สัมผัสชีวิตคนกรุงระดับธรรมดา บนรถเมล์สาย 8 รับผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

มงคล วัชรางค์กุล

 

สัมผัสชีวิตคนกรุงระดับธรรมดา

บนรถเมล์สาย 8

รับผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่

ก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เมื่อ 22 พฤษภาคม 2565 ต้องบันทึกว่าคืนวันอังคารที่ 17 พฤษภาคม 2565 ฝนตกหนักในกรุงเทพฯ หลายเขตน้ำท่วมถนนหนทางจนการจราจรติดขัดขนาดหนักที่สุด สาเหตุเป็นเพราะ

ท่อตัน (ขยะเข้าไปอุด)

บางเขตเครื่องสูบน้ำเสีย

บางเขตไม่มีแบตเตอรี่สตาร์ตเครื่องสูบน้ำ

น่าสงสารชีวิตคนกรุงเทพฯ ที่ต้องเผชิญชะตากรรมจากความไม่พร้อมรับมือกับฝนตกหนักของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เป็นปัญหาโลกแตกตั้งแต่สมัยผู้ว่าฯ กทม.ชื่อจำลอง ศรีเมือง ที่โทษว่าเป็นเพราะฝนพันปีตก (น้ำจึงท่วมถนนกรุงเทพฯ)

วันรุ่งขึ้น 18 พฤษภาคม 2565 ผมมีภารกิจต้องเดินทางจากบ้านพักซอยอารีย์สัมพันธ์ 3 ไปทำธุระที่ปากซอยลาดพร้าว 120 เดินทางไปและกลับด้วยรถเมล์สาย 8 ได้เห็นชีวิตคนธรรมดาชาวกรุงที่ต้องใช้ชีวิตวันละหลายชั่วโมงบนรถเมล์ (รวมทั้งตัวผมด้วย) นำมาเล่าสู่กัน

ดังนี้

 

ผมขึ้นรถเมล์สาย 8 จากป้ายปากซอยอารีย์ตอนบ่าย 3 โมงครึ่ง เป็น “รถร้อน” คือรถไม่มีแอร์ ใช้เปิดหน้าต่างเอา ถือว่าเป็นการเดินทางที่ดีในช่วงโควิดระบาด การไม่ต้องอยู่ในห้องแอร์กับกลุ่มผู้คน ย่อมมีความเสี่ยงน้อยลง แต่ก็ต้องทนร้อนเอาในช่วงที่รถจอดติดนาน ไม่ขยับเขยื้อน ซึ่งเกิดขึ้นเกือบตลอดการเดินทาง เพราะถึงแม้ฝนจะไม่ตก แต่ถนนลาดพร้าวรถก็ติดสาหัส ด้วยกำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้ากลางถนน

ผมเสียค่าโดยสาร 5 บาท จ่ายครึ่งราคาแสดงบัตรประชาชนในฐานะผู้อาวุโส คาดการณ์ไว้ว่าจะถึงที่หมายในเวลาหนึ่งชั่วโมง แต่จริงๆ ต้องใช้เวลาถีง 1 ชั่วโมง 15 นาที นั่งนานจนคุ้ม

ขากลับ ท้องฟ้ามืดครึ้มฝนทำท่าจะตก ขึ้นรถเมล์สาย 8 ที่ป้ายปากซอยลาดพร้าว 120 ตอน 5 โมง 45 นาที เป็น “รถร้อน” เหมือนเดิม แต่คราวนี้คนนั่งเต็มมาแล้ว ทำท่าจะต้องยืน พอดีมีเด็กหนุ่มใจดีลุกให้นั่งเบาะแรกหลังคนขับ

รถติดมาก นานๆ จะได้ขยับเสียที คุณลุงโชเฟอร์จึงหาเรื่องชวนสนทนากับผม ส่งเสียงเจื้อยแจ้วมาจากหลังพวงมาลัย เริ่มต้นว่า

สงครามยูเครนจะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สามไหม?

จะมีการรบกันด้วยระเบิดนิวเคลียร์หรือเปล่า?

แล้วกรุงเทพฯ จะมีโอกาสโดนนิวเคลียร์ไหม?

เออหนอ นั่งอยู่หลังพวงมาลัยสาย 8 ก็ยังอดห่วงใยกรุงเทพฯ ไม่ได้

คุณลุงเล่าเหตุการณ์สำคัญว่า

เมื่อเช้าออกวินจากการเคหะคลองจั่นช่วง 6 โมงเช้า คนขึ้นเต็มตั้งแต่ต้นทาง รถติดสาหัสเพราะเมื่อคืนฝนตกหนัก น้ำยังท่วมถนน บางแห่งท่วมขนาดแทบเข้ามาในรถ

น้ำท่วมถนนเพราะท่อตัน

คนในรถเบียดแน่นเอี้ยด มีผู้หญิงท้อง 2 คนขึ้นมา ไม่มีใครลุกให้นั่ง ต้องจัดให้มานั่งบนเบาะครอบฝากระโปรงเครื่องข้างคนขับ

เธอทั้ง 2 คนนั่งหลับคาฝากระโปรงครอบเครื่อง

ลองนึกภาพดู คนเบียดเสียดกันแน่นรถเมล์ที่แทบไม่ขยับ จะร้อนทรมานขนาดไหน

นี่คือชีวิตคนธรรมดาชาวกรุงที่ต้องอดทนลูกเดียว

 

คุณลุงเล่าว่า จาก 6 โมงเช้าที่คลองจั่นมาถึงปลายทางสะพานพุทธตอน 10 โมงเช้า รวม 4 ชั่วโมงเต็ม

เวลานานขนาดนี้ วิ่งจากกรุงเทพฯ ถึงขอนแก่นสบายๆ

ขากลับวิ่งจากสะพานพุทธถีงคลองจั่นตอนเที่ยง เพิ่งได้หนึ่งเที่ยว

ตอนที่ผมขึ้นรถมานั้นเป็นการวิ่งเที่ยวที่ 3 ของวัน

คุณป้าทำหน้าที่กระเป๋าเสริมว่า ฝนตก รถติด พวกหนูก็เดือดร้อน วิ่งได้น้อยเที่ยวลง ขาดรายได้ไปเยอะเลย แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

ปกติรถสาย 8 จะวิ่งได้วันละ 4 เที่ยว ลุงโชเฟอร์คาดว่าจะวิ่งถึงสะพานพุทธตอนหนึ่งทุ่ม แต่คืนนั้นมาจอดส่งผมที่ปากซอยอารีย์ก็ปาไปหนึ่งทุ่ม 10 นาทีแล้ว กว่าจะถึงสะพานพุทธไม่น่าจะก่อน 2 ทุ่ม

กลับมาถึงคลองจั่นคงปาไปสี่-ห้าทุ่ม หมดเวลาสำหรับคืนนี้ ทำรอบได้เพียง 3 เที่ยว

รถเมล์ร้อนสาย 8 คือรถเมล์ให้เช่า ประเภทผัวขับ เมียเป็นกระปี๋เก็บตังค์ค่าตั๋ว

เป็นหนทางทำมาหากินของ “คนธรรมดา” พวกหนึ่ง

ลุงโชเฟอร์เล่าว่า เสียค่าเช่ารถวันละ 2,500 บาท ถ้าได้วิ่งครบ 4 เที่ยวก็พอมีรายได้มากินใช้บ้าง แต่ถ้าวิ่งแค่ 3 เที่ยวอย่างวันนี้ก็ลำบากหน่อย

ลุงโชเฟอร์ยังเล่าเสริมว่า อีกไม่กี่เดือนก็จะยกเลิกรถร้อนสาย 8 แล้ว จะเอารถแอร์ไฟฟ้ามาวิ่งแทน

ถึงตอนนั้น ยังไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรกิน

แต่ก็ยังดีกว่าสาย 44, สาย 122 ที่ตอนนี้ยกเลิกหยุดวิ่งไปเลย

 

ท้ายที่สุด ลุงโชเฟอร์ที่ผมสังเกตว่าขับรถดีมาก มีน้ำใจหยุดรถให้รถเก๋งที่ออกจากซอยเลี้ยวเข้าเลนตลอด ฝากบอกถึงคนที่ชอบรายงานการขับรถฟ้องไปกรมการขนส่งทางบกว่า

ขออย่าได้แกล้งรายงานเรื่องไม่จริง เพราะโชเฟอร์จะถูกปรับครั้งละ 200-300 บาท บางคนมีเด็ก 5 ชีวิตรอกินข้าวอยู่ที่ห้อง

บางคนถูกปรับ ต้องกินข้าวกับน้ำปลา

ขอเป็นกำลังใจให้เหล่าโชเฟอร์นักสู้ชีวิตทุกคน

และเป็นกำลังใจให้ชาวกรุงเทพมหานครที่จะได้ผู้ว่าฯ คนใหม่จากเลือกตั้ง…ทุกอย่างคงจะดีขึ้น?

ใต้ภาพ

เบาะรองนั่ง เหนือฝากระโปรงครอบเครื่อง