‘บิ๊กป๊อก’ ลั่นปม ‘เรือเหาะ’ 350 ล้านบาท ต้องตรวจสอบให้หมดทุกยุคทุกคน ผู้ใช้รู้ดีคุ้มหรือไม่!

‘บิ๊กป๊อก’ ลั่น ตรวจสอบปม ‘เรือเหาะ’ 350 ล้านบาท แยกตัวเรือเหาะ 60 ล้านบาท กล้องตรวจการณ์ 250 ล้าน 5 ตัว ติดฮ. 3 ตัว ติดเรือเหาะ 2 ตัว จะตรวจแค่สมัยตนไม่ได้ ต้องตรวจสอบหมด ทั้งใครจัดซื้อ ใครรับของ ใครใช้ต่อ ย้ำคนประเมินความคุ้มค่าได้ต้องเป็น ‘คนใช้

.
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงกรณีกองทัพบกปลดระวางการใช้งานเรือเหาะตรวจการณ์ เนื่องจากหมดอายุใช้งาน ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงงบประมาณจัดซื้อที่สูง และประสิทธิภาพการใช้งานที่ไม่คุ้มค่า ว่า ตัวโครงการมีมูลค่า 350 ล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นกล้อง 250 ล้านบาท รวม 5 ตัว โดยกล้องยังใช้งานได้ทั้งหมด 5 ตัว ติดเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ ทำแท่นไว้สำหรับเฮลิคอปเตอร์ 6 ลำ แต่ติดได้ 3 ลำ รวม 3 กล้องที่เฮลิคอปเตอร์ ส่วนอีก 2 ตัว ติดที่เรือเหาะ กล้องก็ยังใช้ได้อยู่

.
ทั้งนี้ กล่าวว่า ตัวเรือเหาะและโรงเก็บ ประมาณ 100 ล้านบาท แยกเป็นค่าเรือเหาะประมาณ 60 ล้านบาท ถ้าถามว่าจะใช้ได้ไม่ได้อย่างไร ใครเป็นผู้ประเมิน ในขณะนี้ท่านก็ต้องมีการประเมิน ก็คงไม่ใช่นักข่าว แต่เป็นผู้ใช้ว่าใช้ได้คุ้มค่าหรือไม่อย่างไร และแยกเรื่องทุจริตอีกเรื่องหนึ่ง ก็ทำมาได้เลย ตนก็เห็นด้วยจะได้ไม่ต้องวิพากษ์กันไปโดยไม่รู้เรื่อง

.
“เรื่องตรวจสอบได้เลย อันนั้นทำได้อยู่แล้ว ผมไม่ต้องมาเห็นด้วยก็ได้ ก็ตรวจสอบได้หมดทุกอย่าง แม้เกิดในสมัยผม แต่ผู้เกี่ยวข้องก็ต้องมีใครบ้าง ไปดูใครจัดซื้อ ใครรับของ ใครใช้ ก็ต้องไปดู” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

.
ส่วนที่ ผบ.ทบ. ระบุว่า ผืนผ้าบอลลูนหมดอายุใช้งานแล้ว เตรียมปลดประจำการ เกรงกำลังพลอันตราย ทดลองนำกล้องตรวจการณ์ไปติดอากาศยานแทน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว่า “ผมคิดว่า ผมห่างเหินมาแล้วนะ จะไปยุ่งหรือพิจารณา เพราะไม่ได้เข้าไปอยู่ในคณะกรรมการพิจารณา แม้แต่ในขณะนั้นเอง ตนก็ไม่ได้พิจารณาโดยตรง โดยคนพิจารณาคือคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะตรวจสอบเฉพาะที่เกิดในสมัยตนอย่างเดียวไม่ได้ และอยากเรียกร้องทุกฝ่ายศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน เพราะหากเข้าใจผิดในช่วงเริ่มต้น ก็เข้าใจโครงการจัดซื้อนี้ผิดไปด้วย และอย่าใช้ความรู้สึกประเมินความคุ้มค่า