“จาตุรนต์” เลคเชอร์ “ประยุทธ์” หมูแพงเพราะโรคระบาดไม่ใช่กักตุน แนะจะแก้ไขต้องรู้จริง

วันที่ 21 มกราคม 2565 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์หมูแพงและรายงานข่าวมีพบหมูในห้องเย็นจำนวน 2 แสนกิโลกรัม ในจังหวัดสงขลาเมื่อวานนี้ (20 มกราคม 2565) ว่า

หมูแพง ของแพง ความรู้เบื้องต้นที่พลเอกประยุทธ์ต้องมี (แต่ไม่มี!!!)

หลายท่านคงเห็นข่าวการจับ และเข้าอายัดหมูแพงของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งทางภาคใต้ไปแล้ว จนภายหลังช่วงเย็นๆบริษัทได้ออกมาแถลงการณ์ชัดเจนว่าเป็นการสต๊อกสินค้าปกติ ซึ่งความจริงจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอภาครัฐสอบสวนต่อไป

ซึ่งเมื่อวาน ผมได้ทวีตไว้ตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนบริษัทแถลง ว่าการจับและอายัดหมูในห้องเย็นเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดอย่างมาก ถ้าไม่มีห้องเย็น เกษตรกรจะยิ่งลำบากกว่านี้เพราะขายหมูครั้งละมากๆไม่ได้ ยิ่งอยู่ในพื้นที่ที่มีโรคระบาด ถ้าไม่รีบขายก็จะถูกกดราคา เก็บไว้ก็ต้องเสียค่าอาหาร ถ้าไม่มีห้องเย็นเก็บเนื้อหมู เกษตรกรจะขายหมูเป็นให้ใคร

ตัวอย่างการจับแม่ค้าขายไข่ไก่ข้อหาขายแพงก็เป็นมาตรการที่ผิด ถ้าเขารับมาแพง หรือเขาต้องเดินทางมาไกลล่ะ จะให้เขาขายราคาถูกเหมือนคนที่อยู่ใกล้เล้าไก่ได้อย่างไร ลูกเขาต้องกินข้าวที่แพงขึ้นค่าครองชีพสูงขึ้น เขาก็ต้องขึ้นราคาสินค้าของเขาบ้าง จับกันแบบนี้เขาจะเอาอะไรกิน

กลับมาที่เรื่องหมู เวลามีหมูโตขนาดขายได้พร้อมกันมากๆ ถ้าไม่มีห้องเย็น เกษตรกรจะไปขายให้ใคร จะยิ่งถูกกดราคา ห้องเย็นจึงเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเกษตรกร ทำไมไปทำจนเขาเป็นผู้ร้ายไปได้

การสต๊อกหมูในห้องเย็นจึงไม่ใช่อาชญากร เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและผู้บริโภค มีห้องเย็นดีกว่าไม่มี

เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูเล่าให้ผมฟังว่าหมูของเขาตายด้วยโรคระบาด เสียหายไปหลายล้าน ได้เงินเยียวยาแค่แสนกว่าบาท บางรายเสียหาย 20 ล้านเยียวยาล้านกว่าบาท ต่อมารายอื่นก็เลยไม่รายงาน หมูเป็นโรคก็ขายให้พ่อค้าไปถูกๆ ดีกว่าถูกห้ามเคลื่อนย้ายโดยไม่ได้นับเงินชดเชย ถ้าปล่อยอย่างนี้มีมาตรการอะไรออกมาก็จะไม่ได้รับความร่วมมือ

สาเหตุหลักที่ทำให้หมูแพงในช่วงนี้เพราะหมูตายจากโรคระบาดไปมากและเกษตรกรไม่กลับมาเลี้ยง ไม่ใช่เกิดจากการกักตุนเนื้อหมู ถึงวันนี้หมูในฉะเชิงเทราตายไปกว่า 80% ชลบุรีอาจ 60-70% จังหวัดที่เลี้ยงหมูมากก็คล้ายกัน นี่เป็นข้อมูลจากเกษตรกรครับ

เมื่อหมูแพงก็ส่งผลให้อาหารแพงซึ่งมาจากของขาดและต้นทุนสูง เป็น cost push และ supply side ไม่ใช่ demand pull แต่ถ้าถึงตรุษจีน demand จะมากขึ้นอีกมาก จะเป็นทั้ง cost push และ demand pull พร้อมๆกัน พูดอย่างนี้ประยุทธ์จะเข้าใจมั้ยนี่

จะแก้ปัญหาต้องรู้สาเหตุ ไม่ใช่พูดจาส่งเดชไปวันๆครับ