บทกวีชั่วชีวิต / การ์ตูนที่รัก : นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

 

บทกวีชั่วชีวิต

 

จากชายผู้ออกเดินทางตามเสียงตัวเอง ของ สะอาด เมื่อปี พ.ศ.2554 ถึงวันนี้ นักเขียนเปลี่ยนไปมาก โฉ่งฉ่างน้อยลงทั้งที่ลายเส้นและคำพูดในบัลลูนจะแจ้งมากขึ้น เนื้อหาที่สื่อมีความกลมกล่อมมากขึ้น แต่ก็ไม่มากเกินไปจนเลี่ยน

ชื่อหนังสือว่าชั่วชีวิตชวนให้สงสัยว่านักเขียนอายุเท่าไรกันแน่ แต่นั่นมิใช่ประเด็น ที่น่าดีใจมากกว่าคือดูเหมือนจะเป็นนักเขียนการ์ตูนไทยคนหนึ่งที่อุดมการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง

บทกวีชั่วชีวิต เป็นหนังสือรวมการ์ตูนสั้น 5 เรื่อง พิมพ์ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ.2562 ทำออกมาเหมือนหนังสือทำมือ เขียนด้วยปากกาทั้งเล่มไม่มีตัวพิมพ์ดีด ข้อดีคือเป็นการ์ตูนเขียนด้วยมือแท้ๆ ถูกใจ ข้อเสียสำหรับคนแก่คือหมึกจางเป็นสีเทาจำนวนพอสมควร ทรมานสายตา

ห้าเรื่องนี้ย่อมชอบเรื่องแรกมากที่สุด “ตื่น”

ตื่น เล่าเรื่องชีวิตเส็งเคร็งของผู้คนวันนี้ เราบอกเล่าชีวิตบัดซบวันนี้ได้หลายวิธี วิธีหนึ่งคือรายงานข่าว อีกวิธีคือสร้างสารคดี อีกวิธีคือเขียนบทความ อีกวิธีคือเขียนการ์ตูน แม้ว่ายังมิใช่การ์ตูนเรื่องยาวเหมือน เตรียม ชาชุมพร (2495-2533) แต่ถือว่าดี

อ่านยากเล็กน้อยเพราะลายเส้นยุ่งเหยิงตามสไตล์นักเขียน ใช้ภาษาหยาบคายเล็กน้อยเหมือนที่เขาด่านักเรียนนักศึกษารุ่นใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม ลำพังบทสนทนาและการตัดต่อก็อ่านเข้าใจและได้ใจ มิใช่เนื้อเรื่องหรือเนื้อหาที่ได้ แต่ได้อารมณ์และบรรยากาศ

คือบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความหมดหวัง ไร้อนาคต หมดหนทางไป อ่านจนจบกรอบสุดท้ายก็ยังไม่รู้จะไปทางไหนได้จริงๆ

“ฝนตกลงมาเป็นกลิ่นน้ำหอม น้ำถนนรสชาเขียว กาเมหล้าอาละวาดอยู่ที่ลาดพร้าว” ชายมอมแมมคนหนึ่งตื่นนอนที่ป้ายรถเมล์เพราะรถวิ่งผ่านสาดน้ำถนนขึ้นมาปลุก “หอบเอาชีวิตเชี่ยๆ ไปทำงานเชี่ยๆ ในโลกอันแสนเชี่ย” ทั้งหมดนี้คือหน้าแรก

“สนใจใช้เครื่องลบความทรงจำเฮงซวยไหม” ชายชุดดำ (น่าจะ MIB) ปรากฏตัวขายวัตถุทรงกระบอกล้ำยุค

เพื่อนที่ตายแล้วในวัยเด็กคนหนึ่งมานั่งคุยด้วย “โชคดีแล้วเต้ที่มึงไม่โตขึ้นมา ไม่ต้องมาเจอชีวิตจริง” ชายมอมแมมของเราบอกเพื่อนตัวเล็ก ถัดจาดกาเมร่า เอ็มไอบี มาถึงหนังเรื่อง โชคดีที่ตายก่อน นักเขียนเดินเรื่องยิ่งใหญ่ด้วยคำน้อยนิดจริงๆ

“แต่กูอยากเป็นผู้ใหญ่” เต้เถียงหน้าแหก “ดีจะตายไม่โดนบังคับแปรงฟัน”

“สะอาด” เก่งเรื่องแบบนี้บ่อยครั้ง สามารถหยิบเอาเรื่องที่ชัดเจนที่สุดเพียงเรื่องเดียวของความเป็นเด็กขึ้นมาวางบนโต๊ะ แล้วเป็นตัวแทนของความทุกข์ทั้งหมด โดนทุกคนเรื่องแปรงฟันให้ “สะอาด” ใครๆ ก็จำความทุกข์เรื่องแปรงฟันได้

ประเด็นมิใช่การจำ ประเด็นเป็นเรื่องการลืม ถัดจากเครื่องลบความจำเฮงซวย ชายมอมแมมระลึกถึงยายที่ “หลงลืม” เขาไปเรียบร้อยแล้ว จากนั้นขอนักดนตรีข้างถนนช่วยบรรเลง “เพลงลืมความหลัง” ให้ฟังหน่อย อดีตเฮงซวย – รอบข้างเฮงซวย – อนาคตเฮงซวย ครบไตรภาค

ทันใดนั้นเพื่อนเก่า ฝน ก็ปรากฏตัว เธอปฏิเสธเครื่องลบความทรงจำโดยที่ยอมรับว่ามีแต่เรื่องแย่ๆ เต็มไปหมดเหมือนกัน “มหาศาลค่ะ! โดยเฉพาะเรื่องของชายคนนั้น!” ว่าพลางชี้มาที่ชายมอมแมม เอ็มไอบีรีบเสนอการขายลบมันเลยๆ

