ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีที่ ศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่คำวินิจฉัยเกี่ยวกับมาตรา 1448 ว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ พร้อมกับให้เหตุผลด้าน จารีตประเพณี และ การสืบสายโลหิต ในการดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางบนสื่อโซเชียลมีเดีย โดยกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศต่างรู้สึกว่าคำวินิจฉัยนี้ลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์

 

คำวินิจฉัยดังกล่าวไม่เพียงแต่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในประเทศ แต่เป็นสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องตอบต่อชาวโลก

 

หากเราจะมองข้ามเรื่องสิทธิเพื่อพูดเรื่อง #มวลมนุษยชาติ เป็นภาพใหญ่แล้วนั้น การดำรงอยู่และการสืบพันธุ์เป็นเรื่องที่ปฎิเสธไม่ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนทุกเพศเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่มีความหมายต่อกัน เพราะติดจากการสืบสายโลหิตแล้ว ชายหญิงและกลุ่มบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศสามารถสร้างครอบครัวด้วย #สายสัมพันธ์ และสายสัมพันธ์ที่ไม่เกาะเกี่ยวกับสายโลหิตนั้นเป็นสัญลักษณ์สำคัญว่าโลกใบนี้ยังต้องมีการ “แบ่งปัน”

 

ธัญวัจน์ ระบุเพิ่มเติมว่า การสืบพันธุ์เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญ แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่า การดำรงอยู่ของวัฒนธรรมและการแบ่งปันด้านเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่จะอุ้มชูให้สังคมยังอบอุ่นและอบอวลไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ มีเด็กจำนวนมากที่เกิดมาและมีพ่อแม่ที่ไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดู หากเรามีหัวใจแบ่งปัน เราจะเห็นกลุ่มบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศนั้นพร้อมที่จะดูแลเด็กเหล่านั้น ถึงแม้พวกเขาไม่ใช่สายเลือด ดังนั้น เราจะเลือกดำรงอยู่ด้วยคำคำไหน ระหว่าง “เลือดข้นกว่าน้ำ” หรือ “รักไม่มีเงื่อนไข”

 

ความรักที่เกิดขึ้นจากความผูกพันและแบ่งปันจะไม่ถูกให้คุณค่ามากกว่าการสืบสายโลหิตอย่างนั้นหรือ เพราะคนเราทุกคนมีเหตุผลที่สำคัญคือความรักที่ในบางครั้งก็เหนือกว่าคำว่าสายโลหิต หากประเทศไทยเปิดกว้างและมีความเข้าใจนี้อาจจะเป็นการเปลี่ยนมุมมองด้านความรัก และความเข้าใจที่ไม่มีเงื่อนไข

 

สิ่งนี้เองขาดไม่ได้ถ้าเราพูดถึงมวลมนุษย์ชาติ และความมั่นคงของมนุษย์ต้องเกิดจากการสืบสายโลหิตและสายสัมพันธ์ที่แยกจากกันไม่ได้ ธัญวัจน์กล่าวทิ้งท้าย