ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | คุยกับทูต |
เผยแพร่ |
รายงานพิเศษ
ชนัดดา ชินะโยธิน
คุยกับทูต : โลเรนโซ กาลันตี
เตรียมโบกมืออำลาประเทศไทย (1)
นับตั้งแต่มารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย เมื่อเดือนกรกฎาคม 2018 นายโลเรนโซ กาลันตี (His Excellency Mr. Lorenzo Galanti) มีโอกาสได้รู้จักและสร้างความคุ้นเคยกับประเทศไทย ทั้งก่อนการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ในระหว่างที่เกิดการระบาด และในปัจจุบันที่ประเทศเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ อันเกิดจากการระบาดใหญ่ของโรคนี้
เมื่อไม่นานนี้ มติชนสุดสัปดาห์ได้รับเกียรติเข้าสนทนากับเอกอัครราชทูต พร้อมด้วยคู่สมรส นางฟรานเชสกา กาลันตี (Francesca Andreini Galanti) ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตอิตาลีในซอยสีลม 19 หลังกำแพงสีขาวซึ่งประดับด้วยตราแผ่นดินอิตาลีที่มีรูปร่างคล้ายพวงหรีดโรมัน มีดาวห้าแฉกสีขาว (Stella d’Italia) ที่มีขอบสีแดงบางๆ ซ้อนทับบนฟันเฟืองห้าแฉก ระหว่างกิ่งมะกอกด้านซ้ายและกิ่งโอ๊กด้านขวา กิ่งก้านพันกันด้วยริบบิ้นสีแดงที่มีข้อความว่า “REPVBBLICA ITALIANA”
และที่นี่ รถประจำตำแหน่ง มาเซราตี (Maserati) รถแบรนด์สัญชาติอิตาลีสีขาววาววับจับตา มีตราโลโก้ตรีศูลหรือสามง่ามอันโดดเด่นของเทพเจ้ากรีซ “โพไซดอน” ข้างรถประดับธงชาติอิตาลี จอดสงบนิ่งข้างบันไดทำเนียบรูปครึ่งวงกลม
ทำเนียบทูตแต่เดิมตั้งอยู่เคียงข้างสถานทูตอิตาลีที่ถนนสาทรเหนือ ภายหลังย้ายมาอยู่ที่ถนนนางลิ้นจี่ ต่อมาในปี 2011 ที่ทำการสถานทูตได้ย้ายมาอยู่ ณ อาคาร All Seasons Place ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ
ทำเนียบทูตปัจจุบันในซอยสีลม 19 เดิมเป็นบ้านเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (จิตร ณ สงขลา) สถานทูตอิตาลีมาเช่าสำหรับเป็นที่พำนักตัวแทนประเทศ ในที่ดิน 3 ไร่ ซึ่งมีบ้านสามหลัง โดยบ้านหลังที่เป็นทำเนียบนี้เป็นบ้านหลังกลาง
นักการทูตแห่งประเทศอิตาลี เริ่มต้นเล่าประสบการณ์ชีวิตในประเทศไทย
“เนื่องในโอกาสวันสาธารณรัฐอิตาลี ครั้งที่ 76 ในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ เป็นโอกาสพิเศษที่ผมจะมองย้อนกลับไป 4 ปีที่แล้วของการดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำราชอาณาจักรไทย ซึ่งมีความเชื่อมโยงในหลายประเด็น”
“นับตั้งแต่เท้าแตะพื้นสนามบินสุวรรณภูมิและย่างก้าวเข้าสู่บ้านใหม่แสนสวยของเราย่านสีลมตอนเช้าตรู่ของวันที่เมฆครึ้ม 2 กรกฎาคม 2018 หลายสิ่งหลายอย่างในโลกได้เปลี่ยนแปลงไปและหลายสิ่งหลายอย่างได้เกิดขึ้นโดยที่เราก็คาดไม่ถึง”
“ราวกับประวัติศาสตร์เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะระยะเวลาเกือบสี่ปีที่ผมอยู่ในประเทศไทยดูเหมือนจะยาวนาน แต่เมื่อใกล้จะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่ง ช่วงเวลาดังกล่าวนั้นกลับผ่านไปอย่างรวดเร็วประหนึ่งกะพริบตา”
กว่าสองปีที่โลกต้องเผชิญกับการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เราได้เห็นธุรกิจทั้งขนาดเล็กและใหญ่ต้องดิ้นรนปรับตัวฝ่าความท้าทาย
“ขณะที่โลกกำลังดิ้นรนเพื่อฟื้นฟูจากผลที่ตามมาของการระบาดใหญ่ สหประชาชาติยังได้ชี้ให้เห็นว่ามีผลกระทบที่สร้างความเหลื่อมล้ำในสิทธิของคนยากไร้ ผู้อ่อนแอ คนชายขอบ เกิดหายนะจากฝีมือมนุษย์ ในลักษณะที่แตกต่างออกไป- สงครามที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการยั่วยุและปราศจากความยุติธรรมซึ่งเริ่มต้นโดยรัสเซียในยูเครน”
“นอกจากวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ร้ายแรงแล้ว สงครามครั้งนี้ยังส่งผลกระทบไปทั่วโลกโดยเฉพาะต่อความมั่นคงในทุกมิติ ทั้งด้านอาหาร พลังงาน และเศรษฐกิจโลก”
“ดังนั้น ความเชื่อมโยงระหว่างสันติภาพและความมั่นคง กับการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของทุกภูมิภาค มีความเด่นชัดและสมควรได้รับการวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น”
“สําหรับการมาประเทศไทยครั้งนี้ เป็นการมารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตครั้งแรกของผม โดยมีหน้าที่รับผิดชอบในสามประเทศ (ไทย กัมพูชา และ สปป.ลาว) ความรู้สึกของผม จึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกระตือรือร้นที่อยากจะทำงานมาก”
“ในขณะเดียวกันตามสัญชาตญาณ ก็หวังจะมีโอกาสโทร.หาคุณพ่อเพื่อเล่าถึงความประทับใจที่ผมมีต่อประเทศไทย แต่กลับต้องมาโศกเศร้าเสียใจเพราะคุณพ่อได้จากไป 10 วันก่อนหน้านั้น”
เป้าหมายในการทํางานของเอกอัครราชทูตโลเรนโซ กาลันตี
“การพัฒนาความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างเราทั้งสองประเทศ การให้บริการและความช่วยเหลือแก่ชุมชนชาวอิตาลีที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย กัมพูชา และลาว การปรับปรุงความสัมพันธ์โดยรวมของเรากับสามประเทศสมาชิกอาเซียนที่ได้กล่าวมา เป็นเป้าหมายหลักที่กำหนดไว้สำหรับภารกิจใหม่ของผม”
“ตอนที่มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศอิตาลี ผมได้เดินทางไปทั่วภูมิภาคและมีส่วนร่วมในโครงการริเริ่มที่มุ่งเน้นโอกาสสำหรับชุมชนธุรกิจในอิตาลีและอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘การเจรจาระดับสูงว่าด้วยความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอิตาลี-อาเซียน’ ซึ่งเป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นตั้งแต่ปี 2015 โดยคลังสมองของอิตาลี The European House Ambrosetti และสมาคมอิตาลี-อาเซียน ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในเมืองหลวงของชาติสมาชิกอาเซียน และผมหวังว่าจะจัดในประเทศไทยในปี 2023”
“ผมมาประจำประเทศไทยในช่วงเวลาที่การติดต่อระดับการเมืองระหว่างประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและไทยได้เริ่มต้นขึ้นใหม่ ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของอิตาลีและไทยสามารถเดินทางแลกเปลี่ยนการเยี่ยมเยือนกันได้ ก่อให้เกิดแรงกระตุ้นอย่างมากต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีของเรา”
“ผมกับฟรานเชสกา ภรรยา รู้สึกเหมือนมีชีวิตที่หมุนไปมาในกรุงเทพฯ อย่างน่าตื่นเต้น แม้จะอ่อนล้าในบางครั้ง แต่ก็ให้ผลตอบแทนเป็นรางวัลเสมอ เพราะทุกคนที่เราได้พบเจอ คือการสร้างสัมพันธ์ที่มีความหมาย”
“เริ่มจากสัปดาห์แรกที่เรามาอยู่ที่นี่ มีข่าวเด็กๆ ติดอยู่ในถ้ำทางภาคเหนือของประเทศไทย และประเทศลาว ประสบภัยน้ำท่วมฉับพลัน หลังเขื่อนในแขวงอัตตะปือแตก”
สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก อาทิ เดอะการ์เดี้ยน ซีเอ็นเอ็น รอยเตอร์ และเดลิเมล์ ได้รายงานการเกาะติดสถานการณ์ปฏิบัติการค้นหา 13 นักฟุตบอลเยาวชนเชียงราย อายุระหว่าง11-16 ปี และโค้ชอายุ 25 ปี หลังติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน เนื่องจากน้ำท่วมสูงปิดปากทางเข้าออกถ้ำจนกลับออกมาไม่ได้ ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 มิถุนายน 2018
“ในขณะที่เรื่องเด็กติดอยู่ในถ้ำจบลงอย่างมีความสุข แต่ก็มีเรื่องเศร้าเมื่ออดีตทหารเรือหน่วยซีล (SEAL) ผู้กล้าหาญได้หมดสติและเสียชีวิตในที่สุดขณะดำน้ำกู้ภัย โดยอิตาลีก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ให้ความช่วยเหลือกรณีนี้ด้วย”
“ผมยังมีความกังวลเป็นพิเศษกับคดีที่เกี่ยวข้องกับชาวอิตาลีคนหนึ่งซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิต และคนที่พ้นโทษ ควบคู่ไปกับการดำเนินงานทางกงสุลที่เข้มข้นมาก”
“โอกาสทางธุรกิจดูเหมือนจะเป็นกระแสที่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีการประชุม Italy-Thailand Business Forum ซึ่งเป็นกลุ่มซีอีโอ จากนายกเทศมนตรี บริษัทจากอิตาลีและไทย ที่นำโดยกลุ่ม Central และ Italmobiliare และผมก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากหอการค้าไทย-อิตาลี (TICC) ทุกอย่างจึงดำเนินต่อไปด้วยดี”
“สำหรับสำนักงานการค้าอิตาลีในกรุงเทพฯ (สถานเอกอัครราชทูตได้รับมอบหมายให้สนับสนุน SMEs และส่งเสริมความสัมพันธ์แบบ B2B) เราได้เริ่มการทำงานเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของอิตาลีในงานแสดงสินค้าในประเทศไทย และการริเริ่มกับกลุ่มค้าปลีกรายใหญ่เพื่อดึงดูดผลิตภัณฑ์และแบรนด์อิตาลีใหม่ๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์”
“นอกจากนี้ เรายังได้ทำข้อตกลงหลายฉบับ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และผมต้องขอบคุณนายจูเซปเป้ ลามัคเคีย (Giuseppe Lamacchia) ผู้อำนวยการหน่วยงานการค้าของอิตาลี ในความพยายามทุ่มเทอย่างหนัก”
“สถานเอกอัครราชทูต ดำเนินงานเกี่ยวกับโครงการด้านวัฒนธรรมที่โดดเด่นตลอดทั้งปี ตั้งแต่ดนตรีคลาสสิคและแจ๊ซ ละคร ทัศนศิลป์ เทศกาลภาพยนตร์อิตาลี รวมทั้งโครงการใหม่ๆ ที่กลายมาเป็นงานประจำปีของเรา…เทศกาลอิตาลีในประเทศไทย”
“ซึ่งในที่สุด รัฐบาลอิตาลีก็ได้ตัดสินใจเปิดสถาบันวัฒนธรรมอิตาลี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถานเอกอัครราชทูตในประเทศไทย เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านวัฒนธรรมกับประเทศไทย โดยส่งเสริมวัฒนธรรมและภาษาอิตาลีต่อไป”
ความสัมพันธ์ทางการทูตไทยกับอิตาลีนับถึงปัจจุบัน 154 ปีแล้ว โดยไทยและอิตาลีได้ลงนามในสนธิสัญญาฉบับแรกคือ สนธิสัญญาว่าด้วยมิตรภาพและการค้า (Treaty of Friendship and Commerce) เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 1868 ส่วนการลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2004 ได้ส่งผลให้เกิดความร่วมมือในโครงการต่างๆ มากมาย
การมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างไทยกับอิตาลีทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี จึงมีพัฒนาการที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง •