แฉรัสเซียใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครน “เป็นคลังแสง” อียูจ่อคว่ำบาตรเพิ่ม

แฉรัสเซียใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครน “เป็นคลังแสง” อียูจ่อคว่ำบาตรเพิ่ม

 

สำนักข่าว เอเอฟพี และบีบีซีรายงานวันที่ 17 ก.ค. ถึงความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบใน ยูเครน ว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) จะหารือเกี่ยวกับการยกระดับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่เข้มงวดขึ้นในวันจันทร์ที่ 18 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น

เพื่อตอบสนองกรณีที่กองกำลังรัสเซียถูกกล่าวหาว่าใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริฌเฌีย โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคยุโรป เป็นคลังเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงใช้เป็นฐานยิงขีปนาวุธโจมตีพื้นที่โดยรอบทางตอนใต้ของยูเครน

นายเปโตร โคติน ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานนิวเคลียร์ของยูเครน เปิดเผยว่าสถานการณ์ที่โรงไฟฟ้าซาปอริฌเฌียมีความตึงเครียดสูงสุด พร้อมระบุว่ารัสเซียลักลอบติดตั้งอุปกรณ์ยิงจรวดในพื้นที่โรงงานเพื่อใช้เป็นฐานยิงถล่มพื้นที่ในแคว้นดนีปรอ

แฉรัสเซียใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครน
Ukraine’s Zaporizhzhia Nuclear Power Plant, which has been attacked and seized by Russian forces. KYIV, Ukraine. The European Union will discuss tightening sanctions against Russia on Monday, as Moscow is accused of using the continent’s largest nuclear power plant to store weapons and launch missiles on the surrounding regions of southern Ukraine. Credit: Dmytro Smolyenko/Ukrinform/ZUMA

ด้านนายวาเลนติน เรซนีเชนโก ผู้ว่าการแคว้นดนีปรอ กล่าวว่ารัสเซียระดมยิงขีปนาวุธแกรดโจมตีย่านชุมชน เบื้องต้นหน่วยกู้ภัยพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 รายใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนในเมืองนิโกโปล

นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่ารัฐบาลรัสซียต้องชดใช้อย่างมากต่อความโกรธเกรี้ยวที่กระทำกับยูเครน และจากความขัดแย้งที่ถาโถมจนขยายไปสู่วิกฤตพลังงานและอาหารทั่วโลก

รัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปเตรียมพิจารณาคว่ำบาตรการนำเข้าทองคำจากรัสเซียซึ่งสอดคล้องกับมาตรการคว่ำบาตรของชาติพันธมิตรกลุ่มจี 7 ที่ก่อนหน้านี้ประกาศเดินหน้าคว่ำบาตรการนำเข้าทองคำจากรัสเซีย และคาดว่าจะเพิ่มบุคคลสำคัญของรัสเซียในบัญชีดำของสหภาพยุโรปด้วย

วันเดียวกันที่ประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มจี 20 กลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 19 ประเทศ รวมกับสหภาพยุโรปที่อินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 16-17 ก.ค. ว่า อินโดนีเซียในฐานะประเทศเจ้าภาพหมุนเวียนประจำปี 2565 ออกแถลงการณ์ว่าหลายชาติสมาชิกจี 20 แสดงจุดยืนประณามรัสเซียต่อการรุกรานยูเครน

แฉรัสเซียใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครน
Illustrative: A Russian serviceman guards in an area of the Zaporizhzhia Nuclear Power Station in territory under Russian military control, southeastern Ukraine. (AP Photo, File)

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมที่ทุกฝ่ายมีความเห็นตรงกันได้ เนื่องจากมีสมาชิก 2 ประเทศที่เห็นต่าง โดยอินโดนีเซียระบุว่าสมาชิกประเทศหนึ่งแสดงความเห็นว่าการคว่ำบาตรกำลังเพิ่มความท้าทายของสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ส่วนรัสเซียยืนกรานปฏิเสธการกล่าวโทษว่ารัสเซียเป็นต้นตอของปัญหาเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน

แถลงการณ์ส่วนหนึ่งของอินโดนีเซียระบุว่า “สมาชิกหลายประเทศเห็นด้วยว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงและกำลังเผชิญกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ อันเป็นผลมาจากการที่รัสเซียทำสงครามต่อต้านยูเครนซึ่งถูกประณามอย่างรุนแรง และเรียกร้องให้มีการยุติสงคราม

สมาชิกส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่ามีความไม่มั่นคงด้านอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ และสมาชิกจำนวนมากพร้อมที่จะดำเนินการร่วมกันในทันที”

ความล้มเหลวในการออกแถลงการณ์ร่วมที่เวทีการประชุมรัฐมนตรีการคลังจี 20 เกิดขึ้น 1 สัปดาห์หลังจาก นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เดินออกจากการประชุมจี 20 กลางคันหลังรัฐมนตรีประเทศสมาชิกวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียต่อกรณียูเครนอย่างหนัก