พูดไม่ออก! ชาวชุมชนบ่อนไก่ เห็นสภาพบ้านหลังไฟไหม้ พร้อมความสิ้นหวังเอ่อล้น

ชาวชุมชน ‘บ่อนไก่’ พูดไม่ออก หลังเข้ามาเห็นสภาพบ้าน เผยจนหนทาง ไม่มีที่ไป ลูกชายเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย เหลือชุดนักศึกษาอยู่ชุดเดียว

 

วันที่ 22 มิ.ย. 2565 พ.ต.ท.วรายุธ พวงนาค รอง ผกก.สส.(สอบสวน) สน.ลุมพินี พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การไฟฟ้านครหลวง เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง การประปานครหลวง และ สำนักงานเขตปทุมวัน ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนบ่อนไก่ ถนนพระราม 4

จากการตรวจสอบ พบว่าบ้านเรือนที่อยู่ในพื้นที่ชั้นในของชุมชนติดกับกำแพง “บ้านพระราม 4 พลัส” ซึ่งมีกำแพงสูงถูกเพลิงไหม้เกือบทั้งหมด อาคารสูง 14 ชั้นของการเคหะ บางห้องกระจกแตก เครื่องปรับอากาศได้รับความเสียหายบางส่วน พื้นที่รอบนอกยังมีโครงสร้างของบ้านเหลืออยู่บ้าง ขณะที่ผู้ประสบภัย สำนักงานเขตปทุมวันได้จัดที่พักชั่วคราวให้บริเวณศูนย์เยาวชนบ่อนไก่ และมีบางส่วนอาศัยอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง

นายหมูเพียร วงษ์มณี อายุ 50 ปี กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2530 ก่อนเกิดเหตุตนพักอยู่ที่บ้านเห็นแสงไฟลัดวงจรอยู่ข้างบน เมื่อติดไฟจึงช่วยกันใช้ถังดับเพลิงดับไฟ แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ดับไฟที่อยู่บริเวณพื้น เพราะไฟลามหนักตนจึงรีบหนีตายออกมา เก็บของออกมาได้แค่เอกสารสำคัญเท่านั้น

ล่าสุดตนเพิ่งได้เข้ามาดูบ้านวันนี้ เห็นสภาพบ้านแล้วก็พูดไม่ออก เศร้า บ้านไม่เหลืออะไรเลย ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ไม่มีที่ไป ลูกก็เรียนหนังสืออยู่ที่ ม.รภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา ปีสุดท้าย เหลือชุดนักศึกษาอยู่ชุดเดียว ตนอยากให้ทางการเข้ามาช่วยเหลือผู้คนในชุมชน เพราะส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด และขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้เข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

นายกติกา ศักดิ์กะทัศน์ อายุ 35 ปี กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้มาประมาณ 10 ปีแล้วในช่วงเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้านเพราะต่างคนต่างไปทำงาน แต่พอกลับเข้ามาอีกทีก็เข้าบ้านไม่ทันเพราะเกิดเพลิงไหม้อย่างรวดเร็ว ได้แต่ยืนมองบ้านของตัวเองอยู่ข้างนอก ทำอะไรไม่ได้ก็เลยไปช่วยคนอื่นกลับไปเพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด บ้านถูกไฟไหม้ทั้งหลัง เอาอะไรออกไม่ได้เลย เพราะมันตั้งตัวไม่ทัน

“ตอนนี้มีเงินติดตัวอยู่ไม่กี่บาท พอหลังจากเพลิงสงบก็กลับเข้ามาที่บ้านเพื่อมาหาทอง หาพระที่เคยสะสมไว้ และหาเหรียญที่ลูกสาวหยอดกระปุก เพื่อจะเอามาต่อยอดใช้ชีวิตต่อ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเจอหรือเปล่าไม่มีความหวังว่าจะเจอ แต่ก็เลือกที่จะมาเผื่อว่าดวงจะดียังมีโชคอยู่บ้าง และก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบทุกหลัง” นายกติกา กล่าว

พ.ต.อ.นิมิตร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีบ้านเรือนได้รับความเสียหายประมาณ 50 หลังคาเรือน ส่วนสาเหตุการเกิดเหตุเพลิงไหม้ยังต้องรอผลการตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐาน