รายงานพิเศษ

 

ต้นหอม ศกุนตลา กับเรื่องเล่า

จากวันนั้น ที่ส่งผลถึงวันนี้

 

แม้เวลาจะผ่านไปนานปี แต่ ‘ดีเจต้นหอม-ศกุนตลา เทียนไพโรจน์’ ยังจำได้แม่น ถึงคำดูถูกที่หลายคนพูดไว้ ว่าชีวิตนี้เธอไม่น่าจะเอาดีได้

ที่โดนอย่างนั้น ได้ฟังคำที่ทำให้ใจเจ็บมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ต้นหอมที่ตอนนี้อายุ 44 ปี นึกย้อน แล้วคาดว่าน่าจะถูกตีความจากพฤติกรรมที่เจ้าตัวจำกัดความว่า เป็นคนนอกคอก นอกกรอบ

“ที่บ้าน เหมือนบ้านเป็นข้าราชการค่ะ เขาจะมีอาชีพไม่กี่อาชีพหรอกให้กับเด็ก ครู พยาบาล หมอ ทหาร ไม่มีคำว่าดาราอยู่ในนี้ เพราะเขารู้สึกว่ามันไม่ใช่อาชีพ แต่เรารู้อยู่แล้วว่าอยากเป็นดารา ฉะนั้น ก็เลยพยายามที่จะผลักดันตัวเอง ทำยังไงให้ได้เป็น เพราะที่บ้านไม่ได้สนับสนุน และแอนตี้”

สถานการณ์ที่เธอเจอ เด็กๆ หลายคนที่มีฝันแบบเดียวกันอาจถอดใจ แล้วปรับตัวไปตามความต้องการของผู้ใหญ่ แต่ต้นหอมในวัย 10 กว่าปี ไม่ฝืนตัวเอง ไม่ปรับตามใคร แต่ยังคงยืนหยัด และตัดสินใจจะผลักดันทุกอย่างด้วยตัวเอง

“ก็ออกจากการช่วยเหลือของเขา ไม่เอาเงินเขา ไปหาทางของเราเองว่าอยากเรียนอันนี้ อยากทำอันนี้ ก็จ่ายตังค์เอง”

“แล้วก็เป็นเด็กที่คิดอะไรแตกต่างจากวัฒนธรรมไทย เป็นคนไม่ชอบเรื่องลำดับขั้น ความเจ้ายศเจ้าอย่าง ซึ่งสังคมที่บ้านอยู่ในกรอบเป๊ะ แล้วพอเราไปอยู่ในนั้น เราอึดอัด ทำไมต้องทำอย่างนี้ ต้องเป็นอย่างนี้ เดินบันไดดังก็ไม่ได้ มันเป็นอะไรอ่ะ แล้วทำไมต้องบังคับให้เด็กกินเผ็ด อะไรอย่างนี้ มีคำถามในหัว เพราะว่าถูกบังคับมาโดยตลอด”

“แต่ไม่ได้โทษเขานะ เพราะเขาถูกสั่งสอนมาแบบนั้น” ต้นหอมบอกด้วยความเข้าใจ

“หอมโตมาในบ้านที่ถูกสั่งสอนกันมาเป็นวัฒนธรรม แต่มันเป็นที่หอม แล้วหอมก็เป็นคนเดียวที่คอยตั้งคำถาม ว่าทำไมต้องทำตามวัฒนธรรมนี้ ทำแล้วได้อะไร ดียังไง เหมือนเป็นเด็กที่ต้องมีเหตุผลเวลาคุย เพียงแต่เราไม่ได้ถามผู้ใหญ่ หรือถ้าถาม ผู้ใหญ่ก็จะตอบว่า ก็เขาทำมาอย่างนี้ เราก็ต้องทำ เราไม่ชอบเดินตามอะไรที่เหตุผลคือเขาทำกันอย่างนี้ ทำอะไรสักอย่าง มันต้องมีเหตุผล เหมือนกับชีวิตเรา ที่เรารู้สึกว่าเราอยากเป็นแบบนี้ เหตุผลก็คือความชอบและความรัก”

“เลยเป็นตัวประหลาด” นี่ต้นหอมสะท้อนความจากสายตาคนอื่นมาเล่า

ขณะที่ตัวเธอเองรู้สึกเพียงว่า “ทำไมไม่มีใครเหมือนเราเลย”

ห้วงเวลานั้น ต้นหอมบอกว่า เธอเป็นคนมีพฤติกรรม 2 แบบ คือ อยู่ในบ้านจะเป็นคนเงียบๆ แต่พอออกนอกบ้านจะเป็นเหมือนผู้นำกลุ่ม

