“ประยุทธ์” เปิดงาน FTI Expo 2022 โอดอยากลดราคาน้ำมันจะตายอยู่แล้ว พ้อพูดสู้เขาไม่ได้ แต่ทำงานให้คนทุกจังหวัด

‘ประยุทธ์’ เยือนเชียงใหม่ เปิดฉาก FTI Expo 2022 รีสตาร์ตประเทศไทยขับเคลื่อนภายใต้บีซีจี-ซอฟต์พาวเวอร์ ลั่นราคาน้ำมัน อยากลดจะตายอยู่แล้ว แต่ติดปัญหาทั้งโลก ยืนยันทำงานให้คนทุกจังหวัดไม่เลือกที่รัก บอกไม่ต้องกลัวถูกบูลลี่

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน FTI Expo 2022 ภายใต้แนวคิด “Shaping Future Industries for Stronger Thailand” งานยิ่งใหญ่ระดับประเทศที่ภาคธุรกิจจากหลากหลายสาขามาร่วมแสดงสินค้าและนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ พร้อมกำหนดฉากทัศน์ใหม่ของอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคต ซึ่งจัดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งมีความสำคัญต่อประเทศในมิติต่างๆ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ผ่าน 4 สาขา คือ สาขาเกษตรและอาหาร สาขาสุขภาพและการแพทย์ สาขาพลังงาน วัสดุและเคมีชีวภาพ และสาขาการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พร้อมผลักดัน Soft Power ของไทยทั้ง 5Fs (Food, Film, Fashion, Fighting และ Festival) เพื่อเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์นำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จ.เชียงใหม่ เวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการเปิดงาน FTI Expo 2022 โดยมีรัฐมนตรีว่าการการกระทรวงกลาโหม, รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, เอกอัครราชทูตจากประเทศกัวเตมาลา อินโดนีเซียและบังกลาเทศ ผู้แทนท่านทูตจากประเทศจีน อินเดีย สหรัฐอเมริกา เดนมาร์ก เปรู แคนาดา กัมพูชา ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมในพิธีเปิดงาน จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดงาน FTI Expo 2022 จัดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยว่า “งาน FTI Expo 2022 ภายใต้แนวคิด ‘Shaping Future Industries for Stronger Thailand’ ถือเป็นงานระดับประเทศที่ภาคธุรกิจจากหลากหลายสาขาได้มาร่วมแสดงสินค้าและนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ และเป็นโอกาสดีที่จะได้กำหนดฉากทัศน์ใหม่ของอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคตเพื่อประเทศไทยที่แข็งแกร่งกว่าเดิม

ทั้งนี้ แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ทั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัลที่ส่งผลให้การพัฒนานวัตกรรมมีความจำเป็นมากขึ้น ตลอดจนแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่กำลังถูกหยิบยกเป็นวาระสำคัญของหลายประเทศทั่วโลก ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องเตรียมรับมือกับความท้าทายดังกล่าว เพื่อปรับตัวให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง ภายใต้บริบทของโลกใหม่ใบเดิมนี้ วันนี้ประเทศไทยเปรียบเสมือนรถยนต์ที่ขับเคลื่อนเดินต่อไปข้างหน้าบนเวทีโลก หลังจากจอดมาเป็นเวลา 2 ปี โดยกำหนดแนวทางในแต่ละช่วงเวลาเพื่อให้รถยนต์คันนี้สามารถพลิกโฉมตัวเองไปสู่การเปลี่ยนแปลง ในช่วงแรกจึงต้องรีสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อรีสตาร์ทประเทศไทยให้ฟื้นตัวได้โดยเร็วที่สุด

เมื่อเครื่องยนต์สตาร์ทติดแล้ว สิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ คือ การเร่งเครื่องยนต์ โดยการการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งมีความสำคัญต่อประเทศทั้งในมิติด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเสริมว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นการจับมือกันระหว่างองค์กรชั้นนำ ซึ่งได้สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจในการทำงานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่มีบทบาทสำคัญในการที่จะช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไทย ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รถยนต์ประเทศไทยคันนี้จะกลายเป็นยานยนต์แห่งอนาคตที่สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างเต็มกำลัง จากความสามัคคีของคนไทยด้วยกัน และผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า เราทำได้อย่างแน่อน หากเราทุกคนจับมือแล้วก้าวไปพร้อมกัน

“ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในครั้งนี้จะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยสู่อนาคตที่แข็งแกร่งกว่าเดิม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในนามของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและผู้สนับสนุนงาน FTI Expo 2022 รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน FTI Expo 2022

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างมากมาย ส.อ.ท. จึงมุ่งขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้นโยบายการหลอมรวมทุกภาคส่วนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน (ONE FTI) โดยทุกภาคส่วนจะร่วมกันทำงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทยเพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิม (Strengthen Thai Industries for Stronger Thailand) โดยอาศัยยุทธศาสตร์ 4 ข้อ ประกอบด้วย

1) Industry Collaboration ผนึกกำลังอุตสาหกรรมไทยให้เข้มแข็ง ผ่านการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมและสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ในลักษณะ 1 อุตสาหกรรม 1 จังหวัด 2) First 2 Next-Gen Industry ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่อนาคต ภายใต้อุตสาหกรรมเดิมและอุตสาหกรรมใหม่ซึ่งประกอบด้วย 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curves) ตามนโยบายรัฐ อุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนนโยบาย BCG หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 3) Smart SMEs ยกระดับ SMEs สู่สากล โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนา SMEs ในด้าน 1) Go Digital การนำดิจิทัลมาช่วยยกระดับศักยภาพทางธุรกิจ 2) Go Innovation การส่งเสริมให้ SMEs เข้าถึงนวัตกรรมและงานวิจัยมากขึ้น 3) Go Global การสร้างและขยายโอกาสในตลาดต่างประเทศผ่านสภาธุรกิจต่าง ๆ และ 4) Smart Service Platform การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยยกระดับการให้บริการ

นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า งาน FTI Expo 2022 นับเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของภาคอุตสาหกรรมไทยและองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคการศึกษา ทั้งด้านเทคโนโลยี อุตสาหกรรม การค้าและการท่องเที่ยว เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน มีผู้สนใจมาร่วมออกบูธนิทรรศการแสดงผลงานกว่า 340 บูธ เพื่อแสดงศักยภาพ นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคปกติใหม่ (New Normal) รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั่วโลกเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนของภาคธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแสดงศักยภาพและยกระดับความก้าวหน้าของภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายในระดับประเทศภายใต้แนวคิด BCG Economy Model ซึ่งจะเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต รวมทั้งเพื่อสร้างโอกาสในการขยายช่องทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ไทย การค้าการลงทุนให้เชื่อมโยงสู่ระดับสากลอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคเพื่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกภาคส่วนของประเทศให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจต่อไปได้แบบ Next Normal โดยคาดว่าจะสร้างโอกาสทางการค้าและเกิดเงินทุนหมุนเวียนภายในงานไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท

สำหรับไฮไลท์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นบนพื้นที่ของการจัดงาน FTI EXPO 2022 กว่า 30,000 ตารางเมตร จะมีการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำหน้า สินค้าและบริการที่ทันสมัยของบริษัทชั้นนำระดับประเทศ รวมทั้งเป็นเวทีเปิดกว้างในการแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมไทยที่หลากหลายครบวงจร โดยประกอบด้วย 6 กิจกรรมหลักๆ ได้แก่ FTI FUTURE FORUM เวทีที่รวมสุดยอดซีอีโอชั้นนำของประเทศทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์และนโยบายการขับเคลื่อนไทยสู่อนาคตในหัวข้อต่างๆ อาทิ ก้าวใหม่อุตสาหกรรมไทย ในยุค New Normal โดยคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, ความท้าทาย COP26 กับบริบทการใช้พลังงานของประเทศไทย โดยคุณสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, Shaping Energy Industry and Beyond for Sustainable Future โดยคุณอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

Shaping 5G Industry Transition Towards Digital and Green Energy โดย ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น, EXHIBITION & RETAIL อัพเดทเทรนด์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจและอุตสาหกรรม มากมายด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้าของเหล่าพันธมิตรและสินค้าอุตสาหกรรมไทย, BUSINESS MATCHING & NETWORKING พบปะคู่ค้าคนสำคัญเพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกัน, INNOVATION & TECHNOLOGY SHOWCASE ตื่นตากับนวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรมล้ำสมัยที่เข้ามาช่วยให้ธุรกิจไปไกลกว่าเดิม, BCG ECONOMY MODEL SHOWCASE นำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมจากภาคอุตสาหกรรมที่มีแนวคิดตอบโจทย์การพัฒนาเพื่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรที่จะเป็นหนึ่งพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลกของเราให้ยั่งยืนขึ้น, พบ NORTHERN FOOD VALLEY นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตจากผู้ประกอบการภาคเหนือ และสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยโดยได้รับการรับรอง MADE IN THAILAND จากสภาอุตสาหกรรมฯ

ทั้งนี้ เรายังคงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการจัดงานให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบ New Normal เพื่อให้ความมั่นใจแก่ผู้เข้าชมงาน และสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกทั้งได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในทุกด้าน ทั้งด้านสถานที่ มาตรการป้องกันโควิด-19 ระบบโลจิกติกส์ การบริการรถรับ-ส่งภายในงาน การปฐมพยาบาล การรักษาความปลอดภัย การบริการต้อนรับ ร้านค้า ร้านอาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ในการดูแลต้อนรับและอำนวยความสะดวกผู้เข้าชมงาน ที่ได้รับการฉีดวัคซีนและผ่านการตรวจ ATK ก่อนเข้าปฏิบัติงานทุกคน ยิ่งไปกว่านั้นงาน FTI Expo 2022 ยังได้รับมาตรฐาน Safe Travel ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยด้านสุขภาพระดับโลก, มาตรฐาน SHA ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสำหรับกิจการด้านการท่องเที่ยว และเป็นการจัดงานที่มีการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Carbon Neutral) ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เพื่อเป็นการส่งเสริมนโยบายของประเทศในการมุ่งสู่การเป็น Carbon Neutrality และ Net Zero นอกจากนั้นภายในงาน ได้นำแนวคิด PackBack มาใช้ในการนำบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วที่เกิดขึ้นภายในงาน กลับไปเป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนอย่างยั่งยืน

นายเกรียงไกร กล่าวทิ้งท้ายว่า งาน FTI Expo 2022 นอกจากจะเป็นการขานรับนโยบายเปิดประเทศแล้ว ยังถือเป็นการจุดพลุเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของภาคเศรษฐกิจและภาคประชาชน เพื่อสร้างจุดเปลี่ยนให้วงการอุตสาหกรรมไทยก้าวต่อไปได้อย่างยั่งยืน และร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ประเทศแข็งแกร่งกว่าเดิม

น้ำมันอยากลดราคาจะตายอยู่แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งถึงวิกฤตพลังงานว่า วันนี้ปัญหาราคาพลังงานค่าขนส่งแพงขึ้น เพราะน้ำมันราคาแพงขึ้น ซึ่งเราซื้อเขามาและต้องผ่านกลไกต่างๆ อยู่แล้ว ทั้งหมดมีข้อบังคับและระเบียบเยอะแยะไปหมดและมีมาตรฐาน

อีกทั้งนอกจากวันนี้พลังงานสูงขึ้น ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ก็มีปัญหาเงินเฟ้ออีก ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลจากการดำเนินนโยบายการเงินการคลังของต่างประเทศด้วย ยืนยันเราดูทุกอย่างด้วยความรัดกุมที่สุด ทำอะไรก็ตามจะไม่ทำให้เงินการคลังของประเทศอ่อนแอลง และให้ต่างประเทศเชื่อมั่นศักยภาพการเงินการคลังของไทยที่วันนี้ยังแข็งแกร่งอยู่ระดับ B+ แม้มีการกู้อะไรต่างๆ ซึ่งไม่ได้อยากกู้ ถ้าไม่จำเป็นตนก็ไม่อยากกู้

ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงความในใจด้วยว่า “เรื่องน้ำมันติดปัญหาทั้งโลก โธ่ !ทำไมจะไม่อยากลด อยากลดจะตายอยู่แล้ว”

 

ยันทำงานให้คนทุกจังหวัด

นอกจากนี้ นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ประเทศไทย กำลังพบกับสายลมแห่งความเปลี่ยนแปลง และจะอยู่ไปอีกนาน อาจเป็นพายุขึ้น เราต้องจับมือไปด้วยกัน รัฐบาลพยายามขับเคลื่อน พร้อมพบปะพูดคุยสร้างความเข้าใจระหว่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อปลดล็อกให้ภาคธุรกิจเดินต่อไปให้ได้ ประเทศไทยเหมือนรถยนต์คันหนึ่งที่พาคนกว่า 70 ล้าน ขับเคลื่อนไปข้างหน้าบนเวทีโลก ทำอย่างไรให้เครื่องยนต์นี้เดินไปให้ได้ไม่หยุด เครื่องยนต์ไม่ติดขัด จึงต้องเตรียมรถให้พร้อม เพื่อพาคนขึ้นรถให้ได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนทราบดีว่าวันนี้มีวิกฤตต่างๆ จากความขัดแย้งและโควิด ซึ่งเป็นห่วงโซ่กระทบกันหมด แต่ขอให้ดูว่ารัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้าง หลายคนอาจมองทำไมยังไม่ได้รับประโยชร์ แน่นอนความลำบาก นายกฯ เจ็บปวดและเห็นใจ อะไรทำได้ก็ทำให้ด้วยความระมัดระวัง ประเทศไทยและอาเซียนเป็นดินแดนแห่งความสงบสุข มีเสถียรภาพ ไม่มีสงครามความขัดแย้ง เป็นแหล่งอาหารของโลก ใครจะเป็นอะไรก็ว่าไป แต่เราไม่อดตาย และเราต้องรักษาดุลอำนาจให้ได้

วันนี้ ดีใจที่เห็นหลายคนยังไม่ถอดหน้ากากอนามัย ซึ่งตอนให้ใส่ ไม่อยากใส่ และพอให้ถอดไม่อยากถอด ซึ่งแล้วแต่ท่าน คงบังคับไม่ไหว ถ้าไม่อยากเป็น ก็ขอให้ใส่ ไม่ต้องกลัวจะถูกบูลลี่ว่า ยังใส่หน้ากาก เพราะคนพูดติดไปเยอะแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกระเซ้าว่า “พูดสู้เขาไม่ได้อยู่แล้ว พูดไม่ดีจะโดนโห่ด้วย”

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ขณะที่วางยุทธศาสตร์ ยืนยันว่าไม่ใช่รักษาอำนาจไป 20 ปี แต่วางยุทธศาสตร์เพื่อเป็นแผนและกรอบการทำงาน จะเห็นว่าทุกอย่างเกิดขึ้นมา ทั้งถนน รถไฟฟ้า และอื่นๆ วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือความรัก สามัคคีเสถียรภาพ ทะเลาะกันไม่ได้อีกแล้ว ตนไม่ต้องการทะเลาะกับใคร และตนทำให้ทุกคน ทำให้ทุกจังหวัด ลงแผนงานโครงการให้ทุกจังหวัด

“แม้จะรักผมหรือไม่ แต่ผมก็ทำให้เขา เป็นหน้าที่ของผม วันนี้เลิกขัดแย้งกันเสียที ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย สิ่งที่ทำมา สูญเปล่าไปเฉยๆ เราต้องจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน ผมหวังว่ารถยนต์ประเทศคันนี้ วิ่งไปข้างหน้าไม่ถอยหลัง ไม่ตายอยู่กับที่ จะเป็นจะตายก็ต้องช่วยกันเข็น ส่วนใครจะนำก็ต้องว่าไป แต่สิ่งที่ทำวันนี้ต้องต่อเนื่อง ถ้าบอกว่าไอ้นู้นก็ไม่ดี ไอ้นี่ไม่ใช่ก็ไม่ถูก ผมไม่ได้ว่าใคร ผมว่าตัวเอง ก็ชอบพูดหาเรื่องแบบนี้แหละ แต่พูดด้วยหัวใจ หัวใจของผมเพื่อประชาชน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว