Bose Smart Soundbar 900 / เครื่องเสียง : พิพัฒน์ คคะนาท

เครื่องเสียง

พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]

 

Bose Smart Soundbar 900

 

แรกที่เห็นซาวด์บาร์ตัวนี้ก็ให้รู้สึกว่าหน้าตาดีทีเดียว ยิ่งเมื่อเข้าไปพิจารณาดูใกล้ๆ ก็รับรู้ได้ถึงงานฝีมืออันประณีตที่ยอดเยี่ยมมาก แลดูทรงคุณค่าสมกับชื่อชั้นของค่าย รวมทั้งในฐานะรุ่นที่เป็น Flagship หรือเรือธงผู้นำฝูงของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดียวกัน

โดย Smart Soundbar Series ของ Bose มีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่น คือ Model 300, 700 และ 900 ที่เป็นพัฒนาการล่าสุดของอนุกรมนี้

โครงสร้างภาพลักษณ์ที่กระเดียดไปข้างเพรียวบางและค่อนข้างยาวนั้น แลเรียบหรู ดูโดดเด่นด้วยแผงตะแกรงโลหะที่ด้านหน้าแล้วโค้งมนไปด้านข้าง รวมทั้งด้านบนที่ Topper เอาไว้ด้วยแผ่นกระจกแบบ Premium Glass ที่ให้ความรู้สึกหรูหราอันคลาสสิคแบบเรียบง่ายอยู่ในที แผงหน้า ด้านบน และด้านข้างของโครงสร้าง ไม่มีอะไรให้รู้สึกสะดุดตา เพราะออกจะกลมกลืนไปแบบเนียนตาทั้งชิ้น

จะมีให้เห็นเป็นนัยก็ที่เกือบสุดขอบของด้านบนทั้งซ้ายและขวา ที่เห็นเสมือนเซาะร่องแผ่นกระจกลงไปเป็นช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบลบมุม ทำให้ดูคล้ายแคปซูลและมีตะแกรงโลหะปิดเอาไว้ ซึ่งพอจะให้คาดเดาได้ว่าเป็นตำแหน่งติดตั้งชุดตัวขับเสียงที่ยิงเสียงขึ้นด้านบน สำหรับการทำงานร่วมกับภาคถอดรหัสสัญญาณ Dolby Atmos นั่นเอง

ส่วนที่แผงหลังมีการเซาะร่องเว้าเป็นระยะๆ สำหรับการติดตั้งขั้วต่อและพอร์ตต่างๆ รวมทั้งช่องเสียบต่อกับอุปกรณ์ภายนอกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้น อาทิ ช่องเสียบสำหรับเพิ่ม Bass Module ช่องเสียบ ADAPTiQ (ที่ให้ชุด Headset มาพร้อมเพื่อทำหน้าที่เป็นไมโครโฟน สำหรับทำงานร่วมกับระบบปรับแต่งแก้ไขสภาพอะคูสติกของห้อง) ล้วนถูกซ่อนเอาไว้อย่างแนบเนียน

ขณะเดียวกันก็วางองศาแบบเอียงมุมเพื่อให้การเชื่อมต่อเสียบสายและอุปกรณ์อื่นๆ สามารถทำได้แบบสะดวกมือดี

 

กลับมาที่แผงหน้าอีกครั้ง แม้ภาพลักษณ์ภายนอกจะแลเรียบไร้ความโดดเด่นสะดุดตาใดๆ (เว้นแต่ตราสัญลักษณ์ Bose ที่กึ่งกลางแผงค่อนมาด้านล่าง) ทว่า เบื้องหลังแผงหน้ากากตะแกรงโลหะนั้น ได้ผนวกความน่าทึ่งเอาไว้มากกว่ามาก โดยเฉพาะกับชุดตัวขับเสียงซึ่งมีทั้งหมดถึงเก้าตัวนั้น ได้ถูกออกแบบและคำนวณตำแหน่งติดตั้งเพื่อให้ได้การทำงานที่ถูกต้อง เที่ยงตรง และให้ความแม่นยำสูงสุด โดยที่กึ่งกลางแผงหน้าติดตั้งเอาไว้ด้วยทวีตเตอร์ และขนาบข้างแต่ละด้านด้วยชุดตัวขับเสียงเรียงกันในแนวนอนด้านละสี่ตัว

และมีตัวขับเสียงแบบ Dipole อีกสองชุดที่ด้านข้าง ติดตั้งในลักษณะให้การทำงานยิงเสียงขึ้นด้านบนแบบ Up-Firing Transducer โดยทำงานควบคู่กับ PhaseGuide Technology ที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะ ซึ่งช่วยในการกระจายเสียงแบบหลายทิศทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ภายในห้อง ด้วยประสิทธิภาพอันสามารถครอบคลุมทุกพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง ทำให้สัมผัสได้ถึงตำแหน่งที่ให้กำเนิดเสียงแม้จะไม่มีชุดลำโพงด้านบน หรือ Height Speaker ติดตั้งอยู่ ณ ที่จุดนั้นๆ เลยก็ตาม

ครับ, ทั้งหมดนั้นเป็นภาพรวมและคุณสมบัติที่น่าสนใจของซาวด์บาร์ชุดนี้

Bose Smart Soundbar 900

ผมเริ่มต้นด้วยการฟังเพลงจากที่เก็บเอาไว้ในสมาร์ตโฟนเป็นลำดับแรก การเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์กับซาวด์บาร์ชิ้นนี้ผ่าน Bluetooth ทำได้อย่างรวดเร็ว ทั้งคู่ Pairing กันด้วยเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น จากนั้นบรรดา ‘เพลงเอาเพลิน’ ของผมที่บ้างก็เป็น Hi-Res และมีไม่น้อยที่ผ่านการบีบอัดข้อมูลมา ก็ถูกเลือกนำมาใช้ลอง

Bose Smart Soundbar 900 ทำงานกับเสียงดนตรีในรูปแบบสเตอริโอ 2 แชนเนล ได้อย่างน่าสนใจ และออกจะน่าฟังอย่างน่าทึ่งมากกับดนตรีอะคูสติก ไม่ว่าจะเป็นแบบวงเล็กไม่กี่ชิ้น หรือวงใหญ่กับงานซิมโฟนีผ่านวงออร์เคสตรา อย่างฟังงาน The Beautiful Blue Danube ที่เป็นบันทึกการแสดงสดของ Andre Rieu & His Johan Strauss Orchestra นั้น นอกจากกังวานเสียงไวโอลินที่คุณอังเดรเป็นผู้สีคันชัก จะให้ออกมาด้วยความเป็นธรรมชาติที่สมจริงสูงมากแล้ว ภาพรวมของเสียงจากวงก็ให้ออกมาอย่างโอ่อ่า ยิ่งใหญ่ รวมทั้งยังให้บรรยากาศเสียงที่อบอวลไปทั้งห้องชนิดที่โอบล้อมอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ แบบไม่น่าเชื่อว่าเสียงที่ได้ยินนั้นจะให้ออกมาจากลำโพงชิ้นเดียวที่เพรียวบางซึ่งวางอยู่ใต้จอทีวีเบื้องหน้า

ขณะเดียวกันก็ให้บรรยากาศงานจากเสียงหัวเราะ (ยามคุณอังเดรเขาพูดคุยเล่นมุข) ของผู้ชม รวมทั้งเสียงปรบมือ เป่าปาก ด้วยความชอบอกชอบใจ ก็ให้ออกมาด้วยความสมจริงแบบเสมือนร่วมอยู่ในคอนเสิร์ตนั้นด้วยนั่นเลย

นอกจากทำงานกับเครื่องดนตรีอะคูสติกด้วยความเป็นธรรมชาติสูงมากแล้ว เสียงร้องก็มีความสมจริงของเนื้อเสียงสูงมาก ไม่ว่าจะกับเสียงร้องหญิง หรือชาย ให้กังวานเสียงและแก้วเสียงที่เป็นบุคลิกเฉพาะของนักร้องแต่ละรายออกมาได้น่าฟัง ทั้งยังนำเสนอแต่ละอัตลักษณ์เสียงนั้นๆ ออกมาอย่างโดดเด่น และชัดเจนพอด้วยความคุ้นชินมาก

นอกจากจะให้เสียงดนตรีออกมาได้อย่างน่าฟังแล้ว อีกสิ่งที่น่าชื่นชมของซาวด์บาร์ชิ้นนี้ก็คือการให้เสียงดนตรีจากไฟล์คุณภาพต่ำ ออกมาได้ในเกณฑ์ที่เหนือกว่าความน่าพอใจ แต่ละตัวโน้ตเสมือนได้ผ่านการ ‘เกลา’ ด้วยเทคโนโลยีระดับสูง ทำให้สุ้มเสียงที่ผ่านออกมากระทบโสตนั้น เหนือกว่าลำโพงแบบเดียวกันหลายๆ ชิ้นที่เคยได้ฟังมายิ่งนัก

มันสามารถนำเสนอเสียงคุณภาพจากไฟล์ไร้คุณภาพ ออกมาได้อย่างน่าชื่นชมโดยแท้ แม้ว่าเท่าที่ดูจาก ‘ฝอย’ ต่างๆ รวมทั้งข่าวประชาสัมพันธ์ของค่ายเอง จะไม่ได้เน้นไปด้านฟังเพลงสักกี่มากน้อยก็ตาม ทั้งยังกล่าวทำนอง – นำเสียงจากโรงหนังมาให้ฟังกันที่บ้าน, เป็นหลักอีกด้วย

 

ซึ่งการทำงานกับระบบ Multi-Channel ในรูปแบบของโฮม เธียเตอร์ นั้น คือความน่าทึ่งที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกระดับ (เมื่อนึกย้อนไปถึงซาวด์บาร์รุ่นใหม่ๆ ที่ได้ฟังผ่านหูมาบ้าง) ด้วยมิเพียงสามารถรังสรรค์บรรยากาศเสียงออกมาได้อย่างโอบล้อม เสมือนมีลำโพงแบบแยกชิ้นทำงานอยู่ในห้องเท่านั้น หากยังให้ตำแหน่งและทิศทางเสียงออกมาได้อย่างชัดเจน รวมทั้งยังมีความลื่นไหลอันต่อเนื่องของแต่ละแชนเนลที่มีลำโพงเสมือนตั้งวางอยู่อย่างน่าทึ่งมาก รวมทั้งยังให้จินตนาการถึงระดับเสียงของแต่ละลำดับชั้นได้อย่างสอดคล้องกับวัตถุภาพเคลื่อนไหวอยู่ในจอภาพที่กำลังชมอยู่

เพราะแค่จากฉากแรกที่เริ่มต้นของเรื่อง Monster Hunter ที่เรือกำลังเจอมรสุมพายุกลางมหาสมุทร ไปจนถึงฉากมอนสเตอร์ไล่ล่าสิงห์ทะเลทรายสองคันกับสี่ห้าชีวิตนั้น บรรยากาศเสียงอันเคยคุ้นจากปกติที่ฟังผ่านระบบ 5.1.4 เมื่อมาได้สัมผัสผ่าน ‘ลำโพงทีวี’ ที่เป็นชิ้นเดียวตัวนี้ ต้องบอกว่ามันหาได้ให้ออกมาอย่างขี้ริ้วขี้เหร่เมื่อเทียบกันแต่อย่างใด แน่นอนละ, มันมิอาจเทียบเคียงลำโพงแยกชิ้นเต็มระบบแบบซิสเต็มปกติได้ แต่มันให้การทำงานที่ต้องบอกว่า ‘ครบเครื่อง’ พอตัวแบบน่าพอใจดังที่กล่าวไว้ในย่อหน้าก่อนโดยแท้

เพราะทั้งตำแหน่งเสียง ทิศทางเสียง ตลอดจนความต่อเนื่องของเสียงที่โอบล้อมในลักษณะบรรยากาศเสียงรายรอบที่ได้สัมผัสนั้น แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าภาพรวมของเสียงทั้งหมดที่ได้ยิน จะให้ออกมาจากลำโพงชิ้นเดียว

Bose Smart Soundbar 900 จำลองเสียงจากโรงภาพยนตร์มาให้คุณๆ ฟังกันที่บ้านได้จริงๆ ครับ •