‘ยุทธพงศ์’ แฉแหลก ประมูลท่อส่งน้ำอีอีซีไม่โปร่งใส เปิดชื่อ ‘เฮีย ซ.’ ซื้อขายเก้าอี้กระทรวงทรัพย์ฯ

‘ยุทธพงศ์’ แฉ ประมูลท่อส่งน้ำอีอีซีไม่โปร่งใส จี้ ‘บิ๊กตู่’ ตอบมา เลือก ปชช.หรืออาวุธสงคราม เปิดชื่อ ‘เฮีย ซ.’ ซื้อขายเก้าอี้กระทรวงทรัพย์ฯ

 

วันที่ 2 มิถุนายน 2565 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ วันที่ 3 ซึ่งมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท โดยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า

ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ เต็มไปด้วยความไม่โปร่งใสและการทุจริต โกงแม้กระทั่งการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการ เริ่มจากกรมธนารักษ์ สังกัดกระทรวงการคลัง ได้วงเงิน 3.7 พันล้านบาท และเงินนอกงบประมาณอีก 500 ล้านบาท ซึ่งกรมธนารักษ์กำลังประกวดโครงการท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (อีอีซี) มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท โครงการนี้กรมธนารักษ์ได้ให้เอกชนใช้วิธีการคัดเลือกเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 โดยมีบริษัทเอกชนเข้ายื่น 3 ราย วันที่ 13 สิงหาคม 2564 คณะกรรมการคัดเลือกได้ให้บริษัท อีสท์วอเตอร์ได้คะแนนสูงสุด

แต่ต่อมาประธานคณะกรรมการไม่เห็นด้วยสั่งให้ยกเลิก และให้มีการคัดเลือกใหม่ ตนจึงไม่มั่นใจกรมธนารักษ์ถึงความโปร่งใสในการบริหารงาน ทั้งที่บริษัทที่ยื่นข้อเสนอดีที่สุดให้ภาครัฐ คือ บริษัท อีสท์วอเตอร์ ตนสงสัยว่าเหตุใดไม่ใช้วิธีการประมูลทั่วไป ทั้งนี้ หากกลางเดือนกรกฎาคม ถ้าไม่ทำเรื่องนี้ให้โปร่งใส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานอีอีซี จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน รวมถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลัง

นายยุทธพงศ์กล่าวว่า งบกระทรวงกลาโหม คือ กองทัพเรือ ปี 2566 ได้งบกว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยไปซื้อเรือดำน้ำจีน แต่ไม่มีเครื่องยนต์ ซื้ออากาศยานไร้เครื่องยนต์ 3 ลำ รุ่น hermes 900 ตั้งบ 4,070 ล้านบาท ตกลำละ 1,340 ล้าน ขณะที่ฟิลิปปินส์ ซื้อลำละ 340 ล้านบาท ตรงนี้คือความไมโปร่งใส ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมชี้แจง ส่วนกองทัพอากาศ งบประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท จะนำไปซื้อเครื่องบินขับไล่ รุ่น F-35A ราคาลำละ 2,700 ล้านบาท ซึ่งเป็นเครื่องเปล่าไม่มีอาวุธ และมีค่าใช้จ่ายในการบินชั่วโมงละ 1.2 ล้านบาท ต่างจากเครื่องบิน F16 ที่มีค่าใช้จ่ายในการบิน ชม.ละ 2 แสนบาท

ถามว่าสถานการณ์แบบนี้จะไปรบกับใคร เหมาะสมหรือไม่ที่จะซื้อเครื่องบินแพงๆ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ นายกรัฐมนตรีควรเลือกอะไรในวันที่คนไทยกำลังอดอยาก จะเลือกความหิวโหยของประชาชน หรือเลือกเรือดำน้ำจีนไม่มีเครื่องยนต์ โดรนที่ด้อยคุณภาพ และเครื่องบินที่ไม่มีอาวุธ นายกรัฐมนตรีต้องตัดสินใจว่าจะเลือกประชาชน หรืออาวุธสงคราม ขอให้ท่านปรับปรุงแก้ไขร่าง พ.ร.บ.งบฯฉบับนี้

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.)

นายยุทธพงศ์กล่าวถึงงบกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 30,638 ล้านบาท กรมสำคัญคือกรมทรัพยากรน้ำ ได้งบ 5,435 ล้านบาท นายกรัฐมนตรีประกาศปราบโกงคือวาระแห่งชาติ แต่กลับมีการซื้อขายตำแหน่ง โดยเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 65 มีการสอบคัดเลือกตำแหน่งผู้อำนวยการระดับสูง คือ ตำแหน่งผู้ตรวจราชการ และผู้อำนวยการสำนักด้านวิศวกรรมระดับสูง

สำนักอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำ ข้าราชการน้ำดีก็ไปสอบตามคุณสมบัติ แต่ปรากฏว่ามีบุคคลลึกลับชื่อเฮีย ซ. โทรศัพท์มาเรียกเงิน 8 หลักจากข้าราชการ ซึ่งวันที่ 20 พฤษภาคม 65 ที่ต้องมีการประชุมข้าราชการระดับซี 9 สองตำแหน่ง แต่ต้องเลื่อนมาจนถึงตอนนี้ เหตุการณ์แบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าปราบโกงคือ วาระแห่งชาติ ท่านกล้าปราบหรือไม่ ถ้าท่านกล้าให้ติดต่อมา ตนจะให้หลักฐานไปจัดการเฮีย ซ. สุดท้ายนี้ตนคงไม่สามารถรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้ เพราะเต็มไปด้วยความไม่โปร่งใสและการทุจริต