‘บิ๊กป๊อก’ปัด ไม่ได้พิจารณา’เรือเหาะ’โดยตรง โยน ต้องไปสอบจนท.รับของ-ทำสัญญา

epa02065645 Thai soldiers and US technicians set up a surveillance airship at a military barracks in the restive Muslim majority province of Pattani, southern Thailand, 05 March 2010. Thai military purchases the 350-million-baht (10.7 million US dollars or 7.8 million euro) surveillance airship aimed to restore peace in the three troubled Muslim dominated provinces in Thailand's deep south amid question that could be another waste of state funds. More than 4,000 people have died in government crackdowns, bombings, revenge killings and beheadings since 2004 in three Muslim majority provinces of Narathiwat, Pattani and Yala. EPA/ABDULLAH WANGNI

“บิ๊กป๊อก” ชี้ ไม่ได้เป็นผู้พิจารณา “เรือเหาะ” โดยตรงเมื่อครั้งเป็นผบ.ทบ. โยนกรมต่างๆที่เกี่ยวข้องดำเนินการ

เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่กองทัพบก ปลดระวางการใช้งานเรือเหาะตรวจการณ์ เนื่องจากหมดอายุใช้งาน ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงงบประมาณจัดซื้อที่สูงและประสิทธิภาพการใช้งานที่ไม่คุ้มค่าว่า ไม่ทราบใครเป็นผู้ประเมินประสิทธิภาพของเรือเหาะ แต่ย้ำมูลค่าจัดซื้อรวม 350 ล้านบาท แบ่งเป็นราคาตัวกล้อง 250 ล้านบาท จำนวน 5 ตัว ซึ่งขณะนี้ตัวกล้องยังสามารถใช้การได้ดี โดยติดไว้กับแท่น ฮ. 3 ลำ ส่วนอีก 2 กล้องติดอยู่ที่เรือเหาะ ซึ่งยังใช้การได้ ขณะที่ตัวเรือเหาะและโรงเก็บ ราคาอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งการประเมินคุณภาพใช้การได้หรือไม่อยู่ที่กองทัพบกว่าใช้ได้คุ้มค่าหรือไม่อย่างไร ส่วนเรื่องทุจริตก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งส่วนตัวเห็นด้วยหากมีการร้องเรียนให้มีการตรวจสอบทุจริตเพราะจะได้ไม่นำมาวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่มีข้อมูล ไม่รู้เรื่อง ซึ่งแม้การจัดซื้อเรือเหาะจะเกิดขึ้นในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก แต่เมื่อตรวจสอบก็ต้องไปดูว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง ทั้งการรับของ การทำสัญญา รวมถึงผู้ใช้งาน

“ผมพ้นจากตำแหน่งมานานแล้ว จึงบอกไม่ได้ว่าหากมีการปรับเปลี่ยนสภาพการใช้งานของเรือเหาะตรวจการณ์จะทำได้ในรูปแบบใดบ้างเพราะช่วงของการจัดซื้อ ผมไม่ได้เป็นผู้พิจารณาโดยตรง แต่เป็นกรมต่างๆที่เกี่ยวข้อง กรมข่าว กรมยุทธการ กรมขนส่งที่เขามีหน้าที่จะต้องดำเนินการ ถ้าตรวจสอบต้องตรวจสอบให้หมด ถ้าจะตรวจสอบว่าเกิดในสมัยใครคงจะไม่ดี ใครเป็นผู้ตรวจรับ ใครเป็นผู้ประกวดราคา ต้องว่ากันให้ครบถ้วนถึงจะดี ทั้งนี้ อยากเรียกร้องทุกฝ่ายศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน เพราะหากเข้าใจผิดในช่วงเริ่มต้น ก็เข้าใจโครงการจัดซื้อนี้ผิดไปด้วย อีกทั้งการตรวจสอบอย่าใช้ความรู้สึกของเราเอง คงไม่ได้ และหากให้ตนไปสอบถามเรื่องนี้ ไม่สามารถทำได้ เพราะตนไม่มีอำนาจสั่งการในกองทัพบก” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว