ก้าวย่าง ‘อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร’ จากประธานคณะที่ปรึกษา สู่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป้าหมายแคนดิเดตนายกฯ/บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

ก้าวย่าง ‘อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร’

จากประธานคณะที่ปรึกษา

สู่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

เป้าหมายแคนดิเดตนายกฯ

 

ใครจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เริ่มจะเห็นเงารางๆ มากขึ้น

ภายหลังจาก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอบคำถามสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ถึงการเตรียมพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่พรรคเพื่อไทยยืนยันส่งผู้สมัครลงครบทุกเขต

รวมถึงคำถามที่ว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย 1 ในนั้นจะเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ “อุ๊งอิ๊ง” ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทยหรือไม่

“ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าเห็นอย่างไร ถ้าประชาชนมีเสียงตอบรับที่ดี มีเสียงสนับสนุน ก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด อยู่ที่พี่น้องประชาชน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุ

เหมือนแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ก็ชัดเจนเพียงพอก่อให้เกิดกระแสตอบรับอย่างคึกคักจากบรรดากองเชียร์พรรคเพื่อไทย

ส่วนหนึ่งอาจเพราะอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร คือลูกสาวคนเล็ก เปรียบเสมือนกล่องดวงใจของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหลานของ “อาปู” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย

ทำให้การปรากฏตัวของอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร กับบทบาททางการเมืองครั้งแรก ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทยที่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ภายใต้แคมเปญ “พรุ่งนี้เพื่อไทย : เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน”

เป็นปรากฏการณ์เรียกเสียงฮือฮาจากบรรดากองเชียร์พรรคเพื่อไทยอย่างได้ผล เป็นเสียงฮือฮาที่มาพร้อมกับคำถามสำคัญที่ว่า อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ได้รับการวางตัวให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ด้วยหรือไม่

คำตอบของอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ในวันนั้นก็คือ “ขอตั้งใจทำหน้าที่ได้รับมอบหมายตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อน อย่างอื่นรอไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาในอนาคต ก็เป็นเรื่องของอนาคตไป”

 

การเปิดตัวอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร มาพร้อมกับการ “ผลัดใบ” ของพรรคเพื่อไทย

เปลี่ยนหัวหน้าพรรคจากนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ มาเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว

การดึง ส.ส.เจนเอ็กซ์ เจนวายและคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมในตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนให้กับพรรคในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองสำคัญ รวมถึงการเลือกตั้งในอนาคต

แคนดิเดตนายกรัฐมนตรียังเป็น “ไพ่เด็ด” เคยทำให้พรรคเพื่อไทยก้าวสู่เป้าหมายการเป็นพรรคใหญ่อันดับ 1 มาแล้ว ในการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม ปี 2554

ด้วยการเปิดตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และใช้เวลาเพียงแค่ 49 วันในการหาเสียง คว้าชัยชนะเลือกตั้ง ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

ตรงนี้เองทำให้การปรากฏชื่อของอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ก้าวแรกในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย จึงเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ

เป็นการส่งสัญญาณปูทางเตรียมความพร้อมของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้ง เพื่อสร้างประวัติศาสตร์สำคัญทางการเมืองอีกครั้ง

 

บาทก้าวแรกของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ในตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ถูกตีความเป็นการหยั่งเชิงก่อนเข้าสู่สมรภูมิการเมืองเต็มตัว

หลังการประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยเดือนตุลาคม 2564 จนถึงต้นปี 2565 บทบาทของอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ในพรรคเพื่อไทย ก็ถูกขับเน้นมากขึ้นตามลำดับ ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญของพรรค

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เข้าร่วมประชุมกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นครั้งแรก ในฐานะผู้สังเกตการณ์

เป็นการประชุมเพื่อรับฟังเสียงของ ส.ส.พรรค และหารือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ฉบับของพรรคเพื่อไทย ที่เตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภาในตอนนั้น

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ประชุมพรรคเพื่อไทยวันนี้บรรยากาศสดใส คุณอุ๊งอิ๊ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม เข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังเสียงของ ส.ส.ในทุกภาค”

ในเฟซบุ๊กยังแนบภาพบรรยากาศในห้องประชุมที่มีอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ร่วมประชุม และภาพอุ๊งอิ๊งถูกห้อมล้อม ร่วมถ่ายภาพกับ ส.ส.และสมาชิกเพื่อไทยอย่างเป็นกันเองอีกด้วย

วันที่ 2 มีนาคม อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร จัดกิจกรรมเวิร์กช็อปหัวข้อ “คิด-เปลี่ยน-โลก สร้างโลกที่ดีกว่าและแก้ปัญหาด้วยความคิดเชิงนวัตกรรม” บรรยายโดยนายชาคริต จันทร์รุ่งสกุล ผู้ก่อตั้งบริษัท Fire One One และที่ปรึกษาด้าน Business Transformation

เพื่อแลกเปลี่ยนและระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนการคิดเชิงนวัตกรรม (Innovative Thinking) สำหรับนำไปปรับใช้กับการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน โดยมีหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค ส.ส. และสมาชิกพรรค เข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก

อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร กล่าวช่วงหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทยมีรากฐานจากพรรคไทยรักไทย สามารถใช้วิธีลงพื้นที่รับฟังปัญหา เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหา จนนำมาสู่การแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้สำเร็จ ผ่านหลากหลายนโยบาย เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค และกองทุนหมู่บ้าน

แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นรวดเร็ว พรรคการเมืองต้องปรับวิธีการเก็บข้อมูลจากประชาชนผ่านกระบวนการคิดและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคโนโลยีผ่านวิธี DIWK

