แบงก์ชาติศรีลังกาเตือน การเมืองป่วนกระทบเจรจาไอเอ็มเอฟ สำนักนายกฯ ยัน ปธน.ราชปักษาแจ้งลาออก

แบงก์ชาติศรีลังกาเตือน การเมืองป่วนกระทบเจรจาไอเอ็มเอฟ สำนักนายกฯ ยัน ปธน.ราชปักษาแจ้งลาออก

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สำนักนายกรัฐมนตรีของศรีลังกาแถลงยืนยันในวันที่ 11 กรกฎาคมว่า ประธานาธิบดีโคฐานภยะ ราชปักษะ ของศรีลังกา ได้แจ้งกับนายรานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรีว่าเขาจะลาออกแล้ว หลังจากเกิดเหตุความรุนแรงที่ผู้ประท้วงหลายแสนคนได้พากันบุกเข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดี และจุดไฟเผาทำเนียบนายกรัฐมนตรีในกรุงโคลอมโบเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม เพื่อกดดันให้บุคคลทั้งสองลาออก จากความโกรธแค้นที่ทำให้ประเทศต้องเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ได้รับเอกราชมา

ทั้งนี้ประธานรัฐสภาของศรีลังกาประกาศก่อนหน้านี้ว่า นายราชปักษะจะลาออกในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ทว่ายังไม่มีการสื่อสารใดออกมาโดยตรงจากนายราชปักษะถึงแผนการของเขา ขณะที่นายวิกรมสิงเหกล่าวในวันเกิดเหตุม็อบบุกทำเนียบแล้วว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่ง เพื่อให้มีการจัดตั้งรัฐบาลที่ทุกพรรคการเมืองมีส่วนร่วมเข้ามานั่งรักษาการแทน

ขณะที่แกนนำกลุ่มผู้ประท้วงประกาศกร้าวว่ามวลชนจะปักหลักยึดทำเนียบประธานาธิบดีและทำเนียบนายกรัฐมนตรีไว้ต่อไป จนกว่านายราชปักษะและนายวิกรมสิงเหจะลงจากตำแหน่งในที่สุด

บรรยากาศในกรุงโคลอมโบในวันเดียวกันนี้ยังคงอยู่ในภาวะสงบ ประชาชนจำนวนมากยังคงพากันเดินเข้าไปยังสำนักงานเลขาธิการและทำเนียบที่พักของประธานาธิบดี และเยี่ยมชมอาคารยุคอาณานิคมต่างๆ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้พยายามที่จะหยุดห้ามใคร

รอยเตอร์

หนึ่งในผู้ประท้วงกล่าวว่า เราจะไม่ไปไหนจนกว่าประธานาธิบดีผู้นี้จะออกไปและเรามีรัฐบาลที่เป็นที่ยอมรับของประชาชน

ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญระบุว่า ทันทีที่ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีของศรีลังกาลาออกอย่างเป็นทางการแล้ว ขั้นตอนต่อไปนั้น ประธานรัฐสภาจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดี และให้รัฐสภาโหวตเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ภายใน 30 วัน ที่จะดำรงตำแหน่งไปจนครบวาระการทำงานของนายราชปักษะซึ่งจะสิ้นสุดลงในปี 2567

ด้านนายพี.นันดาลัล วีระสิงเห ผู้ว่าการธนาคารกลางของศรีลังกา กล่าวเตือนว่า ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองที่ยืดเยื้อในศรีลังกา อาจทำให้ความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อขอความช่วยเหลือทางการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ล่าช้าออกไป โดยตนอยากให้มีการบริหารทางการเมืองที่มีเสถียรภาพไม่ช้าก็เร็ว และตนหวังว่าจะมีรัฐบาลที่ประชาชนสามารถไว้วางใจได้มากขึ้น