E-DUANG : เลศนัย ซับซ้อน ข่าวทหารร้อยคน ลุยเข้าพื้นที่ เลือกตั้งซ่อม “ชุมพร”

การขยายภาพของทหารกว่า 100 คนถูกส่งลงไปในพื้นที่เลือกตั้งซ่อม เขต 1 ชุมพร โดยคนของพรรคประชาธิปัตย์ กำลังได้รับความ สนใจติดตามเป็นอย่างสูง

ไม่ว่าจะเป็น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ไม่ว่าจะเป็น นายเทพ ไท เสนพงศ์ ล้วนมากด้วยความคึกคัก

คึกคักถึงขนาดเดินหน้าชน พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 อย่างไม่เกรงใจ คึกคักถึงขนาดออกมาเรียกร้องให้คืนความเป็น ธรรมให้กับ”ลูกหมี”

อย่าได้แปลกใจที่แม้จะมีการปฏิเสธอย่างรวดเร็วจากกองทัพภาคที่ 4 เพราะข้อมูลที่มีการปล่อยออกมาระลอกที่ 2 เป็นข้อมูลอันเด่นชัดยิ่งว่า ทหาร 100 คนที่เป็นข่าวมิได้เป็นของกองทัพภาคที่ 4

ตรงกันข้าม ปฎิบัติการภายใต้การนำของ”เสธ. ต.”ในที่นี้กลับ เป็นเครือข่ายของทหารจากกองทัพภาคที่ 2 และดำเนินไปเพื่อประ 

โยชน์ทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐอย่างเด่นชัด

ทั้งหมดนี้จึงสะท้อนให้เห็นความสันทัดจัดเจนอย่างมีลักษณะ พิเศษของพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง

 

ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ยึดครองพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่ชุมพรลงไปถึงสงขลา โดยเฉพาะนับแต่ นายชวน หลีกภัย ดำรงตำแหน่ง เป็นหัวหน้าพรรค

ความหมายของการยึดครองพื้นที่ย่อมครอบคลุมไปถึงทั้งด้านพลเรือน ตำรวจและทหารโดยอัตโนมัติ

มีหรือที่นักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มักคุ้นกับตำรวจ มีหรือที่นักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มักคุ้นกับฝ่ายพลเรือนที่ผัดเปลี่ยนกันเข้ามาดำรงตำแหน่ง

ยิ่งกว่านั้นคนที่เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 หากไม่โอภาปราศรัยกับนัก การเมืองของพรรคประชาธิปัตย์มีหรือที่จะดำรงตำแหน่งได้ราบรื่น

เพียง 1 วันหลังกองทัพภาคที่ 4 ปฏิเสธข้อมูล”เสธ.ต.”ก็ปรากฏ

 

พลันที่กรณีมีการส่งทหารกว่า 100 คนลงไปในพื้นที่เลือกตั้งซ่อมเขต 1ชุมพร ทุกสายตาย่อมทอดมองไปยังพรรคพลังประชารัฐ

มิได้มองไปยัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง

ตรงกันข้าม เป็นการมองไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มองไปยัง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา และมองไปยัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

เห็นหรือยังว่าพรรคประชาธิปัตย์จัดเจนอย่างยิ่งในเรื่องแบบนี้