‘โรม’ จี้ ‘ประยุทธ์’ พักงาน ‘จุติ’ หวั่นเอื้อคนกันเอง กรณีค้ากามในสุราษฎร์ฯ

“โรม” จี้นายกฯ พักงานพร้อมตั้งสอบให้ถึง “จุติ ไกรฤกษ์” ปมค้ามนุษย์ที่สุราษฎร์ฯ หวั่นเป็นกระบวนการสอบแบบ “คนกันเอง” เอื้อปลาตัวใหญ่รอด

วันที่ 8 พฤษภาคม 2565 รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ได้แถลงต่อกรณีการขยายผลจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์เข้ามีส่วนเกี่ยวข้องหลายคน โดยรังสิมันต์กล่าวว่า กรณีการจับกุมบุคคที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์เด็กและเยาวชน จนมีการขยายผลออกหมายจับ ควบคุมตัวบุคคลที่มีอิทธิพลจำนวนหนึ่ง เช่น ลูกชายอดีต ส.ส. หลายสมัยของพรรคประชาธิปัตย์
.
ซึ่งสังคมกำลังให้ความสนใจ หลังปรากฏว่ารองอธิบดีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบังคับให้เหยื่อที่ถูกค้าประเวณี ร่วมมือกับผู้กระทำความผิด จนมีการตั้งคำถามขึ้นมา ว่าเหตุใดคนระดับรองอธิบดี ซึ่งมีสถานะในกลไกราชการสูง ถึงกล้าเข้าไปเกี่ยวข้องในลักษณะนี้ และมีคนให้ท้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่
.
จึงเป็นเรื่องที่น่าสังเกต ว่ากรณีนี้ จุติ ไกรฤกษ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. มาตั้งแต่ปี 2562 ควรจะรู้ว่าแต่ละคนที่ตัวเองทำงานด้วยอยู่เป็นอย่างไร และที่น่ากังวลคือการที่จุติ เป็นแกนนำคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นถึงอดีตเลขาธิการพรรคมาหลายปี จะนำไปสู่กระบวนการช่วยเหลือกันอย่างเป็นระบบ ให้ผู้กระทำความผิดรอดพ้นจากกระบวนการยุติธรรมหรือไม่?

“สิ่งที่เกิดขึ้น คือคนที่เป็นลูกของอดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ มีพี่สาวเป็น ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กระทำการผิดกฎหมาย ในพื้นที่ที่พรรคประชาธิปัตย์ครองอยู่ โดยคนที่มาช่วยเคลียร์ ก็เป็นคนที่อยู่ในกระทรวงที่พรรคประชาธิปัตย์ครองอยู่ โดยรัฐมนตรีที่กำลังสอบสวนเรื่องนี้ ก็เป็นรัฐมนตรีที่อยู่ในโควต้าของพรรคประชาธิปัตตย์ และเคยเป็นเลขาฯ ของพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นเวลานาน เราจะมั่นใจในกระบวนการตรวจสอบได้จริงๆ หรือ? ผมเองไม่มั่นใจต่อกระบวนการตรวจสอบที่เกิดขึ้น” รังสิมันต์ กล่าว
.
รังสิมันต์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้สังคมกำลังเป็นห่วงว่าถ้าไม่เร่งดำเนินการจะจับใครไม่ได้ หรือจับได้แค่ปลาตัวเล็กเหมือนที่เคยเป็นมา พรรคก้าวไกลจึงขอใช้โอกาสนี้เรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ให้มีมาตรการตรวจสอบที่ครอบคลุมไปถึงรัฐมนตรี พม. ด้วย
.
โดยอย่ากังวลว่าถ้ามีการปลด เปลี่ยนแปลง ตั้งกรรมการสอบแล้วจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนรัฐบาลอีกต่อไป นายกรัฐมนตรีต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่าแค่การให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการสอบสวนเท่านั้น
.
“สิ่งที่น่ากังวลใจคือการสอบสวนเรื่องนี้เป็นการสอบสวนแบบคนกันเองหรือเปล่า อย่างน้อยนายกรัฐมนตรีควรมีมาตรการเชิงรุกไปตรวจสอบมากกว่านี้ ตำรวจที่เจอตออยู่ควรจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นแบ็คอัพให้ พม. ควรจะเป็นกระทรวงที่ช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อ ช่วยคนที่ถูกละเมิด ไม่ใช่ซ้ำเติม การมีบุคลากรใน พม. แบบนี้ทำให้สังคมไทยโดดเดี่ยว ไม่รู้จะไปพึ่งพาใครอีกแล้ว” รังสิมันต์ กล่าว