คุยกับทูต แร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน ไทย-ดัตช์ สายสัมพันธ์สี่ศตวรรษ (ตอนจบ)

 

คุยกับทูต แร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน

ไทย-ดัตช์ สายสัมพันธ์สี่ศตวรรษ (ตอนจบ)

 

แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ มีพลเมือง 17.5 ล้านคน พื้นที่ประเทศ 41,543 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าพื้นที่ประเทศไทย 12 เท่า แต่เนเธอร์แลนด์กลับเป็นประเทศที่สามารถสร้างสิ่งที่สำคัญให้แก่โลก

หนึ่งในรากฐานที่สำคัญในการพัฒนานวัตกรรมของเนเธอร์แลนด์มาจากการให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษา นวัตกรรมเด่นๆ ที่เกิดขึ้นจากประเทศแห่งนี้ได้แก่ นวัตกรรมทางด้านการเงิน การลงทุนนวัตกรรมเกี่ยวกับภาคเกษตรกรรม

นายแร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน (H.E. Mr. Remco Johannes van Wijngaarden) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ประจำราชอาณาจักรไทย

โดยชาวดัตช์มีความเชี่ยวชาญเรื่องการจัดการน้ำและการชลประทานมาอย่างยาวนานจากการที่มีพื้นที่กว่า 1 ใน 3 อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ซึ่งต่อยอดมาเป็นเกษตรกรรมล้ำสมัยในปัจจุบัน และสามารถส่งออกสินค้าเกษตรโดยมีมูลค่ามากสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ เนเธอร์แลนด์ยังคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมอีกหลายอย่างที่มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคนบนโลกใบนี้ตั้งแต่อดีตเรื่อยมา เช่น กล้องไมโครสโคป เทปคาสเส็ต สัญญาณ Bluetooth สัญญาณ Wi-Fi เป็นต้น

จากการที่คนดัตช์มีความเป็นนักธุรกิจอยู่ในสายเลือด มีการศึกษาที่ดี สามารถสื่อสารได้หลายภาษา ทำให้เป็นส่วนที่ดีในการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ ที่เห็นได้ชัดคือจำนวนบริษัทต่างชาติที่เข้าไปตั้งสำนักงานในเนเธอร์แลนด์มีเพิ่มขึ้นทุกปี

ถึงแม้ว่าค่าจ้างแรงงานค่อนข้างสูง แต่นักลงทุนต่างชาติก็มีข้อได้เปรียบอื่นที่คิดว่าคุ้มกับการลงทุนในเรื่องภาษีรายได้ และการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบให้ยืดหยุ่นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

 

สถานทูตเนเธอร์แลนด์ร่วมแสดงความยินดีกับหอการค้าเนเธอร์แลนด์-ไทยสครบรอบ 30 ปี, ชุมชนชาวดัตช์ในไทยครบรอบ 80 ปี และ Thailand Zakelijk ครบรอบ 10 ปี

 

เอกอัครราชทูตดัตช์พบกับองค์กรดัตช์ในประเทศไทย ได้แก่ สมาคมชาวดัตช์ (NVT), หอการค้าเนเธอร์แลนด์-ไทย (NTCC), Stichting Thailand Zakelijk และ โรงเรียนดัตช์ Nederlandse School Bangkok
สถานทูตเนเธอร์แลนด์ร่วมการรณรงค์ทั่วโลกในวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล

 

“มีบริษัทดัตช์ระดับคุณภาพตั้งอยู่ในประเทศไทยมากมาย ซึ่งผมไม่สามารถเอ่ยนามได้ทั้งหมด แต่อยากพูดถึงองค์กรที่ให้การสนับสนุนบริษัทดัตช์ที่ประเทศไทย ได้แก่ หอการค้าไทยแห่งเนเธอร์แลนด์ (The Netherlands-Thai Chamber of Commerce Bangkok) และบริษัท Thailand Zakelijk ซึ่งเป็นสององค์กรที่มีบทบาทอย่างแข็งขันในการนำบริษัทดัตช์เหล่านี้มารวมกันร่วมกับสถานทูต และเราหวังว่าจะสร้างระบบขึ้นเพื่อสนับสนุนบริษัทดัตช์ในประเทศไทย ตลอดจนผู้ที่สนใจทำธุรกิจในประเทศไทย”

นายแร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน (H.E. Mr. Remco Johannes van Wijngaarden) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ประจำราชอาณาจักรไทย ชี้แจง

“ประเทศไทยและเนเธอร์แลนด์เป็นพันธมิตรที่สามารถแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันได้ โดยมุ่งสร้างประสิทธิผลของการทำงานร่วมกัน เชื่อมโยงกับความท้าทายของเรา ที่ต่างมีพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำซึ่งมีประชากรหนาแน่น ต่างเป็นผู้ผลิตทางการเกษตรรายใหญ่ ต่างเผชิญกับความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และต่างก็เป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาคของตน ดังที่กล่าวมาแล้วในบทก่อน”

“นอกจากนี้ เนเธอร์แลนด์ยังเป็นพันธมิตรระดับโลกที่ให้การสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนและครอบคลุม เรามีความรู้และประสบการณ์มากมาย เช่น การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change adaptation) เศรษฐกิจหมุนเวียน การแปลงข้อมูลไปสู่รูปแบบดิจิตอล (digitization) และห่วงโซ่คุณค่าโลกเพื่อความยั่งยืน (Global Value Chains : GVCs)”

นายแร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน (H.E. Mr. Remco Johannes van Wijngaarden) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ประจำราชอาณาจักรไทย

“ในขณะที่ประเทศไทยวางโมเดล Bio-Circular-Green (BCG) ไว้ในแนวหน้าของการกำหนดนโยบาย ผมเชื่อว่าวิธีการของเราสามารถมีส่วนสนับสนุนพื้นที่เชิงกลยุทธ์ของ BCG เช่น ในด้านอาหารและการเกษตร การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในห่วงโซ่คุณค่าของโลกเนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ความชอบของผู้บริโภค และการแปลงเป็นดิจิตอล”

“จึงเป็นโอกาสของความร่วมมือสำหรับผู้ผลิตอาหารชาวไทยและชาวดัตช์ในการออกแบบห่วงโซ่คุณค่าอาหารใหม่ร่วมกัน เพื่อป้องกันการสูญเสียอาหารหลังการเก็บเกี่ยว การปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และการแปลงภาคเกษตรให้เป็นดิจิตอล”

เมื่อต้นปีนี้ (2021) ประเทศไทยโดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ ‘โมเดลเศรษฐกิจ BCG’ หรือการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model) เป็น ‘วาระแห่งชาติ’ ที่จะพาไทยไปสู่เป้าหมายของการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

เอกอัครราชทูตแร็มโกพบกับนายกสมาคมศิษย์เก่าเนเธอร์แลนด์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีสมาชิกศิษย์เก่าราว 400 คน

 

เอกอัครราชทูตแร็มโกมอบสาส์นตราตั้งอย่างเป็นทางการให้กับเอกอัครราชทูตลาว โดยหวังว่าจะได้มีโอกาสไปเยือน สปป.ลาวในเร็ววันนี้

 

เอกอัครราชทูตแร็มโกมอบสำเนาสาส์นตราตั้งให้กับเอกอัครราชทูตกัมพูชา โดยหวังว่าจะได้มีโอกาสไปเยือนกัมพูชาเพื่อถวายสาส์นตราตั้งอย่างเป็นทางการต่อพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาในเร็ววันนี้

 

ถามถึงงานอดิเรกหรือกิจกรรมยามว่าง

“ผมเป็นคุณพ่อลูกเล็กๆ สามคน งานอดิเรกของผมคือลูกๆ และสามี ในฐานะนักการทูต ผมจึงค่อนข้างยุ่ง ถ้าผมว่าง ผมก็พยายามจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัว เรียกว่าเป็น family man จริงๆ และก็ชอบที่จะสำรวจกรุงเทพฯ ผ่านอาหาร”

“การไปสำรวจร้านอาหารข้างทาง (Street Food) ในกรุงเทพฯ ถือเป็นงานอดิเรกที่ผมสนใจมากอีกอย่างหนึ่ง เราจึงออกไปเที่ยวกันทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ตามถนนหนทางต่างๆ เพื่อหาของอร่อยๆ รับประทานกัน เพราะเราชอบอาหารไทยมาก และบริเวณรอบๆ สถานทูตก็มีร้านอาหารข้างทางอร่อยหลายร้านทีเดียว”

เอกอัครราชทูต Remco van Wijngaarden ได้ร่วมพิธีวางพวงมาลาณ สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก” หรือ “สุสานทหารสหประชาชาติ จังหวัดกาญจนบุรี

 

เอกอัครราชทูตดัตช์ถ่ายภาพ กับทางรถไฟสายมรณะ หรือ ทางรถไฟสายพม่า หรือ ทางรถไฟสายกาญจนบุรี

“แน่นอนที่สุด เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ ใหม่ๆ เมื่อเดือนกันยายน เราก็ได้ไปชิมอาหารไทยที่ร้านอาหารข้างทางชื่อดังเป็นอันดับแรก ได้ไปเจอคนที่มีชื่อเสียงมาที่นี่กันมากมาย อาหารไทยที่ผมชอบคือปูผัดผงกะหรี่ และอีกหลายอย่างที่ไม่เผ็ดมาก เช่น ต้มยำกุ้ง ผัดไทย ก๋วยเตี๋ยวต่างๆ”

