ยิ่งการเคลื่อนไหวผ่านการเปิดตัว นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เข้าชิงชัยในตำแหน่ง”ผู้ว่าฯกทม.”มีลักษณะในทางยุทธศาสตร์มากเพียงใด

ยิ่งทำให้สนามเลือกตั้ง”ซ่อม”พื้นที่เขต 9 จตุจักร หลักสี่ มีความแหลมคมและร้อนแรงทางการเมืองเพียงนั้น

นี่คือ”ภาระ”ที่ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ จักต้อง”แบกรับ”

เพราะในพื้นที่เขต 9 จตุจักร หลักสี่ ไม่เพียงแต่พรรคพลังประชารัฐจะยอมให้ นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ แพ้ไม่ได้เท่านั้น หากแต่ นายสุรชาติ เทียนทอง จากพรรคเพื่อไทยก็หมายเข้ายึดครอง

ยิ่งกว่านั้น นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จากพรรคกล้าก็มั่นใจ นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ จากพรรคไทยภักดี ก็ต้องการปักธงผืน แรกในทางการเมือง

นี่คือศึกหนักที่ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ จักต้องเผชิญ

นี่คือหินลองทองอันคมแหลมที่ไม่เพียง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จะต้องฟันฝ่า หาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าว ไกลก็มิอาจนิ่งดูดาย

 

มีความเป็นไปได้ที่ทุกพรรค ทุกกลุ่มทางการเมือง ไม่ว่าจะเรียกตนเองว่าฝ่ายเผด็จการ ฝ่ายสืบทอดอำนาจ หรือแม้กระทั่งฝ่ายประชาธิปไตยจักต้องออกโรง

ที่เคยเสนอยุทธศาสตร์การเลือกตั้งเพื่อมิให้”ตัดคะแนน”กันเอง ก็เงียบเสียงลงไปเป็นลำดับ

เป็นไปได้หรือที่ นายสุรชาติ เทียนทอง จะยอมถอยเพื่อเปิดโอกาสให้กับ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ก็ในเมื่อ นายกรุณพล เทียน สุวรรณ เองก็ถูกรุนหลังมาโดยพรรคก้าวไกล

ยิ่งกว่านั้นทุกทรัพยากรที่มีอยู่ไม่ว่าจะของพรรคพลังประชรัฐ ไม่ว่าจะของพรรคกล้า ไม่ว่าจะของพรรคไทยภักดี ย่อมระดมเข้ามา

เพื่อสร้างความได้เปรียบ เพื่อโอกาสในการกำชัยชนะ

 

หากมองจาก นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ในเชิงปัจเจกอาจเป็นเรื่อง หนักหนาสาหัส แต่หากมองผ่านยุทธศาสตร์ใหญ่ของพรรคก้าวไกล ก็จะสัมผัสได้ในความพร้อมที่มีอยู่

เห็นได้จากการไปปรากฏตัวของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

เห็นได้จากการเปิดตัว นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ในอีกวันต่อมาและลงมือเคลื่อนไหวเสริมเติมพลังตั้งแต่วินาทีนั้นเลย

ศึกครั้งนี้จึงเป็นเดิมพันอันใหญ่หลวงยิ่งของพรรคก้าวไกล