ประกอบก้วย D : Data จัดเก็บข้อมูลดิบ, I : Information ประมวลผลออกมา, W : Wisdom ใช้ภูมิปัญญาแก้ไขปัญหา และ K : Knowledge ใช้องค์ความรู้สร้างนโยบาย

กิจกรรมเวิร์กช็อปคิด-เปลี่ยน-โลกฯ เป็นการผสมผสานแนวคิดของคนรุ่นเก่าที่มากด้วยประสบการณ์ เข้ากับกระบวนการคิดเชิงนวัตกรรมของคนรุ่นใหม่

วันที่ 8 มีนาคม ตรงกับวันสตรีสากล พรรคเพื่อไทยก็ได้เปิดตัวงาน “นิทรรศกี เพื่อผ้าอนามัยฟรีถ้วนหน้า”

โดยมีอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เป็นส่วนหนึ่งร่วมทำงานกับ ส.ส.หญิงของพรรค ทั้ง น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. นางมุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด

ในการเผยแพร่การศึกษานโยบายผ้าอนามัยฟรีถ้วนหน้า

 

อีกบทบาทสำคัญของ แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง กับพรรคเพื่อไทย

มีขึ้นโดยผ่านแคมเปญ “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” ภายใต้แนวคิดประชาชนเป็นศูนย์กลาง

กิจกรรมประสานความร่วมมือระหว่าง ส.ส.เพื่อไทยกับประชาชนในวงกว้าง ให้ผู้ที่สนใจและสนับสนุนพรรคแต่ไม่พร้อมสมัครเป็นสมาชิกพรรค สามารถร่วมเป็น “ครอบครัวเพื่อไทย”

ความแตกต่างจากการเป็นสมาชิกพรรคคือ ลดข้อจำกัดเรื่องคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมเป็นครอบครัวลง

พรรคเตรียมคิกออฟจัดคาราวานปักหมุดแห่งแรกที่ จ.อุดรธานี วันที่ 20 มีนาคมนี้ เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชนแต่ละภูมิภาค เก็บข้อมูลปัญหาความเดือดร้อนนำมากลั่นกรองเป็นนโยบายสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า

พรรคเพื่อไทยเตรียมยกขุนพลไปทั้งแกนนำพรรค กรรมการบริหารพรรค ทีม ส.ส. คณะนักปราศรัย

โดยมีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การเปิดตัวอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ทำหน้าที่ “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” ร่วมลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับชาวบ้าน พร้อมปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ก้าวต่อไปของครอบครัวเพื่อไทย”

สอดรับความเห็นของแกนนำ ส.ส.พรรคที่ต้องการให้คนในตระกูลชินวัตร ร่วมขับเคลื่อนการเมืองไปกับพรรค

อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ให้สัมภาษณ์กับ the momentum ถึงมุมมองในพรรคเพื่อไทยว่า

พรรคเพื่อไทยคือศักยภาพของคนและทรัพยากรคนที่มีคุณค่า รู้สึกได้ว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงต้องอาศัยทีม ต้องอาศัยพรรค ต้องอาศัย passion

ส่วนตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้น

“ต้องรอยุบสภาก่อน เดี๋ยวว่ากัน”

 

บทบาทของอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ในพรรคเพื่อไทย เริ่มเข้มข้นมากขึ้นเป็นลำดับ

โดยมีความเคลื่อนไหวของ “โทนี่ วู้ดซัม” แห่งคลับเฮาส์ CARE คิด เคลื่อน ไทย เป็นตัวหนุนเสริมอันสำคัญ

โดยล่าสุด โทนี่ วู้ดซัม กล่าวถึงอุ๊งอิ๊งผ่านคลับเฮาส์เมื่อ 15 มีนาคมที่ผ่านมาว่า “อิ๊งมาหาผมที่สิงคโปร์ อิ๊งบอกว่าพ่อเราจะใช้เทคโนโลยีและทริกนิดหนึ่ง เราจะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไทยได้เท่าตัวเลย”

และว่า “เด็กรุ่นใหม่เขาพูดเรื่องเทคโนโลยี ผมก็ว่าใช่เป็นไปได้…ที่น้องอิ๊งมาปรึกษา เขาใช้ความคิดเด็กรุ่นใหม่ เทคโนโลยีต่างๆ ผมฟังแล้วเข้าท่า”

จึงไม่น่าประหลาดใจหาก “อุ๊งอิ๊ง” ที่พ่อโทนี่ชื่นชมจะได้รับการคาดหมายเป็น 1 ในผู้มีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย นำเสนอต่อประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้า ตามยุทธศาสตร์ “แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน”

ไม่เพียงการแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับมาใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นปัจจัยทำให้พรรคเพื่อไทย ครองความได้เปรียบในการเลือกตั้งเหนือพรรคการเมืองอื่น

พรรคเพื่อไทยยังมีจุดแข็งอยู่ตรงนโยบาย ที่สร้างความแปลกใหม่ตื่นตาตื่นใจ

เป็นนโยบายลงมือทำ และทำได้จริง เข้าถึงประชาชนทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายรัฐบาลพรรคไทยรักไทยในยุคของ “ทักษิณ” หรือรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในยุคของ “ยิ่งลักษณ์”

ทั้งยังโดดเด่นในการเลือกตัวบุคคลเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่รอบนี้พรรคเพื่อไทยชูกระแสคนรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นจุดขาย โดยเชื่อว่าจะได้กระแสเสียงตอบรับจากสังคมคนรุ่นใหม่เป็นอย่างดี

ตรงนี้เองคือจังหวะย่างก้าวของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร สมาชิกพรรคคนสำคัญ หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย