เผยแพร่ |
---|
กรุงเทพฯ 24 พฤษภาคม 2565 – ไทวัสดุ ศูนย์รวมสินค้าวัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้าน ภายใต้ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จับกระแสการฟื้นตัวของตลาด ที่อยู่อาศัย ส่งไลน์อัพเฟอร์นิเจอร์แบรนด์น้องใหม่ ‘คาลิน่า (Calina)’ ดีไซน์เรียบหรู คุณภาพดีในราคาจับต้องได้ สร้างทางเลือกผู้บริโภค ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ภายใต้สโลแกน “เฟอร์นิเจอร์ มีสไตล์ ราคาถูกใจ” เชื่อมั่นตลาดสินค้าตกแต่งบ้านโตขึ้น 10-12%
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “กระแสการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 อันเห็นได้จากการเปิดโครงการทั้งแนวราบและแนวดิ่งของผู้พัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งส่งผลให้มูลค่าของตลาดการซื้อสินค้าตกแต่งบ้านและที่อยู่อาศัยมีการเติบโตตามกัน โดยคาดว่าตลาดสินค้าตกแต่งบ้านจะโตขึ้นกว่า 10-12% ในปีนี้ พร้อมกันนี้เพื่อเสริมแกร่งศักยภาพของธุรกิจร้านไทวัสดุ ซึ่งเป็นศูนย์รวมสินค้าวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน จึงได้เดินหน้านำเสนอไลน์อัพสินค้าเฟอร์นิเจอร์เฮ้าส์แบรนด์น้องใหม่ ในชื่อ คาลิน่า (Calina) เพื่อเพิ่มทางเลือกสินค้าให้กับผู้บริโภค ตอกย้ำไทวัสดุในภาพการเป็น Home One Stop Shopping ช้อปทุกเรื่องบ้าน ครบจบที่เดียวที่ไทวัสดุ”
สำหรับเฟอร์นิเจอร์ คาลิน่ามีจุดเด่นด้านดีไซน์ที่ทันสมัย เรียบแต่หรูรับกับเทรนด์การแต่งบ้านและคอนโดในปัจจุบัน โดยออกแบบฟังก์ชันการใช้งานให้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่หลากหลายเหมาะกับทุกห้องภายในบ้าน ทั้งห้องนอน ห้องอาหาร ห้องทำงาน และห้องนั่งเล่น รวมถึงสินค้าสามารถปรับการใช้งานได้ตามพื้นที่ ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันที่มีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ นอกจากนี้ยังชูไฮไลท์การเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่ดีไซน์เรียบหรู คุณภาพดี ในราคาที่จับต้องได้ เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าบ้านทั่วไป คอนโด ร้านอาหาร และสำนักงาน เปิดตัวมาพร้อมโปรฯ ผ่อนสบายๆ 0% 10 เดือน หรือผ่อนนานสูงสุด 36 เดือน ตามเงื่อนไขของบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ รวมถึงจัดส่งและประกอบในพื้นที่ระยะ 30 กม. ฟรี
ปัจจุบัน แบรนด์ คาลิน่า เปิดให้บริการแล้วที่ไทวัสดุสาขา ลพบุรี ชลบุรี เชียงราย หาดใหญ่ ชัยภูมิ และจะเปิดเพิ่ม ที่สาขา สุพรรณบุรี เชียงใหม่ กาญจนบุรี ในเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนนี้ ทั้งนี้ตั้งเป้าขยายเพิ่มกว่า 18 สาขาในปี 2565
“เราพร้อมที่จะนำเสนอสินค้าและบริการ ที่ตอบโจทย์กับความต้องการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับเรื่องบ้าน เพื่อความเป็นผู้นำในตลาดค้าปลีกแนวหน้าหน้าของเมืองไทย” นายสุทธิสาร กล่าวสรุป
ช้อปสินค้าคุณภาพ แบรนด์ชั้นนำ “ครบเรื่องบ้าน ถูกและดี” ได้แล้ววันนี้ ที่ไทวัสดุทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ช้อปออนไลน์ได้ที่ www.thaiwatsadu.com ติดตามข้อมูลข่าวสาร พร้อมรายละเอียดโปรโมชัน ได้ที่เฟสบุ๊ก แฟนเพจ Thai Watsadu และ ไลน์ไอดี @Thaiwatsadu หรือ โทร 1308
###
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,440 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และ มินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 56 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัด, และประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565)