E-DUANG : ร่องรอย ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ เส้นทาง รวมไทยสร้างชาติ “เดิน”

ไม่ว่าท่าทีของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ไม่ว่าท่าทีของ นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ หัวหน้าและเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อประสบกับคำถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

มากด้วยความละเอียดอ่อน มากด้วยความอ่อนไหว ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอง

นี่ย่อมแตกต่างไปจากท่าทีของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ไม่ว่าเมื่อขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติในเบื้องต้น ไม่ว่าเมื่อประ กาศจะไปขับเคลื่อนพรรคเทิดไท้ในอนาคตอันใกล้

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ แถลงอย่างตรงไปตรงมาว่าขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติเพื่อปกป้องและสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ยอมให้ถูก”บีบไข่”ทางการเมือง

แม้เมื่อจะไปขับเคลื่อนพรรคเทิดไท้ร่วมกับบรรดาคนเสื้อ แดงที่กลับใจในทุกหมู่บ้านคนเสื้อแดงทั่วประเทศว่า เป็นการจัดตั้งพรรคเพื่อหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แน่วแน่มั่นคง

ตรงกันข้าม ท่าทีของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ท่าทีของ

นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ ดำเนินไปในลักษณะแบ่งรับแบ่งสู้แม้ลึกๆยังคงศรัทธาและเชื่อมั่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างยิ่ง

ชวนให้นึกถึงท่าทีพรรคภูมิใจไทย ท่าทีพรรคประชาธิปัตย์

 

ก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศแนวทางของตนเด่นชัดว่าต้องการชูหัวหน้า พรรคของตนเป็นนายกรัฐมนตรี

ไม่เพียงไม่ยอมรับต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากยังไม่ ยอมรับต่ออำนาจของ 250 ส.ว.อีกด้วย

แต่แล้วเมื่อผลการเลือกตั้งปรากฏออกมา พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เพียงแต่ยอมจำนนต่อเสียงของพรรคขนาด เล็กที่มาด้วยอภินิหารทางกฎหมาย หากแต่ยังสยบยอมต่อำนาจ ของ 250 ส.ว.อย่างเต็มพิกัด

จึงพร้อมใจกันทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ขานชื่อ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนมิถุนายน 2562

การตัดสินใจนี้จึงยังฝังจำประทับอยู่ในรอยเท้าทางการเมือง

 

หากดูจากแต่ละก้าวย่างการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะมองผ่านพรรคภูมิ ใจไทย ไม่ว่าจะมองผ่านพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนกับสถานการณ์เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ผ่านแล้วก็ผ่านเลย

ถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติคิดในแนวทางเดียวกันหรือไม่

หากคิดเช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทย เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็เท่ากับประเมินว่าความรู้สึกของสังคมไม่มีบทบาท

เพราะเชื่อมั่นในฐานและคะแนนเสียงเดิมที่มีอยู่ของตน