“การออกกำลังกายของผมคือการวิ่ง ในเส้นทางที่หลายๆ คนเรียกกันว่าสะพานเขียว เป็นเส้นทางวิ่งและปั่นจักรยานลอยฟ้าสวนลุมฯ-สวนเบญจกิติ ผมพาสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) ของผมไปวิ่งด้วย”

“อย่างที่ได้พูดไปก่อนหน้านี้ ผมมีความสุขมากที่ได้มาอยู่ที่ประเทศไทย รอคอยที่จะพบปะผู้คนในประเทศไทยให้มากที่สุดและทำความรู้จักประเทศไทยให้มากขึ้นกว่าตอนนี้ ผมเพิ่งมาที่นี่ไม่กี่สัปดาห์ ดังนั้น ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะผ่านพ้นไป เราจะได้เริ่มออกไปพบปะผู้คนและจัดกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้นในประเทศไทย”

นายแร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน (H.E. Mr. Remco Johannes van Wijngaarden) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ประจำราชอาณาจักรไทย

“ผมระลึกเสมอว่า ประเทศของเราทั้งสองมีความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งมาก ย้อนไปในปี 1604 ที่เรามีภารกิจแรกคือการค้าขายที่อยุธยา ดังนั้น เราจึงมีความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ยาวนานมากระหว่างสองราชอาณาจักร ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นตัวแทนของราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ในราชอาณาจักรไทย”

ก่อนจบการสนทนา นายแร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน กล่าวถึงความคาดหวังในอนาคตอันใกล้ในฐานะเอกอัครราชทูตดัตช์คนใหม่ประจำประเทศไทย

“จากการที่ไทยเริ่มเปิดประเทศแบบค่อยเป็นค่อยไป เราจึงมีความหวังว่าจะสามารถเดินหน้าได้มากกว่าในปีที่ผ่านมาอันเนื่องจากการระบาดใหญ่ เป้าหมายในระยะสั้น เป็นการเดินทางไปยังชุมชนและบริษัทดัตช์ต่างๆ ที่ตั้งอยู่นอกกรุงเทพฯ ส่วนในระยะยาว เราหวังว่าจะสามารถจัดงานต่างๆ เพื่อโอกาสในการนำชาวดัตช์และชาวไทย ทั้งจากภาครัฐและเอกชนให้มาพบปะกัน ส่วนงานหลักของสถานทูตยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่เปลี่ยนแปลงในการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีกับประเทศไทย รวมทั้งให้การสนับสนุนชาวดัตช์และบริษัทดัตช์ในประเทศไทย”

 

 

ประวัติ

นายแร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน

เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ประจำราชอาณาจักรไทย

 

เกิด : 14 พฤษภาคม 1966 ณ เมืองอาเพลโดร์น (Apeldoorn) ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์

การศึกษา : โรงเรียนนานาชาติฝรั่งเศส (Lyçée Français de Tananarive) ใน อันตานานาริโว สาธารณรัฐมาดากัสการ์ (Madagascar) ปี 1984; เศรษฐศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมาสทริชท์ (University Maastricht) เมืองมาสทริชท์ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ปี 1992

สถานภาพ : สมรสกับคาร์เตอร์ เอกซ์ ดวง (Carter X. Duong) มีบุตรธิดา 3 คน

 

ประสบการณ์การทำงาน

2021- ปัจจุบัน : เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ประจำราชอาณาจักรไทย สปป.ลาว และกัมพูชา

2018-2021 : กงสุลใหญ่ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน

2013-2018 : หัวหน้าฝ่ายกงสุล กรมการกงสุลและนโยบายการตรวจลงตรา ณ กรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์

2009-2013 : ผู้ประสานงานด้านงบประมาณ กรมเศรษฐกิจและการเงิน ณ กรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์

2007-2009 : ที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบาย สำนักป้องกันและฟื้นฟูวิกฤต โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

2006-2007 : ที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบาย สำนักงานป้องกันและฟื้นฟูวิกฤต โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ณ เมืองเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์

2002-2005 : เลขานุการเอก ฝ่ายการเมือง สถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ณ กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย

1999-2002 : ที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบาย อธิบดีกรมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์

1999-1999 : ผู้ช่วยองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ณ กรุงพริชตีนา สาธารณรัฐคอซอวอ

1996-1999 : เลขานุการโท สถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ เมืองลากอส ไนจีเรีย

1993-1996 : ที่ปรึกษาด้านโยบาย กรมแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง ณ กรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์