ปีเสือ คลื่นยักษ์โหม “เรือเหล็ก”/ลึกแต่ไม่ลับ จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

ปีเสือ คลื่นยักษ์โหม “เรือเหล็ก”

 

“การชิงอำนาจนั้นยาก แต่การรักษาอำนาจยากกว่าหลายเท่า “ดวงเมืองปีขาล 2565 โหรน้อยใหญฟันธงไปในทิศทางเดียวกัน รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะเผชิญปัญหาอย่างหนัก ดาวมฤตยูจะโคจรสัมพันธ์ร้ายกับดาวบาปพระเคราะห์หลายๆ ดวง จะให้โทษมากกว่าคุณ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

รัฐบาลจะเกิดความเสียหาย เกิดความอับโชค ความไม่พอใจของกรรมกร ชาวนา ชาวไร่ จะบานปลาย เคราะห์ใหญ่หลวงจะมาเยือน เกิดความแตกแยก รัฐสภาไม่ราบรื่น กระทบต่อความมั่นคงของประเทศชาติ และอำนาจฝ่ายปกครองเกิดสภาพความแตกพ่าย บ้านเมืองโกลาหล

“สรุปว่า สถานการณ์ปีเสือ 2565 ภาพรวมประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์เลวร้ายกว่าปีวัว 2564 หลายเท่า เก่งแค่ไหนก็มีวันพลาด ฉลาดแค่ไหนก็มีวันแพ้ ทุกอย่างดำเนินตามกฎ ‘อนิจจัง’ เดียวกัน”

“สถานการณ์ขาลง” ต่อยอดดำเนินมาแบบไม่รู้จบ “เรือเหล็ก” ปุโรทั่งมากเข้าทุกขณะ มีโอกาสอับปางในปีนี้สูง เก้าอี้นายกฯ ของ “บิ๊กตู่” กำลังโดนคลื่นยักษ์โหมหนักหลายลูกซ้อน

“วิกฤตโควิด-19 ยังระบาดไม่สิ้นสุด กำลังเผชิญหน้ารอบที่ 5 ตามซ้ำด้วยค่าครองชีพพุ่งปรี๊ดสูงกว่าปีก่อน 20 เปอร์เซ็นต์ 3 ปีที่จมกระเบื้องอยู่กับโรคระบาด รายได้ลดลง รายจ่ายก้าวกระโดด”

เปิดศักราชใหม่ยังไม่ทันไร เจอปัญหาหมูขึ้นราคา ขายปลีกทุบสถิติประวัติศาสตร์สูงเกิน 250 บาท/กิโลกรัม ตามด้วยเนื้อไก่ราคาขึ้น ค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม สรุปค่าครองชีพคนไทยแพงบรรลัย ครบวงจร

ขณะเดียวกันโจทย์ทางการเมืองของรัฐบาล “บิ๊กตู่” ยุ่งอีรุงตุงนังดุจฝอยขัดหม้อ ทั้งการแก้ไขกฎหมายลูก 2 ฉบับ ว่าด้วย พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ความเพียรพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญตัดประเด็นอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี

สุมขอน ทับซ้อนอย่างหนัก รายจ่ายท่วมรายรับกับทุกเรื่อง ทั้งเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม หรืออื่นๆ ผู้สันทัดกรณีทุกสำนักจึงพากันฟันธงว่า “รัฐนาวาตู่” จะชนบังตอพังพาบ ต้องก้าวลงจาก “หลังเสือ” ในปีเสือ

ไปไม่ลามาไม่ไหว้ กับเงื่อนไข “นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นตำแหน่ง”

ปิดข่าวตามกลไกรัฐธรรมนูญ แห่งมาตรา 158 วรรคสี่ การดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี จะเริ่มนับหนึ่งจากวันที่คณะ คสช.ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน นับจากวันโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2557

วันครบ 8 ปีบริบูรณ์จะตรงกับวันที่ 23 สิงหาคม 2565 ซึ่งเหลือเวลาทำการอยู่ราว 6 เดือนเท่านั้นแล้ว

เชื่อขนมกินได้ล่วงหน้าว่า พลันที่ “เหตุเกิดแล้ว” คือ หลังวันที่ 23 สิงหาคม ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น และคณะจะสวมบท “เจ้าภาพจงเจริญ” ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด มาตรฐาน 8 ปีทันทีทันใด

ชนวน “คุณสมบัติครบ 8 ปี” ของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ “พล.อ.ประยุทธ์” เมื่อนำไปสนธิ-ต่อพันธุกรรมกับเงื่อนไขที่ทำให้เกิดสภาพขาลง จากภาวะค่าครองชีพ การแพร่ระบาดโควิดรอบที่ 5 หมูเห็ดเป็ดไก่ขึ้นราคา

ขนมผสมน้ำยา ทำให้เกิดความเชื่อกันว่า “บิ๊กตู่” น่าจะถึงคิวปิดตำนานในปี 2565 แน่นอน

 

หาก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ต้องซาโยนาระก่อนสภาผู้แทนราษฎรครบเทอมในเดือนมีนาคม 2566 เกิดสภาพล้มกลางกระดาน “ทางเลือกใหม่” ในการเฟ้นหาคนหนุ่มสาวที่คุณสมบัติพร้อมเพรียง จากบุคลากรมีความรู้ความสามารถจากภาคเอกชน-รัฐวิสาหกิจที่มีผลงานเชิงประจักษ์ชัดเจน ต่อองค์กร นำมาขับเคลื่อนพัฒนาประเทศ ให้เติบโตรุ่งเรืองเหมือนบริษัทจำกัด ซึ่งเอ่ยนามมาสี่ซ้าห้าคนเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว และส่วนมากขานรับ เพราะเข้ากับยุคสมัย

แต่กรณีที่ “บิ๊กตู่” โดนโป้งปิดบัญชีต้องลงจากหลังเสือก่อนครบเทอม ด้วยปมคุณสมบัติครบ 8 ปี คู่ขนานด้วยเงื่อนไขความล้มเหลวในการบริหารประเทศ ซึ่งรับมือโรคระบาดไม่ได้ ค่าครองชีพอุกฤษฏ์เข้าขั้น แบบไม่เคยมีมาก่อน

“คนรุ่นใหม่” ที่เรียงร้อยมาเมื่อสองสัปดาห์ก่อน จะเข้ามาช่วย “กู้ชาติ” ก้าวมาไม่ทันกาล ต้องเร่งคีย์ ตีจังหวะ เดินตามช่องทางรัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้อยู่ในปัจจุบันก่อน ด้วยการดำเนินการตามมาตรา 272 วรรคหนึ่งที่ระบุไว้ว่า

“ใน 5 ปีแรก การให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องทำการเลือกจากบัญชีชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88”

บัญชีชื่อที่เหลืออยู่ในเวลานี้ ตามไฟต์บังคับ ประกอบด้วย 1. “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” พรรคประชาธิปัตย์ 2. “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” พรรคภูมิใจไทย 3. “นายชัยเกษม นิติสิริ” 4. “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” และ 5. “นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์” จากพรรคเพื่อไทย

โอกาสถือว่ามืดมนอนธการ “ปาฏิหาริย์” เท่านั้นที่จะเกิดจุดเปลี่ยน 5 คนเข้ามาได้

กรณีที่ “ช่องทางที่ 1” อุดตันแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ไม่ว่าด้วยเหตุใด และสมาชิกของทั้งสองสภารวมกันจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาเข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา “ขอให้รัฐสภามีมติยกเว้น”

กรณีเช่นนั้นให้ประธานจัดประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยพลัน และในกรณีที่รัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ให้ยกเว้นได้ ให้ดำเนินการตามวรรคหนึ่งต่อไป โดยจะเสนอชื่อผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา88 หรือไม่ก็ได้

“ช่องทางที่ 2” เปิดโอกาสให้คนนอกบัญชีชื่อที่พรรคการเมืองเสนอหรือไม่ก็ได้ จะเป็น ส.ส.ธรรมดา หรือคนนอกวงการก็ได้ แต่ต้องได้รับเสียงสนับสนุนจาก 2 สภารวมกันเกิน 500 เสียง ก็สามารถเบียดแทรกเข้าไปเป็นนายกรัฐมนตรีขัดตาทัพชั่วคราวแทน “พล.อ.ประยุทธ์”

และสามารถตีกรรเชียงไปจบครบเทอมถึงเดือนมีนาคม 2566 ได้

แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสมาชิกท่วมท้น และสภาล่างเกินครึ่ง

“คนนอก” ที่มีจุดลงตัว พูดถึงกันมากที่สุดในชั่วโมงนี้ ชื่อ “ส.เสือ” คุณสมบัติโป๊ะเชะทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ

อย่าตั้งคำถามว่า มาไหวหรือ ต้องถามว่า “มาอย่างไร”