“…ไม่เอาดีกว่า อยากเก็บไว้ให้ชีวิตเร้าใจ เผื่อวันหนึ่งมันอาจจะกลายร่างเป็นเรื่องดีๆ ได้” ฝนว่า พูดเหมือนเพิ่งดูกาเมร่า เต่าไฟกายสิทธิ์

กรอบสุดท้ายชายมอมแมมตื่นขึ้นมาในห้องพักเล็กๆ เตียงเดี่ยว โต๊ะเล็กๆ ผ้าม่าน เขาน่าจะเป็นคนชั้นกลางระดับล่างที่ตื่นมาพร้อมความรู้สึกถูกปิดล้อมเช่นเดียวกับเมื่อวานนี้

อ่านเรื่องที่สองกัน คืนแปดปี

เรื่องนี้เร้าใจ เหตุเกิดในวันเลี้ยงรุ่นหลังจบมัธยมปลายไปแล้วแปดปี กลิ่นเบียร์ลอยตลบอบอวลออกมาจากหน้าหนังสือการ์ตูนพร้อมบรรยากาศเพื่อนเก่า “ทุกวันนี้ แม่งยังไม่รับแอดเฟรนด์กูเลย” ตัวเอกของเรื่องว่า

“ทาสสสส” หญิงหนึ่งกำลังแหกปากโอเกะ “ไม่พูด ไม่โวย ไม่บ่น เธอทำให้กลายเป็นทาสสส”

“อาชีพพยาบาลมันเครียดขนาดนั้นเลยหรือวะ” คนหนึ่งซดเบียร์พูด “คงงั้นแหละ” อีกคนซดเบียร์ตาม

คุณสะอาด ระวังสภาพยาบาลประท้วงนะครับ

ภาพหน้านี้โดน อาจจะไม่โดนคนอื่นแต่โดนผู้เขียนคอลัมน์นี้ บัลลูนคำร้อง “ทาสสสส” ส เสือสี่ตัวเขียนด้วยฟอนต์สยองขวัญโบลด์ดำหนาแบ่งออกเป็นสองบรรทัดคือ ทาส บรรทัดบน กับ สสส บรรทัดล่าง กรอบถัดมา “ทาสสส” คำที่สองเขียนติดกันด้วย ส เสือสามตัวฟอนต์สยองขวัญเช่นเดิม การวาง สสส ไว้เคียงคู่กับเบียร์นี้นักเขียนสามารถแก้ตัวในชั้นศาลได้ว่าไม่เจตนา แต่ในอนาคตอันไกลโพ้นได้ไปพบฟรอยด์ในยมโลกคงแก้ตัวได้ยาก เพื่อความยุติธรรมต่อนักเขียน ผู้เขียนคอลัมน์นี้ก็เช่นกัน

เรื่องนี้สนุกมาก ท้าให้อ่านครับ อ่านมันเหมือนอ่านการ์ตูนบาสเกตบอลญี่ปุ่นดังๆ ยังไงยังงั้น ขนาดนั้นเลย เร้าอารมณ์มากมายตลอดทั้งเรื่องทั้งด้วยบทสนทนาและเนื้อเรื่อง โดยซ่อนเนื้อหาซาบซึ้งตรึงใจไว้ตลอดรายการ

“ก็พวกมึงแม่งปัญญาอ่อนไง ดูถูกบาส” โค้ชแน็ทด่ากราดเพื่อนฝูงที่แพ้เกมบาสเพราะไอ้ตัวการมัวแต่ไปจีบสาวไม่มาลงแข่ง เป็นเหตุให้คุณเธอไม่รับแอดเฟรนด์มันจนถึงวันนี้ “ถ้าคิดได้แค่นี้ก็เลิกแข่งไปตลอดชีวิตแล้วกลับไปเล่นเพื่อสุขภาพแถวบ้านมึงไป!”

เห็นมั้ยครับ นักเขียนมีปมเรื่องสุขภาพแน่ๆ

เรื่องที่สามสี่ห้าไม่โดนผู้เขียนเท่าสองเรื่องแรก แต่ว่าไม่ได้นะครับ เรื่องอะไรจะโดนใครขึ้นกับ “บทกวีชั่วชีวิต” กับปมในใจของแต่ละคน ผู้เขียนคอลัมน์นี้โดนสองเรื่องแรกถือว่าคุ้มค่าอ่านแล้ว ไม่มีการ์ตูนโดนผู้เขียนมานานแล้วเพราะอายุที่มากขึ้น

ผู้เขียนเคยเขียนถึง “ชายผู้ออกเดินทางตามเสียงของตัวเอง” เผยแพร่ที่นี่และรวมเล่มไว้ในการ์ตูนที่รัก เล่มสิบอันเป็นเล่มสุดท้ายของสำนักพิมพ์มติชน “100 ปีการ์ตูนไทย จากสยามคลาสสิกสู่ไทยโมเดิร์น” ปี พ.ศ.2556 หนังสือของสะอาดเล่มนี้มีเรื่องสั้น 5 เรื่องเช่นเดียวกัน ห้าเรื่องร้อยเรียงกันด้วยปมบางอย่างที่นักอ่านต้องค้นหา

“…เป็นเรื่องเนื้อหาและปรัชญาชีวิตล้วนๆ จากการอ่านคำนำและคำตามทำให้ทราบว่า สะอาดน่าจะเป็นนักเขียนการ์ตูนที่อายุน้อยถึงน้อยมาก น่าชื่นชมที่คนอายุน้อยเท่านี้จะเขียนเรื่อง ‘เจ๊น้อย’ ออกมาได้…”

เวลานั้นลายเส้นของสะอาดนับว่าขโมยซีนได้จริงๆ •