ทราย เจริญปุระ : ท่ามกลาง “สายฝนเศษแก้ว”

"เศษเสี้ยวของเธอ" (Pieces of You) เขียนโดย แดเนียล อาร์มันด์ ลี แปลโดย ทศพล ศรีพุ่ม ฉบับพิมพ์ครั้งแรกโดย ไจไจบุ๊คส์ กรกฎาคม, 2560

ในบางวัน

ความรู้สึกเกลียดตัวเองเอ่อท้นอัดแน่นจนเหมือนจะซึมออกมาทางรูขุมขน

จะพูดออกมาก็กลับสำลักความโศกเศร้าหดหู่ที่ทะลักออกมาทางริมฝีปาก

เหลือเพียงแค่เสียงพึมพำไร้ความหมาย หดบีบตัวให้เล็กที่สุดเป็นฝุ่นดาวล่องลอยในจักรวาล

ไม่มีประโยคอะไรจะพูด บอกไปก็ต้องมีคนเสนอวิธีแก้ที่เราไม่มีวันทำได้

บอกไปก็ต้องได้รับคำตอบว่าไม่ใช่เธอเพียงคนเดียวที่มีปัญหา ฉันก็มีเหมือนกัน

ฉันขอโทษที่ฉันบังอาจมีปัญหา

ความรู้สึกของคนบ้าย่อมเป็นเรื่องเกินมือ

เพราะถ้ามันง่ายขนาดนั้นฉันคงสบายดีและไม่ต้องกินยา

 

สุดท้ายเราก็บอกใครไม่ได้

แม้แต่คนที่เราคิดว่าคงเข้าใจ

ความปกติหรือไม่ถูกวัดค่าแค่รอยยิ้ม ถ้าเขาเห็นเรายิ้ม เขาจะไม่มีวันรู้ว่าข้างในเราแหลกสลาย

เขาจะไม่มีวันรู้ว่าแค่ดึงมุมปากหยักยกนั้นรีดพลังเอาจากทุกอณูในร่างกาย

ยิ้มไว้

ยิ้มไว้

จะให้ใครมารู้ไม่ได้

เพราะหากเขารู้ เขาจะตัดสินทันทีว่าเรื่องของเรามันไม่สำคัญ

และเราจะรู้ทันทีเมื่อเราไม่สำคัญ

เราไม่มีค่าอะไร

เพราะถึงแม้ทุกอย่างในร่างกายจะชำรุดบกพร่อง

แต่เครื่องวัดความรู้สึกเช่นนี้ไม่เคยพลาด

ไม่เลย ไม่เคยสักครั้งที่มันจะวัดความหมายของการถอนหายใจ การมองไปทางอื่น หรือการเปลี่ยนเรื่องได้ผิดพลาด

มันตรวจตราทุกเสียงพึมพำ ทุกการเหลือบมอง ประมวลผลและแปลความหมายในเสี้ยววินาที

มันทำงานได้ดีและเจริญงอกงามอยู่บนความผุพังของประสาทสัมผัสอื่นๆ ในร่างกาย

“บางที ฝนไม่ได้ตกสำหรับคุณ แต่ฝนตกตลอดเวลา สำหรับฉัน ท้องฟ้าแตกร้าวและโปรยเศษแก้วลงมา”

“ฟังดูเจ็บปวดนะ”

“ไม่เลย มันงดงามต่างหาก”*

 

ความหมกมุ่นอันเป็นพิษนี้ไม่ได้เติบโตขึ้นในชั่วข้ามคืน

มันค่อยๆ แทงรากหยั่งฝังตัวลงไป งอกงามระบัดใบ แผ่ยึดครอบคลุมทุกตารางนิ้วขององคาพยพ

สุดท้ายแล้วเราจะกลายเป็นคนอีกคนหนึ่ง

คนแบบที่เราเป็นจริงๆ

ต้นไม้พิษนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเรา กระซิบกระซาบที่ข้างหูว่าอย่ามองออกไปข้างนอกเลย เรามาอยู่ด้วยกันเช่นนี้ดีกว่า

โลกภายนอกล้วนแปลกปลอม เราแค่ออกไปหาผลประโยชน์จากมัน เก็บเกี่ยวเอาสิ่งที่เจอมารดรากต้นไม้พิษ บทสนทนากลายเป็นการตั้งค่าสำเร็จรูป ถามแบบนั้นต้องตอบไปแบบนี้ ถ้าคำถามนี้แปลว่าต้องยิ้มให้ สวัสดีลาก่อนแล้วแยกย้ายจากกันไป

“เราแต่ละคนล้วนแตกต่าง แตกต่างกันอย่างมากมาย เราดิ้นรนแตกแยกออกเป็นเศษเสี้ยวกระจัดกระจาย เพื่อกลับมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว”*

 

เราจะเข้าใจชีวิตมากขึ้นกว่านี้ไหมในวันพรุ่งนี้?

เราควรรอคอยมันด้วยความรู้สึกเช่นไร?

ความหวังที่จะอยู่ร่วมกับต้นไม้พิษหรือโค่นมันทิ้งไป ถ้ามันจากไปแล้วเราจะยังเหลือความเป็นตัวเราอยู่หรือเปล่า เสียงฝนที่ตกโปรยลงบนบ่อน้ำจะมีความหมายเช่นวันนี้หรือไม่ หรือจะเป็นเพียงกลไกทางธรรมชาติที่ผ่านมาแล้วจากไปไร้ความสำคัญ เป็นเพียงเรื่องเรื่องหนึ่งที่เราพร้อมจะลืมมันไปเมื่อพรุ่งนี้มาถึง

หรือจะปล่อยให้มันตกกระหน่ำเปียกปอนร่างกายเราอย่างนี้ไปตลอดกาล

“รู้อะไรมั้ย” ไมค์เอ่ย

ผมตอบโดยไม่หันไป “อะไร?”

“ทุกครั้งที่กูจอดตรงป้ายหยุด กูไม่ได้คิดถึงเส้นทางที่ผ่านมา” เขาพูด “กูแค่หวังว่า กูจะไม่ต้องหยุดตั้งแต่แรกเลย”*
—————————————————————————————-
*ข้อความจากในหนังสือ