ยานยนต์ สุดสัปดาห์

สันติ จิรพรพนิต

[email protected]

‘ปอร์เช่ 911 สปอร์ตคลาสสิค’

ปะทะ ‘แอสตันฯ วี12 แวนเทจ’

 

หนึ่งในซูเปอร์คาร์ยอดนิยมของโลก และคนไทยไม่พ้น “ปอร์เช่” (Porsche) ด้วยรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ เครื่องยนต์ทรงพลัง ในขณะที่ราคาถือว่าเข้าถึงง่ายกว่าซูเปอร์คาร์แบรนด์อื่นๆ

จึงกลายเป็นยอดรถสปอร์ตที่ครองใจสาวกมายาวนาน

ล่าสุด ปอร์เช่ที่เริ่มกลยุทธ์ “เจาะเวลาหาอดีต” นำรถยอดนิยมในตำนาน กลับมาผลิตใหม่ เพื่อให้คนยุคนี้ซึมซับความรู้สึกของรุ่นพ่อว่า สมัยเก่าๆ นั้นขับรถปอร์เช่ แล้วเป็นอย่างไรบ้าง

โดยนำความไฮเทคมาผสมผสาน และยังอนุรักษ์รูปทรงและการตกแต่งภายในไว้เหมือนเดิม

เรียกว่าตอบสนองความต้องการของคนที่รักรถคลาสสิค ที่ชอบสะสม รวมถึงคนรุ่นใหม่

ก่อนหน้านี้เมื่อปี ค.ศ.2020 เคยออกมาแล้วรุ่นหนึ่งคือ “ปอร์เช่ 911 ทาร์กา โฟร์เอส เฮอร์ริเทจ ดีไซน์ เอดิชั่น” (911 Targa 4S Heritage Design Edition) ย้อนยุคมาจากทศวรรษปี 1950-1960

มาวันนี้ส่ง “ปอร์เช่ 911 สปอร์ต คลาสสิค” ใหม่ ออกมายั่วนำลายอีกครั้ง

ทั้งผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,250 คันเท่านั้น

“ปอร์เช่ 911 สปอร์ต คลาสสิค” ใหม่ เป็นรุ่นพิเศษ limited-edition คันที่ 2 จาก 4 รุ่น ที่จะทยอยออกมาตามแผนกลยุทธ์ “Heritage Design strategy”

ได้รับแรงบันดาลใจในการปรับแต่งตัวรถ ให้มีสไตล์ย้อนยุคกลับไปในช่วงทศวรรษปี 1960-1970 ตอนต้น

ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งตามสไตล์ของรถในยุคทศวรรษที่ 1950-1980 รวมทั้งออกแบบรูปลักษณ์ให้ย้อนเวลาไปในช่วงดังกล่าว

ตัวถัง wide body เอกลักษณ์ของปอร์เช่ 911 เทอร์โบ สปอยเลอร์หลังออกแบบมาจากรูปทรง “ducktail” ที่มาจากรถสปอร์ตรุ่นดัง “คาร์เรร่า อาร์เอส 2.7” (Carrera RS 2.7)

แนวหลังคา double-bubble roof ย้ำความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่พบได้ในปอร์เช่ 911 สปอร์ต คลาสสิค (911 Sport Classic) อีกด้วย

ภายนอกเด่นด้วยสีเทา Sport Grey Metallic สุดคลาสสิค

นอกจากนี้ มีสีดำ solid Black สีเทา Agate Grey Metallic สีน้ำเงิน Gentian Blue Metallic

รวมไปถึงออปชั่นพิเศษจากปอร์เช่ Paint to Sample เลือกสีได้ตามความใจชอบ

ย้อนยุคเพิ่มอีกนิดด้วยการคาดลาย Twin stripes สีเทาอ่อน ยาวตลอดแนวตั้งแต่ฝากระโปรงหน้า หลังคา ไปจรดสปอยเลอร์หลัง

ส่วนห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยรูปแบบ Pepita pattern เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถสังเกตได้อย่างเด่นชัด ตั้งแต่แผงประตู

บริเวณกึ่งกลางเบาะนั่ง ที่มาในสไตล์ two-tone หุ้มด้วยวัสดุ semi-aniline leather สี Black/Classic Cognac ให้อารมณ์หรูหรา ตัดกันอย่างลงตัวกับสีภายนอก

ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินหกสูบนอน ความจุ 3.7 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 550 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ผสานการทำงานกับระบบเกียร์ธรรมดา 7 จังหวะ

ทำให้ปอร์เช่ 911 สปอร์ตคลาสสิคใหม่ กลายเป็น 911 เกียร์ธรรมดาที่ทรงพลังที่สุดในสายการผลิตปัจจุบัน

พร้อมกันนี้ติดตั้งระบบเกียร์ฟังก์ชั่น auto-blip ช่วยชดเชยรอบเครื่องยนต์ระหว่างการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ ด้วยการเร่งเครื่องให้รอบการทำงานเหมาะสมที่สุดในจังหวะลดเกียร์ลง

ระบบระบายไอเสียแบบสปอร์ตที่ผ่านการปรับแต่ง ให้เสียงคำรามอย่างมีบุคลิกเฉพาะตัว

ระบบช่วงล่างมีพื้นฐานมาจากปอร์เช่ 911 เทอร์โบ (911 Turbo) และ 911 จีทีเอส (911 GTS) รองรับการขับขี่สไตล์สปอร์ต

มีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) เป็นระบบที่ติดตั้งในชุดอุปกรณ์มาตรฐาน ควบคุมอัตราการตอบสนองของโช้กอัพอย่างรวดเร็วฉับไว

ประสานการทำงานร่วมกับช่วงล่างแบบสปอร์ต ซึ่งมีระดับความสูงลดลงถึง 10 มิลลิเมตร ทำให้การทรงตัวและเข้าโค้งมั่นใจมากขึ้น

รุ่นนี้นำเข้าโดย “เอเอเอส กรุ๊ป”

ใครอยากขับรถสปอร์ตย้อนยุค เต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์สอบถามกันได้

ส่วนรถสปอร์ตสุดคูลอีกรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัดเช่นกัน คือ “แอสตัน มาร์ติน วี12 แวนเทจ” (ASTON MARTIN V12 Vantage) จุดเด่นนอกจากรูปร่างหน้าตาที่สุดๆ แล้ว ได้ชื่อว่าเป็นรถแวนเทจที่แรงสุดของค่าย

ที่สำคัญอาจเป็นรุ่นสุดท้ายของตระกูลที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน

รูปลักษณ์ดุดันทุกมิติ ขยายโป่งซุ้มล้อทำให้ตัวถังกว้างขึ้น 40 ม.ม. ลดน้ำหนักด้วยการใช้คาร์บอนไฟเบอร์และวัสดุผสม พร้อมแบตเตอรี่น้ำหนักเบา และชุดท่อไอเสียสเตนเลสบางเฉียบเพียง 1 ม.ม.

ติดตั้งแอโรไดนามิก แพ็กเกจ สร้างแรงกดที่ความเร็วสูงสุดได้ถึง 204 ก.ก.

ภายในหรูหราในแบบฉบับของ Aston Martin เบาะนั่งเป็นแบบหนังกึ่งอนิลีนแบบสปอร์ต ปรับได้ 16 ทิศทาง

พวงมาลัยเป็นแบบ Sport หุ้มด้วยหนังเกรดพรีเมียม ผ้าบุหลังคาแบบ Alcantara

ตกแต่งด้วยวัสดุ Carbon Fiber ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้ซื้อ รวมถึงพรมที่ถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ

เครื่องยนต์จอมพลังแบบเบนซิน วี12 สูบ 5.2 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 700 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 753 นิวตันเมตร ที่ 1,800-6,000 รอบ/นาที

ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ

อัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 322 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ระบบช่วงล่างอัพเกรดจากรุ่นมาตรฐาน เปลี่ยนสปริงโช้กอัพใหม่ให้แข็งขึ้น 50% ในด้านหน้า และ 40% ในด้านหลัง

ล้อขนาด 21 นิ้ว ดุดันด้วยสีดำ Black Satin คู่หน้าใช้ยางขนาด 275/35 ด้านหลัง 315/30

ระบบเบรกเป็นแบบ Carbon Ceramic จานคู่หน้าขนาด 410 ม.ม. ด้านหลัง 360 ม.ม.

“แอสตัน มาร์ติน วี12 แวนเทจ” ผลิตเพียง 333 คันเท่านั้น •