สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร/พายุในจาน

สถานีคิดเลขที่ 12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

————————-

พายุในจาน

————–

วง”เปิบข้าว”ของเหล่านักการเมืองในตอนนี้

แม้จะพยายามอธิบาย หรือทำให้เกิด”ภาพ”ว่าเป็น “การเปิบสามัคคี”

แต่ อีกด้านก็ทำให้เห็นปรากฏการณ์ ตามสำนวนจีน “พายุในถ้วยน้ำชา” หรือพูดแบบไทยสไตล์ในห้วงนี้ ก็คือ “พายุในจาน”อยู่ด้วย

อย่าง จาน”กุ้งกระเทียมพริกไทย”ของพี่น้อง 3 ป. ที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นเชฟปรุงนั้น

ถึงจะเยิ้มด้วยน้ำมันแห่งความรัก

แต่ก็เป็นความรักที่มี กระแสข่าวลือพัดโหมเป็นละลอกคลื่นติดตามมาด้วย

นั่นคือ ถึงจะหวลกลับมารักกันแต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย

ด้วยกระแสข่าวว่าจะต้องมีการปรับสมดุลระหว่างพี่น้อง3ป.ใหม่

โดย”อาจ”จะมีการประนีประนอม ด้วยการปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ก่อนเปิดสมัยประชุมสภา เพื่อรับศึกซักฟอกและการผลักดันกฎหมายสำคัญๆให้ผ่านเพื่อรัฐนาวาจะไปได้ต่อตามที่หวัง

ด้วยการที่พล.อ.ประยุทธ์ยอมให้ คนในพรรคเศรษฐกิจไทยหรือพรรคเล็กเข้ามาร่วมคณะรัฐมนตรี เพื่อที่จะให้พล.อ.ประวิตร จะได้กล่าวอย่างเต็มปากเต็มคำว่าพรรคเหล่านี้เป็นพรรคของเรา และหนุนพล.อ.ประยุทธ์ ต่อไป

และยัง”ลือ”ตามโมเดลเก่า อีกว่า หากจะให้สามัคคีไปกว่านี้ พล.อ.ประวิตรควรจะได้ไปนั่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แล้วโยกพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องยอมเลิกควบ นั่งนายกฯเพียงตำแหน่งเดียว

ข่าวลือนี้จะจริงไม่จริง คงต้องติดตามกันต่อไป

แต่ก็เป็นละลอกคลื่น ในจานอาหารของ 3 ป.ที่กระเซ็นออกมาให้ซุบซิบกัน

และจากเปิบสามัคคี 3 ป.ดังกล่าว ก็ขยายไปสู่ การเปิบสามัคคีระหว่าง 3 ป.กับแกนนำพรรคร่วม อันประกอบด้วยพรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา

ซึ่งก็เช่นกัน แม้จะโชว์ภาพ สามัคคีชื่นมื่น

แต่ก็มี พายุก่อตัวในจานข้าวที่สัมผัสได้อีกเช่นกัน

ลูกแรก คือกระแสข่าวที่อ้างคำพูดของพล.อ.ประวิตรกับแกนนำพรรคร่วมว่า พรรคเศรษฐกิจไทยยังสนับสนุนรัฐบาล มีปัญหาเพียงร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า คนเดียวเท่านั้น

ซึ่งฟังแล้วเหมือนเป็นความพยายามโดดเดี่ยว ร.อ.ธรรมนัส หลัง 3 ป.กลับมาสามัคคีกัน

แม้ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคเศรษฐกิจไทย คนสนิท ร.อ.ธรรมนัส ได้มาแก้ข่าวว่าพรรคได้สอบถามพล.อ.ประวิตรแล้ว พล.อ.ประวิตร ยืนยันไม่ได้พูดอย่างที่เป็นข่าว

แต่ พายุลูกแรกนี้ ก็ตั้งเค้าให้เห็นว่าอาจพัฒนาเป็นพายุใหญ่ได้ โดยร.อ.ธรรมนัส บอกว่าไม่สนใจว่าใครจะพูดอย่างไร

และได้ตอบโต้กระแสเป็นปัญหา “คนเดียว” ให้เห็นด้วย

แถมเตือนให้รู้ถึง พายุลูกที่สอง ที่อาจก่อตัวเข้ามาทำให้รัฐนาวาโคลงเคลงด้วย

โดยสืบเนื่องจาก มีเสียงน้อยอกน้อยใจ จากพรรคเล็ก ที่ไม่ได้เข้าร่วมเปิบสามัคคีกับ3ป.และพรรคแกนนำ

ทั้งที่พรรคเล็กก็เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสนับสนุนรัฐบาลแต่กลับถูกมองข้ามหัว

นี่จึงนำไปสู่การนัดหมาย เปิบสามัคคีในระหว่างกลุ่มพรรคเล็กกันเองบ้าง

เพื่อแสดงการมีตัวตน ไม่ใช่”ตัวประกอบ” ของตายให้กับนายกฯและรัฐบาลเท่านั้น

ที่สำคัญกว่านั้น คือ การเข้าร่วมวงเปิบสามัคคีกับพรรคเล็กครั้งนี้ มีร.อ.ธรรมนัส มาปรากฏตัวด้วย

และโชว์ความผูกพันเหนียวแน่นกับพรรคเล็กที่มาร่วมเปิบมื้อเที่ยงด้วย

ซึ่งเท่ากับยืนยันกระแส ร.อ.ธรรมนัส กำลังโดดเดี่ยว ไม่จริง

เพราะหากรวมเสียงพรรคเศรษฐกิจไทยกับพรรคเล็กแล้ว กลุ่มร.อ.ธรรมนัสยังมีฤทธิ์

สามารถร่วมมือก่อพายุ แม้ตอนนี้จะเป็นเพียงพายุในถ้วยน้ำชา หรือในจาน

แต่ในวันข้างหน้า อาจพัฒนาเป็นพายุใหญ่ทำให้รัฐนาวาโคลงเคลง หรือ ล่มได้

——————–