ตั้งแต่บ่ายจนค่ำ

ช่วงบ่ายรู้สึก “เหิน-เหิน” มาก

ต้องคุมตัวเองไม่ให้เดินเร็ว

แต่แปลกที่พอช่วงค่ำ อาการของผมกลับมาเป็นปกติ

ไม่รู้สึก “เหิน” แล้ว

กลายเป็นคนเดินดินเหมือนเดิม

ความเป็น “เทพ” หายไปสิ้น

คืนนั้น ผมล้มตัวนอนด้วยความหวังว่า “เทพ” คงออกจากร่างแล้ว

แต่พอตื่นมาตอนเช้า

“เทพ” เข้าสิงอีกแล้วครับ

เดินแล้วยัง “เหิน” เหมือนเดิม

ผมตัดสินใจไปหาหมอเอกพจน์

หมอคนนี้ “เทพ” ตัวจริง

ผมเคยแนะนำน้องคนหนึ่งที่เคยทำงานที่ “ประชาชาติธุรกิจ” ด้วยกัน

ไอ้นี่กวนมาก เจอกันทีไรต้องนั่งหัวเราะจนเหนื่อยทุกครั้ง

ผมเพิ่งรู้ว่าเขาเป็นโรคปวดหัวระดับพี่ใหญ่ “ไมเกรน”

เป็นมา 20-30 ปี

น้องบอกว่าคนเป็นโรคนี้ เกือบครึ่งหนึ่งฆ่าตัวตายเพราะทนอาการปวดหัวไม่ไหว

ตอนหลังๆ อาการของน้องคนนี้เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ

ระดับต้องพกถังออกซิเจนในรถ

ผมแนะนำให้ลองไปหาหมอเอกพจน์

ไม่น่าเชื่อ ครั้งเดียวหายเลยครับ

พอค้นพบสาเหตุปั๊บ เรียบร้อย

ได้ชีวิตใหม่กลับมา

ไอ้น้องคนนี้โทร.มาหาบอกว่าอยากมากราบขอบคุณ

ตกใจ กลัวมันจะทำจริง

ผมเลยบอกน้องอย่างเกรงใจ

“ถ้าเอ็งจะกราบ ต้องคลานเข่ามาจากที่บ้าน”

เรียบร้อย หายไปเลยครับ

 

วันที่ไปหาหมอเอกพจน์ ผมเตรียมข้อมูลไปพร้อมมาก เพราะรู้ว่าหมอจะต้องซักถามอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุให้ได้

เริ่มต้นจากถามอาการ และตรวจร่างกาย

เอาส้อมเสียงมาเคาะ แล้วให้ฟังทีละหู เพื่อเทียบว่าหูซ้าย-ขวา ได้ยินเท่ากันไหม

พอเท่ากัน คุณหมอก็ตัดสมมุติฐานบางเรื่องออกไป

จากนั้นก็เริ่มถามอย่างละเอียด

เริ่มต้นเล่าว่ามีอาการปวดคอ ไม่รู้ว่านั่งหน้าจอนานไปหรือเปล่า

เล่าไปเรื่อยๆ

จนคุณหมอเอกพจน์วิเคราะห์ว่าน่าจะมาจากอาการปวดคอ กล้ามเนื้อคอเกร็งทำให้บีบเส้นเลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อย

หมอถามต่อว่า นอกจากนั่งหน้าจอนานๆ แล้ว มีพฤติกรรมอะไรที่ทำให้ปวดคอได้บ้าง

ผมนั่งนึกอยู่พักหนึ่ง

“ผมเปลี่ยนหมอนใหม่เป็นหมอนแข็งๆ ที่หนุนคอให้สูงกว่าเดิม”

คุณหมอชะงักเลย

“เรื่องนี้เป็นไปได้ครับ เพราะหมอนหนุนสูงจะทำให้กล้ามเนื้อคอเกร็ง”

คุยกันต่ออีกพักหนึ่ง คุณหมอก็สั่งยาให้

และบอกว่าให้ลองเปลี่ยนหมอน

คืนนั้นผมเปลี่ยนกลับไปนอนหมอนนุ่มๆ ใบเดิมตามคำแนะนำของคุณหมอ

ตื่นมาตอนเช้า

เฮ้ย…อาการ “เหิน” ที่เคยเป็น

หายไปเกือบครึ่ง

วันนั้น ผมก็กินยาที่หมอสั่งตามปกติ

เล่นมือถือ ไอแพดน้อยลง

พยายามลดตัวแปรต่างๆ ที่อาจเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ออกไป

คืนที่ 2 ผมยังนอนหมอนใบเก่า

ตื่นเช้ามา เรียบร้อยเลยครับ

“เทพ” ออกจากร่างอย่างสิ้นเชิง

เดินไม่มีเหิน

ไม่มีมึนงง

แค่เปลี่ยนหมอนเท่านั้นเอง

ครับ ตอนไม่สบาย เราจะค้นพบว่าความสุขง่ายๆ ของชีวิต ไม่ใช่อะไรที่เลอเลิศวิเศษเหนือมนุษย์มนา

แต่เป็นการกลับมาสู่ความเป็นปกติธรรมดา

…แค่นั้นเอง •