“เป็นผู้นำกลุ่มอะไรสักอย่าง ที่เพื่อนมองว่ากล้าทำเรื่องนี้ได้ไงอ่ะ เก่งมากเลย เจ๋งมากเลย เป็นที่ยอมรับในโรงเรียน แต่ก็รู้สึกว่าอยากเจอเพื่อนสักคนที่นิสัยเหมือนเรา ที่มีความกล้าชัดเจนในการแสดงความคิดเห็น หรือกล้าแสดงออก แต่ทุกคนก็ถูกตีกรอบด้วยวัฒนธรรมที่แบบ มึง-มันไม่ดีหรอก เด็กแรดคือเด็กเลวอ่ะ แล้วที่บ้านพอรู้ว่าแรด ก็ตายจริง ทำไมถึงเป็นเด็กแบบนี้”

ขณะเดียวกันยังมีคำพูดประมาณว่า “จุดจบคือท้องก่อนแต่ง จะต้องเรียนไม่จบ”

“เราก็เลยแอ๊กทีฟจากตรงนี้ ว่าเดี๋ยวคอยดูนะ จะได้ดีให้ดู มีความมุ่งมั่นว่า คนอื่นได้ดีได้ เราก็ต้องได้สิ” ต้นหอมซึ่งจำกัดความว่า “เป็นเด็กขยัน แต่ผู้ใหญ่อาจจะไม่เลิฟ” บอกพลางยิ้ม

แล้วสุดท้ายเธอก็กลายเป็นดีเจที่คนฟังรัก นักแสดงที่คนดูชอบ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ รวมถึงยังเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่ขยันขายของเหลือเกิน อย่างที่เราๆ ได้เห็น

เรื่องของความสำเร็จนั้น ต้นหอมเล่าว่า เคยเจอเหมือนกัน เวลาที่อยากให้กำลังใจใครๆ โดยบอก “ถ้าหอมประสบความสำเร็จได้ คุณก็ประสบความสำเร็จได้” แล้วมีคนย้อนว่า เธอสามารถพูดอะไรก็ได้สิ เพราะตัวเองประสบความสำเร็จไปแล้วนี่ ทำงานก็ดี ทำธุรกิจก็ไปได้

แต่เดี๋ยวนะ กว่าจะมาถึงจุดนี้ รู้บ้างไหมว่าเธอผ่านอะไรมาบ้าง-ต้นหอมตั้งคำถาม

“มีกี่คนที่รู้ว่าหอมเป็นเด็กเสิร์ฟ ได้เงิน 3,500-3,600 มาก่อน ฉะนั้น อย่าบอกว่า ที่หอมยืนอยู่ตรงนี้ หอมโชคดี ไม่ใช่ ทั้งหมดทำด้วยมือตัวเอง”

“ตั้งแต่ 15 หอมไปเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ในร้านอาหาร ในค็อกเทลเลาจน์ อยู่ในสถานที่ที่ผู้ชายเที่ยว ตำรวจมาที ต้องวิ่งหนี เพราะหอมอายุ 15 ยังไม่สามารถทำงานได้ แต่เจ้าของร้านเขาเอ็นดู เพราะแบบหาเงินเรียน เขาก็ช่วยอย่างถึงที่สุด”

“พอเรียนมหา’ลัยก็ต้องไปเป็นพริตตี้ ไปรับจ้างเป็นพิธีกร งาน 2,000 ไปต่างจังหวัด ตื่นตี 5 เสื้อผ้าหน้าผมเอง ลุยไปหมดทุกอย่าง”

“แคสติ้งงานโฆษณาหลายสิบตัว แคสเป็นร้อย เอาคนเดียว”

ซึ่งแม้จะรู้ทั้งรู้ ว่าไปแล้วคงไม่ได้รับเลือก แต่ก็ยังนั่งรถเมล์ไปยังที่นัดหมาย เพราะคิดว่าอย่างน้อยก็ได้ชั่วโมงบิน แล้วพอวันหนึ่งซึ่งเก็บประสบการณ์ได้มากพอ ก็จะแสดงเป็น ไม่ตื่นกล้อง และก็จะรู้ว่าผู้กำกับฯ อยากได้อะไร

“ฉะนั้น วันนี้สิ่งที่คุณเห็นหอม คุณมาเจอหอมตรงปลายทางของผลลัพธ์ คุณก็รู้สึกว่า สบายแล้วนี่ เลยพูดได้ ฉะนั้น อยากจะบอกว่า ถ้าหอมประสบความสำเร็จได้ คุณก็ประสบความสำเร็จได้ เพราะว่าหอมก็เริ่มต้นแบบนั้นเหมือนกัน”

“ทั้งหมดอยู่ที่ใจเลย ว่าเอาจริง หรือไม่เอาจริง”

“คือถ้าท้อตั้งแต่วันนั้น ก็ไม่มีต้นหอมวันนี้นะ”